บทที่ 5
เมื่อคุยเสร็จดาหลาก็เดินกลับเข้าบ้านอย่างคนไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ระหว่างรอม่านมุกที่เวลานี้ยังไม่ลงมาจากตัวบ้าน
“นายครับ”
“อะไร” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามกลับไป
“ข้อมูลของผู้หญิงคนนั้นครับ”
“ส่งมา” เอ่ยจบอลันก็ยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากลูกน้องมาแล้วเปิดดูข้อมูลทันที รูปและข้อมูลส่วนตัวที่เห็นทำให้อลันคิ้วขมวดนิดหน่อย ม่านมุกคือสาวไซด์ไลน์อย่างนั้นเหรอ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่เพราะผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเขาจะพาตัวเองไปอยู่บนเวทีเพื่อให้ผู้ชายมากหน้าหลายตาประมูลราวกับสินค้าไร้ราคาแบบนั้น
แต่ที่เจ็บใจคือข้อมูลที่เขาได้มาก่อนประมูล ที่บอกว่าเธอสด เธอซิงคงเป็นแค่เรื่องกุขึ้นมาสินะ แบบนี้เขาคงต้องใช้งานเธอให้คุ้มกับเงินที่เสียไปมากหน่อยกระมัง ไว้ค่อยกลับไปคิดบัญชีคนพวกนั้น กล้าดียังไงถึงย้อมแมวเขาแบบนี้
“เอาไงดีครับนาย” เสียงลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามขึ้น นั่นเพราะรู้ว่าเจ้านายตนนั้นไม่ชอบการถูกหลอกทำนองนี้สักเท่าไหร่ จะสดใหม่หรือเก็บเกี่ยวชั่วโมงบินมาแล้วก็ขอให้บอกความจริงเท่านั้นเป็นพอ แบบนี้มันหยามหน้ากันชัดๆ
“ไว้กลับมาค่อยจัดการ” อลันเอ่ยตอบกลับไป แววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจ เพราะนอกจากจะถูกแม่เล้าหลอกแล้ว เขาก็เหมือนจะถูกความใสซื่อของม่านมุกหลอกซ้ำ จนยอมจ่ายเงินค่าประมูลตัวเธอเสียสูงลิ่ว
เสียงแตรรถที่ดังขึ้นจากหน้าบ้าน เป็นสัญญาณให้ม่านมุกที่เวลานี้กลับลงมาคุยกับผู้เป็นแม่ที่ชั้นล่างรู้ตัวว่าเธอหมดเวลาแล้ว หญิงสาวล่ำลาแม่ก่อนจะเดินสะพายกระเป๋ากลับมายังรถที่จอดรออยู่ ดาหลายืนส่งลูกสาวจนรถคันนั้นหายลับไป
“ไปดีมาดีนะลูก”
ระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปกระบี่นั้นไกลหลายร้อยกิโลเมตร บวกกับตอนนี้ก็ใกล้สว่างเข้าไปทุกที หากฝืนขับรถกันต่อก็เกรงจะเกิดอุบัติเหตุ นั่นเพราะตั้งแต่กลับมาจากเยี่ยมผู้เป็นพ่อที่อิตาลีเมื่อวันก่อน ชายหนุ่มและลูกน้องก็ยังไม่ได้พักผ่อนกันอย่างจริงๆ จังๆ
นั่นทำให้อลันเปลี่ยนแผนนอนค้างกันที่กรุงเทพฯ ไว้บ่ายๆ ค่อยออกเดินทางลงกระบี่กันต่อ นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องไปคุยงานและร่วมงานแต่งงานญาติ เขาคงเลื่อนวันเดินทางออกไปก่อน โดยชายหนุ่มเลือกเข้าพักที่โรงแรมสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งทันทีที่รถจอดเทียบหน้าโรงแรม ม่านมุกที่นั่งอยู่ภายในรถก็รีบเอ่ยขึ้น
“มาที่นี่ทำไมคะ”
“นอน”
“นอนเหรอ!” ม่านมุกอุทานออกมา
“อืม”
“ก็ไหนคุณบอกว่าจะไปกระบี่”
“บ่ายค่อยไป” คนถูกถามเอ่ยตอบด้วยความเหนื่อยอ่อน นั่นเพราะอยากพักเต็มทีแล้วแต่ดูเหมือนอารมณ์เหนื่อยจะค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความหงุดหงิด เพราะผู้หญิงคนข้างๆ เอาแต่พูดไม่ยอมหยุดปาก
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เกลขอกลับไปนอนที่บ้านได้ไหม” เพราะห่วงแม่ทำให้เธอถามขึ้น
“ไม่ได้!”
“เกลสัญญาว่าจะไม่หนีคุณไปไหน” ม่านมุกยิ้มให้ นั่นเพราะเธอยังไม่ได้เงินจากเขาเลยนี่นา
“ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่”
“แต่...” ยังไม่ทันที่ม่านมุกจะได้เอ่ย อลันก็ชิงแทรกพูดขึ้นเสียก่อน
“เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดต่อรองกับฉัน”
“ไม่มีค่ะ”
“รู้ตัวก็ดี เวลาอยู่กับเจ้านายอย่างฉันอย่ามีข้อให้มากนัก หุบปากได้ก็หุบไปซะ เพราะฉันไม่ชอบผู้หญิงขี้โวยวาย มันน่าเบื่อ” คำพูดจากชายตรงหน้าทำเอาม่านมุกถึงกับชาไปทั้งหน้า ลืมไปเสียสนิทว่าเธอเป็นแค่สินค้าที่ถูกซื้อมา สินค้าที่ไหนจะมีปากมีเสียงได้กัน
สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินตามชายหนุ่มเข้าไปภายในโรงแรม โดยมีชายหนุ่มร่างยักษ์สองคนหิ้วกระเป๋าตามมาไม่ห่าง ซึ่งพอถึงห้องพักที่หรูหราราวสมราคาที่แพงลิ่ว ชายสองคนก็หายไปอย่างเงียบๆ ซึ่งทันทีที่เสียงปิดประตูดังขึ้น ม่านมุกก็ถึงกับสะดุ้ง
“เธอทำอะไรเป็นบ้าง” เมื่ออยู่กันตามลำพัง อลันก็เอ่ยถามขึ้น มันช่างเป็นประโยคธรรมดาแต่ม่านมุกรู้ว่ามีนัยยะซ่อนอยู่
“อะไรที่ว่าคืออะไรคะ”
“นวดตัว จูบปาก ออรัลเซ็กซ์”
“เอ่อ…” ม่านมุกอึกๆ อักๆ
“แต่ไซด์ไลน์อย่างเธอหรือจะทำเรื่องพวกนั้นไม่เป็น ดีไม่ดีอาจจะเทิร์นโปรไปมากกว่าที่ฉันพูดมาด้วยซ้ำ” อลันเอ่ยขึ้นแทน ชายหนุ่มยิ้มเหยียดออกมา แม้คำพูดบางคำที่เขาเอ่ยมาม่านมุกจะไม่เข้าใจความหมายก็ตาม แต่คงไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก
“ฉันเหนื่อย เธอมานวดตัวให้หน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยบอก อลันเหนื่อยมาทั้งวันจริงๆ เวลานี้ชายหนุ่มนั่งเอนหลังพิงโซฟาตัวยาวในส่วนห้องนั่งเล่นอยู่
“ค่ะ” ม่านมุกเอ่ยรับคำ ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วเข้ามานวดตัวให้ชายหนุ่ม ม่านมุกคิดไต่ตรองว่าเธอควรใช้จังหวะนี้เอ่ยข้อตกลงกับเขาดีไหม ว่าเธอจะหาเงินห้าล้านนั่นมาคืนเขาทีหลัง แต่ดูเหมือนว่าต่อให้พูดความจริงออกไปเขาก็คงไม่เชื่อ
ในเมื่อเขาอคติกับเธอไปแล้ว เอาเป็นว่าเขาอยากให้เธอเป็นอะไรหรือจะมองเธอยังไงก็แล้วแต่ความต้องการของเขาแล้วกัน เธอจะอดทนยอมเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งให้เขาดูถูกดูแคลนไปก่อน
แค่เจ็ดวันเท่านั้น เจ็ดวัน ซึ่งทันทีที่ได้เงินมาเธอจะไปจากที่นี่ทันทีและเขาจะไม่มีวันได้เห็นเธออีกตลอดชีวิต แม้เธอจะไม่เคยเรียนนวดอย่างจริงๆ จังๆ แต่การบีบๆ นวดๆ ตามไหล่หรือตามตัวมันคงไม่ใช่เรื่องยากที่ม่านมุกจะทำ
แต่เพราะชายตรงหน้านั้นกล้ามโตมากไปหน่อย ส่งผลให้มือเล็กๆ ของเธอนวดตัวเขาได้ไม่ค่อยถนัดรวมถึงลงแรงมากเท่าไหร่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ไหวติง วางมือบางบีบลงไปตรงไหนก็เหมือนเธอบีบท่อนซุงแข็งๆ
“ลงแรงหนักกว่านี้หน่อยสิ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก เธอทำดีแล้วแต่เขาอยากได้แรงกว่านี้อีกสักหน่อย ม่านมุกถอนหายใจออกมาจากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้ศอก เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วกดทิ้งน้ำหนักตัวลงมาบนหัวไหล่ของเขาสุดแรง
“โอ้ย! นี่เธอจะฆ่าฉันหรือยังไง” อลันร้องอุทานออกมาลั่นห้อง ก่อนจะดีดตัวหนีห่างจากม่านมุก
“ก็คุณบอกให้เกลออกแรง” ม่านมุกตอบซื่อๆ กลับไป เขาขอมาเองแล้วเธอทำอะไรผิดไม่ทราบ
“พอๆ ไปเตรียมน้ำอุ่น ฉันอยากอาบน้ำ”
“ค่ะ” เอ่ยรับจบม่านมุกก็เดินเข้าไปยังห้องน้ำเพื่อเตรียมน้ำอุ่นให้คนขี้โมโห พอน้ำได้ระดับเธอก็หมุนตัวจะกลับออกไปเรียกชายหนุ่ม แต่กลับปะทะเข้ากับอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ อย่างแรงจนรู้สึกมึน
