บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

เสียงตุบแรกคือเสียงของวัตถุบางอย่างที่หล่นมาจากทางด่วนด้านบนแล้วกระแทกเข้ากับกระโปรงรถแท็กซี่คันที่เนตรดาวนั่งอยู่อย่างแรง

เสียงเอี๊ยดต่อมาคือเสียงเบรกของรถแท็กซี่คันดังกล่าว ตามมาด้วยเสียงโครมเพราะรถแท็กซี่ซึ่งเหยียบเบรกกะทันหันถูกชนจากรถคันที่ขับตามมาอย่างจัง เนตรดาวรับรู้ได้ถึงแรงกระแทก นั่นทำให้เธอต้องรีบลืมตาขึ้นมองเหตุการณ์รอบๆ ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

“ฉิบหาย...มีคนตกมาจากทางด่วน” ประโยคของคนขับรถแท็กซี่ทำให้เนตรดาวตกใจสุดขีด และทันทีที่เธอมองไปยังกระโปรงรถแท็กซี่เธอก็ถึงกับ...ช็อค

มีคนตกลงมาจริงๆ และผู้ชายคนนั้นก็เลือดออกปาก ออกจมูก ตาค้างมองตรงมาที่เนตรดาว

“พะ...พ่อ...พ๊อออ” เนตรดาวอุทานออกมาอย่างคนสติหลุด ก่อนจะรีบเปิดประตูแล้วก้าวลงไปจากรถ ขาทั้งสองข้างของเนตรดาวสั่นเทา เธอค่อยๆ ก้าวเข้าไปหาร่างที่ไร้วิญญาณของผู้เป็นพ่อ หญิงสาวเพ่งมองใบหน้าของบุพการีให้ชัดๆ พร้อมตบหน้าตัวเองไปด้วย เพราะคิดว่านี่อาจเป็นแค่ฝันร้ายของเธอเท่านั้น แต่ทว่านี่คือความจริง

“พ่อออออ” เธอเอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อสุดเสียง ก่อนจะโผเข้าไปหาด้วยหัวใจที่กำลังแตกสลาย เนตรดาวที่กำลังร้องไห้อย่างหนักเข้าไปสวมกอดร่างของพ่อไว้ พยายามเอ่ยเรียกเท่าไหร่ผู้เป็นพ่อก็ไม่ขานรับ นั่นยิ่งทำให้เนตรดาวกลัว

กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุแทบจะทันที เนตรดาวจะถูกกันตัวออกมาเพื่อให้ทีมกู้ภัยเข้าไปดูอาการคนเจ็บที่เวลานี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยเธอตะโกนบอกไปตลอดเวลาว่าเธอนั้นเป็นลูกสาว ก่อนจะพยายามมีสติเพราะเธอยังหาแม่ไม่พบ

“แม่ฉันละคะ แม่ฉันอยู่ไหน มีใครเห็นแม่ฉันบ้าง แม่คะ” เนตรดาวถามหาผู้เป็นแม่ราวกับคนเสียสติ ถึงตอนนี้เธอก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเพราะอะไรพ่อถึงได้ร่วงลงมาจากทางด่วน แล้วแม่อยู่ไหนตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

เพราะรอบข้างตอนนี้ดูวุ่นวายเนื่องจากเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ เสียงหวอทั้งจากรถพยาบาล รถกู้ชีพดังระงมจนจับทิศไม่ได้ว่ามาจากจุดไหนบ้าง

แต่ทว่ากลับไม่มีใครตอบคำถามของเนตรดาวได้เลยว่าเวลานี้แม่ของเธออยู่ที่ไหน และเนตรดาวก็ไม่มีเวลาได้ถามต่อเมื่อรถพยาบาลซึ่งมีพ่อนอนอยู่ในนั้นกำลังจะออกเดินทางไปโรงพยาบาล เธอไม่สามารถนั่งรถคันเดียวกับพ่อได้ แต่ว่าโชคดีที่ตำรวจอาสาไปส่ง ซึ่งเนตรดาวก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจท่านั้นอย่างไม่ลังเล

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เนตรดาวก็ตรงดิ่งไปห้องฉุกเฉิน โดยบนตัวเธอนั้นเต็มไปด้วยเลือดของผู้เป็นพ่อ แต่ทว่าเวลานี้เนตรดาวกลับไม่ได้ให้ความสนใจ เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะระหว่างที่เธอยืนรอฟังข่าวอาการของพ่อ จู่ๆ พยาบาลอีกทีมก็เข็นรถเข็นซึ่งมีแม่ของเธอนอนอยู่บนนั้นผ่านหน้าไป

“แม่!” เนตรดาวสติหลุดเป็นครั้งที่สอง ก่อนจะปรี่เข้าไปสอบถามสาเหตุที่ทำให้แม่เธอเป็นแบบนี้กับพยาบาล แต่กลับไม่มีใครให้คำตอบเธอได้เลย กระทั่งนายตำรวจท่านหนึ่งเดินเข้ามาหา เพื่อไล่เรียงถึงอุบัติเหตุในครั้งนี้ให้เนตรดาวฟัง โดยเธอจับต้นชนปลายได้เพียงว่า

รถของพ่อและแม่เธอจอดเสียอยู่บนเลนซ้ายสุดของทางด่วน แล้วจู่ๆ ก็มีรถกระบะขับแซงซ้ายมาพุ่งชนจนร่างของพ่อเธอกระเด็นลงมากระแทกกับรถแท็กซี่ด้านล่าง ซึ่งเป็นรถคันที่เธอเองก็นั่งอยู่ข้างในด้วย ส่วนแม่ถูกรถกระบะคันนั้นชนเช่นกันพร้อมกับลากร่างไปไกลถึงห้าสิบเมตร

เนตรดาวน้ำตาร่วงอีกครั้งพร้อมกับทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ สมองมึนงงเพราะไม่รู้ต้องทำอะไรต่อ แต่พอหันไปเห็นประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก เนตรดาวก็หยัดตัวให้ลุกขึ้นแต่ทว่ากลับต้องเซจนนายตำรวจท่านนั้นเข้ามาช่วยพยุงไว้

“คุณหมอ พ่อกับแม่ฉันเป็นยังไงบ้างคะ”

“คุณพ่อคุณเสียชีวิตแล้วครับ ส่วนคุณแม่อาการโคม่าตอนนี้อยู่ไอซียู” คำตอบจากหมอ ทำให้ทุกอย่างรอบข้างของเนตรดาวเวลานี้ดูมืดลง โลกทั้งโลกของเธอเต็มไปด้วยความเงียบ สีที่มองเห็นเวลานี้มีเพียงดำและขาวเท่านั้น

อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นใหญ่มากรวมไปถึงออกข่าวหลายช่องทาง บรรดาญาติพี่น้องสนิทที่รู้ข่าวต่างโทรศัพท์มาถามไถ่เนตรดาว เธอต้องเล่าเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีกและมันก็กระทบความรู้สึกของเธออย่างเลี่ยงไม่ได้

จนลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อว่าศจีซึ่งอายุมากว่าเธอห้าปีมาถึงโรงพยาบาลเป็นคนแรกๆ อาสารับสายแทน รวมทั้งคอยช่วยเรื่องยื่นเอกสารต่างๆ ทั้งไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากอุบัติเหตุครั้งนี้มีทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่สำคัญคือเวลานี้เนตรดาวเหมือนยังตั้งตัวไม่ทัน เธอเอาแต่ร้องไห้สลับอาการซึม ยังเพราะคงช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ หากเป็นเธอก็คงช็อคมากเช่นกัน

“น้ำหน่อยไหมอาย” เอ่ยจบศจีก็ยื่นน้ำเย็นๆ ให้เนตรดาวไป ซึ่งเธอก็รับมันมาไว้ในมือ

“ขอบคุณค่ะ”

“พี่รู้ว่ามันยากที่จะผ่านเรื่องนี้ไป แต่ยังไงอายก็ต้องลุกให้เร็ว เพื่อส่งพ่ออายเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อดูแลแม่ที่ยังอยู่ด้วย เข้าใจที่พี่พูดไหม”

“ขะ...เข้าใจค่ะ” เนตรดาวก้มหน้าร้องไห้ ก่อนที่ศจีจะคว้าเธอมากอด และนั่นมันยิ่งทำให้คนที่กำลังอ่อนแอระเบิดความอ่อนแอออกมาเป็นน้ำตาและการสะอื้นไห้ เพราะไม่เคยวางแผนตั้งรับกับเรื่องพวกนี้ไว้ล่วงหน้ามาก่อน เมื่อต้องมาเจอเนตรดาวก็ถึงกับไปไม่เป็น

“อายไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังมีพี่ มีลุงกับป้านะ”

“ค่ะ” เธอเอ่ยรับ ก่อนจะร้องไห้ให้มันสุดหัวใจแล้วตั้งสติเพื่อพาตัวเองก้าวเดินต่อ นั่นเพราะต่อให้มีคนอีกร้อยคนอยู่ข้างๆ หากเธอไม่เข้มแข็งด้วยตัวเธอเอง ทุกอย่างก็คงพังไม่เป็นท่าเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel