บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5: รอยร้าว

วันอังคาร, 07:00 น.

บ้านของมีนา

มีนานั่งอยู่ที่ขอบเตียงตั้งแต่หกโมงเช้า เธอนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน ภาพของนนท์ที่แสดงบทบาทแฟนหนุ่มผู้แสนดีวนเวียนอยู่ในหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันดูสมบูรณ์แบบ... สมบูรณ์แบบเกินไป

เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรคิดมาก ตะวันกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต สิ่งสุดท้ายที่เพื่อนต้องการคือความห่วงใยจากคนรักของเธอ แต่สัญชาตญาณบางอย่างในใจของมีนากรีดร้องว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง อ้อมกอดที่ดูแข็งทื่อ, คำพูดที่เหมือนท่องจำมา, และที่สำคัญที่สุด... การเหลือบมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่บนโต๊ะแวบนั้น สายตาของนนท์ในตอนนั้นไม่มีความรำคาญ แต่มีความตื่นตระหนกเล็กๆ เจือปนอยู่

"เราอาจจะคิดไปเอง" เธอบอกกับตัวเองเป็นครั้งที่สิบในเช้านี้

แต่เธอก็ไม่เคยเชื่อคำพูดนั้นเลยสักครั้ง

ด้วยความรู้สึกผิดและอยากรู้อย่างห้ามไม่ได้ มีนาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา เธอเปิดแอป

พลิเคชันอินสตาแกรมแล้วค้นหาบัญชีของนนท์ โปรไฟล์ของเขาตั้งเป็นสาธารณะ ภาพที่เรียงรายอยู่คือภาพชีวิตที่น่าอิจฉา: ภาพร้านอาหารหรู, ภาพไปเที่ยวต่างจังหวัด, และแน่นอน... ภาพคู่กับตะวันที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม คำบรรยายใต้ภาพแต่ละภาพหวานเลี่ยนและเต็มไปด้วยคำบอกรัก

ทุกอย่างดูปกติ... ปกติจนน่าประหลาดใจ

มีนาเลื่อนนิ้วดูรายชื่อคนที่นนท์เพิ่งกดติดตามล่าสุด ส่วนใหญ่เป็นบัญชีเกี่ยวกับรถยนต์, การลงทุน, และเพื่อนผู้ชายของเขา แต่แล้วเธอก็สะดุดเข้ากับชื่อหนึ่ง บัญชีโปรไฟล์ของผู้หญิงที่ดูสวยและแต่งตัวเก่งมากคนหนึ่ง รูปโปรไฟล์ของเธอคือรูปที่ถ่ายในร้านกาแฟหรูแห่งหนึ่ง มีนาเลื่อนเข้าไปดูในหน้าโปรไฟล์ของเธอ

เธอไล่ดูรูปภาพต่างๆ อย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เป็นรูปไลฟ์สไตล์ทั่วไป จนกระทั่งเธอหยุดที่รูปหนึ่ง...

เป็นรูปแก้วกาแฟสองใบวางอยู่บนโต๊ะ ถ่ายจากมุมบน คำบรรยายใต้ภาพเขียนว่า "Afternoon delight." ไม่มีอะไรน่าสงสัย... ยกเว้นแต่นาฬิกาข้อมือของผู้ชายที่ติดเข้ามาในมุมภาพเล็กน้อย มีนาขยายรูปนั้นดู มันเป็นนาฬิกาสายหนังสีน้ำตาลเข้ม... เหมือนกับเรือนที่นนท์ใส่เมื่อคืนไม่มีผิด

หัวใจของมีนาเต้นแรงขึ้นมาหนึ่งจังหวะ มันอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้ ผู้ชายมากมายก็ใส่นาฬิกาแบบนี้

เธอเลื่อนดูคอมเมนต์ใต้ภาพนั้น... ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ ของผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาแซว แต่แล้วเธอก็เห็นคอมเมนต์หนึ่งจากบัญชีที่คุ้นตา... บัญชีของนนท์นั่นเอง

เขาคอมเมนต์แค่อิโมจิรูปหน้าขยิบตาเท่านั้น

แค่นั้นจริงๆ... แต่มันก็มากพอที่จะทำให้ความสงสัยของมีนาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนขึ้น

วันเดียวกัน, 11:00 น.

คอนโดของตะวัน

ตะวันใช้เวลาทั้งวันอยู่ในชุดนอน เธอนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย เธอยังไม่ได้แตะต้องอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะเลย

คำพูดให้กำลังใจของนนท์เมื่อคืนยังคงเป็นเหมือนแสงสว่างริบหรี่เดียวที่เหลืออยู่สำหรับเธอ เขาสัญญาว่าจะอยู่ข้างๆ เธอ เขาจะช่วยเธอ... ความคิดนั้นทำให้เธอพอจะมีแรงหายใจต่อไปได้

เธอพยายามสวดภาวนา แต่ในหัวกลับว่างเปล่า เธอจึงทำได้แค่นั่งนิ่งๆ รอคอย... รอคอยการติดต่อจากนนท์ หรือรอคอยคำตัดสินจากบริษัท

เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น ตะวันสะดุ้งสุดตัว เธอรีบคว้ามันขึ้นมาดูด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

"ฝ่ายบุคคล"

ไม่ใช่ชื่อของนนท์ แต่ก็เป็นสายที่เธอต้องรับอยู่ดี

"สวัสดีค่ะ" เธอพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

"คุณตะวัน วรโชติ ใช่ไหมคะ" เสียงผู้หญิงที่ฟังดูเป็นทางการดังมาจากปลายสาย

"ใช่ค่ะ"

"ดิฉันโทรมาจากฝ่ายบุคคลของบริษัทนะคะ ขอแจ้งให้ทราบว่า จากผลการสอบสวนเบื้องต้นของคณะกรรมการเกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟล์งานสำคัญได้รับความเสียหาย ทางคณะกรรมการได้มีมติ... ให้คุณพ้นสภาพการเป็นพนักงานค่ะ โดยมีผลทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"

ทุกคำพูดชัดเจนและไร้ความรู้สึกใดๆ

"พ้นสภาพ... หมายความว่า..." ตะวันถามกลับไปเสียงแผ่วเบา แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว

"บริษัทจำเป็นต้องให้คุณออกจากงานค่ะ ส่วนรายละเอียดเรื่องเงินชดเชยและเอกสารต่างๆ ทางเราจะจัดส่งให้ทาง email นะคะ ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ"

ปลายสายตัดไป

โทรศัพท์มือถือร่วงหล่นจากมือของตะวันลงบนพรมหนาข้างโซฟาโดยไม่มีเสียง ความหวังริบหรี่เส้นสุดท้ายที่เธอพยายามยึดไว้ได้ขาดลงแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้วจริงๆ เธอไม่ได้แค่ถูกพักงาน แต่เธอถูกไล่ออก... ถูกตีตราว่าเป็นคนผิดอย่างสมบูรณ์

เธอทรุดตัวลงนั่งบนพื้น ความรู้สึกมันหนักหน่วงเกินกว่าจะร้องไห้ออกมาได้ ในหัวของเธอขาวโพลนไปหมด เธอต้องการใครสักคน... เธอต้องการนนท์

เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาเขา

สายแรก... ไม่มีคนรับสาย

เธอรออยู่ห้านาทีแล้วกดโทรออกอีกครั้ง

สายที่สอง... ยังคงไม่มีคนรับสายเช่นเดิม

ความกลัวเริ่มเข้ามาแทนที่ความว่างเปล่า หรือว่าเขาจะติดประชุมจริงๆ อย่างที่บอกเมื่อคืน? หรือว่า... เขาจงใจไม่รับสายเธอ?

เธอตัดสินใจส่งข้อความไปหาเขาแทน

ตะวัน: นนท์คะ... บริษัทไล่ตะวันออกแล้วค่ะ

เธอจ้องหน้าจอ รอคอยการตอบกลับอย่างใจจดใจจ่อ ผ่านไปสิบนาที... สิบห้านาที... ยี่สิบนาที... ก็ยังคงเงียบสนิท

จนกระทั่งมีข้อความตอบกลับมา

นนท์: เพิ่งออกจากห้องประชุม มีอะไรเหรอ

หัวใจของตะวันกระตุก เขาเห็นข้อความของเธอแล้ว แต่กลับแกล้งทำเป็นไม่เห็น

ตะวัน: ตะวันเพิ่งโดนไล่ออกจริงๆ ค่ะนนท์... นนท์โทรกลับมาหาตะวันหน่อยได้ไหมคะ ตะวันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

เธอรออีกครั้ง คราวนี้ไม่นานเท่าเดิม โทรศัพท์ของเธอก็สั่นขึ้น ชื่อของ "นนท์" ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เธอรีบกดรับสายทันที

"นนท์คะ!"

"ผมเห็นข้อความแล้ว" เสียงของนนท์ที่ได้ยินนั้นเปลี่ยนไป มันไม่มีความห่วงใยเหมือนเมื่อคืน แต่กลับมีความเหนื่อยหน่ายเจือปนอยู่ "เสียใจด้วยนะตะวัน"

"นนท์... ตะวันควรทำยังไงดีคะ"

"ตะวัน..." เขาถอนหายใจยาว "ผม... ผมไม่คิดว่าผมจะช่วยอะไรคุณได้นะ"

"หมายความว่ายังไงคะ" ความรู้สึกเย็นวาบแล่นไปทั่วร่างกายของเธอ

"ผมหมายความว่า... ผมคงจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้"

"ทำไมล่ะคะ! นนท์บอกเองว่าจะอยู่ข้างๆ ตะวัน!"

"ผมรู้ว่าผมพูดอะไรไป" เสียงของนนท์เริ่มแข็งขึ้น "แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนี้ ตะวัน... ผมว่าเรื่องของเรา... มันคงต้องจบลงแค่นี้"

"ไม่... ไม่จริงใช่ไหมคะ" ตะวันพูดเสียงสั่น "นนท์ล้อตะวันเล่นใช่ไหม"

"ผมไม่ได้ล้อเล่น" เขาสวนกลับมาทันที "ผมจริงจัง ผมรับมือกับเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ไหว คุณไม่ใช่ตะวันคนเดิมที่ผมเคยรู้จักอีกแล้ว คุณมีแต่ปัญหาและความเครียด ผมทนไม่ได้"

ทุกคำพูดของเขาเหมือนก้อนหินที่ถูกขว้างเข้ามาใส่เธออย่างไม่ยั้ง

"ได้โปรดเถอะค่ะนนท์... อย่าทิ้งตะวันไปในเวลาแบบนี้เลยนะคะ" เธอวิงวอนเป็นครั้งสุดท้าย

"ผมตัดสินใจแล้วตะวัน... เราเลิกกันเถอะ"

ปลายสายตัดไป

ตะวันยังคงถือโทรศัพท์ค้างไว้แนบหู เธอได้ยินแต่เสียงสัญญาณที่ดัง ตู๊ด... ตู๊ด... ตู๊ด...

โทรศัพท์ร่วงหล่นจากมือของเธออีกครั้งหนึ่ง

เธอทรุดตัวลงนอนขดอยู่บนพรม ความเจ็บปวดครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนหลายเท่า มันไม่ใช่แค่การสูญเสียงาน... แต่มันคือการสูญเสียโลกทั้งใบ

เธอจ้องมองเพดานห้องที่กำลังมืดลงช้าๆ น้ำตาไม่ไหลออกมาสักหยด ในใจของเธอว่างเปล่าจนไม่เหลือความรู้สึกใดๆ อีกต่อไปแล้ว

เธออยู่คนเดียว... อยู่คนเดียวอย่างแท้จริงแล้วในตอนนี้
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel