ตอนที่1 วันวานที่หอมหวาน?
จุดที่สูงที่สุด ก็คือจุดที่ตกลงมาเจ็บปวดที่สุดเช่นกัน
สวนย่อมใจกลางหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งที่กว้างขวาง เป็นสถานที่สำหรับให้ลูกบ้านได้พักผ่อนหย่อนใจ เป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าแม่ๆ หรือแม่บ้านที่ตามติดมาดูเด็กน้อยเล่นสนุกกัน
เสียงใสของเด็กสาววัยเจ็ดขวบหัวเราะเอิกอ๊ากระหว่างวิ่งหนีพี่ชายที่มักจะเล่นด้วยกันประจำ ใบหน้าจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาน่าทะนุถนอม พร้อมกับผิวขาวอมชมพูยิ่งดูบอบบางมากขึ้นเมื่อแก้มทั้งสองข้างเป็นสีแดงปลั่งจากการเล่นสนุก
“พี่จะไล่ทันแล้วนะ” เสียงของเด็กชายวัยสิบขวบที่เป็นฝ่ายวิ่งไล่สาวน้อยเอ่ยขึ้นอย่างสนุกสนานไม่แพ้กัน ร้องบอกเด็กน้อยเมื่อใกล้ถึงตัว
“ฮื้อ!” เด็กหญิงที่หอบเหนื่อยจากการเล่นเป็นเวลานานสุดท้ายก็วิ่งต่อไม่ไหว หยุดลงหายใจแรง
“จับได้แล้ว!” เด็กชายพูดระหว่างที่ฝ่ามือเล็กแตะลงที่บ่าเล็กของอีกฝ่าย
“คิกๆ หนูเป็นก็ได้” เมื่อถูกจับได้ก็ไม่เกี่ยงงอนกับการจะเป็นฝ่ายไล่จับอีกฝ่ายบ้าง
“ไปกินขนมก่อนดีกว่า” เด็กชายเห็นน้องสาวแสนน่ารักเหนื่อยก็เลยชวนขึ้น เดินไปหาพี่ชายวัยห่างกันห้าปีที่มักจะออกมาเฝ้าเขาตามคำสั่งแม่
“.....” สาวน้อยเดินไปหยุดตรงหน้าพี่ชายตัวสูงก่อนจะส่งยิ้มหวานน่ารักไปให้อีกฝ่ายที่พูดน้อยมากๆ
“เช็ดมือกันก่อน” น้ำเสียงราบเรียบของเด็กหนุ่มวัยสิบห้าเอ่ยบอกน้องทั้งสองคน
“ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวยื่นมือไปรับทิชชู่เปียกจากพี่ชายตัวสูงโดยไม่ลืมยกมือไหว้อย่างมีมารยาทพร้อมเสียงใสๆ
“ขนมค่ะคุณหนู” แม่บ้านจากบ้านของเด็กหญิงเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม ยื่นกล่องแบ่งช่องที่ใส่ทั้งขนมและผลไม้ไปให้เด็กๆ ตรงหน้าอย่างคุ้นเคยดี
“กินไหมคะ” เธอนั่งกินกับพี่ชายตัวเล็กอย่างสนิทสนม ใช้ส้อมเล็กๆ จิ้มแอบเปิ้ลแล้วยื่นไปให้กับพี่ชายตัวโตเป็นการแบ่งปัน
“ไม่” เขาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะสบตากับดวงตากลมโตสดใสของเด็กน้อยตรงหน้า
“.....” และนั่นก็ทำให้เด็กหญิงตัวน้อยยู่ปากคว่ำอย่างน้อยใจที่เขาไม่เคยรับของจากเธอเลยสักครั้ง
“ขอบคุณ” แต่อยู่ๆ เขาก็ยื่นมือมาหยิบของในมือของเด็กสาวตัวน้อยตรงหน้าที่มักจะแบ่งเขาประจำ น้ำเสียงอ่อนลงอย่างเอ็นดู
“.....” เมื่อเห็นแบบนั้นเด็กน้อยก็ส่งยิ้มกว้างอีกครั้งอย่างน่ารักของเธอ
เป็นรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเด็กน้อยที่น่ารักราวกับตุ๊กตา เวลามองแล้วก็อดจะเอ็นดูไปด้วยไม่ได้ จนทำให้คนยิ้มยากอย่างเขายังอดที่จะส่งยิ้มบางๆ กลับไปให้เด็กน้อยคืนไม่ได้
เด็กน้อยที่ไม่ค่อยเห็นเขายิ้มจนรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ พี่ชายตัวโตก็ตื่นเต้นดีใจมาก ยิ้มกว้างกว่าเดิมอย่างมีความสุขเมื่อได้รับรอยยิ้มจากพี่ชายที่เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน
แต่...
น่าเสียดายที่รอยยิ้มสดใสน่ามองน่าเอ็นดูของเด็กสาวได้อันตรธานหายไปจากชีวิตที่พลิกผันของเธอ เด็กน้อยวัยกำลังเรียนรู้ วัยที่มีพ่อแม่เป็นเหมือนโลกทั้งใบ แต่โลกทั้งใบของเธอได้มลายหายไปอย่างไม่สามารถคว้ากลับคืนมาได้
“ไปอยู่กับลุงนะ เดี๋ยวลุงจะดูแลหนูเอง” นั่นคือสิ่งที่เด็กหญิงวัยแปดขวบไม่ยินยอมเลยสักนิด แต่เธอไม่สามารถปฏิเสธความเป็นจริงข้อนี้ได้
พ่อแม่เธอได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่หวนกลับคืนมา ญาติคนเดียวที่มีอยู่ก็คือลุงพี่ชายของพ่อ คนที่ได้รับหน้าที่จากศาลให้เป็นผู้ปกครองของเด็กหญิงตัวน้อยรายนี้ พร้อมกับเป็นผู้ดูแลมรดกทุกอย่างจนกว่าเด็กน้อยจะอายุบรรลุนิติภาวะ
ซึ่งมันคือเหตุผลหลักที่เธอถูกรับเลี้ยงดูในฐานะหลานสาว แต่การดูแล...เยี่ยงทาส
ชีวิตที่เคยสดใสกลับไร้ซึ่งรอยยิ้มแทนที่ด้วยน้ำตา อนาคตที่สดใสกลับหม่นหมอง เด็กสาวที่เคยเจื้อยแจ้วกลับพูดน้อยเก็บกด พี่ชายที่แสนดีในวันนั้นกลับไม่มีอยู่อีกเมื่อต้องย้ายบ้าน
ทุกอย่างมันดิ่งลงอย่างควบคุมไม่ได้ ชีวิตที่เคยสุขสบายต้องเปลี่ยนแปลงเป็นความยากลำบาก แต่ที่แย่กว่านั้นดันเกิดกับเด็กน้อยที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องทนรับทุกอย่างจนกว่าเธอจะเติบใหญ่กว่านี้
