ตอนที่ 1
แพรทองเคยเป็นผู้หญิงที่เขา ‘ครอบครอง’ ทุกคืน แต่เธอไม่เคยได้รับสถานะอื่นที่มากไปกว่านั้นเลย
เธอไม่เคยถูกเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่เคยเป็นคนสำคัญในบทสนทนาใดๆ ของเขา และไม่เคยได้ครอบครองหัวใจของเขา
มีเพียงแค่ร่างกายเท่านั้น ที่เขาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนของเล่นชิ้นเดิมที่เขาคุ้นมือ
สองปีในชีวิตคู่ของพวกเขา เต็มไปด้วยเตียงที่ลุกโชน และห้องนั่งเล่นที่เงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง
เขาไม่เคยรู้ว่าเธอชอบกาแฟร้อน ไม่ใส่น้ำตาล
เขาไม่เคยรู้ว่าเธอแอบร้องไห้ในห้องน้ำทุกครั้งหลังที่เขาหลับไปแล้ว
และเขาก็ไม่เคยรู้เลย... ว่าหัวใจดวงเล็กๆ
ที่ถูกเขาขยี้ซ้ำๆ ยังเต้นอยู่ด้วยความรักเขาที่ไม่เคยหมดไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอยอมแพ้ และเลือกที่จะวางใบหย่าลงบนโต๊ะไม้ตัวเดิม...
โต๊ะที่เขาเคยกระทำยำยีกับร่างกายของเธอจนหมดเรี่ยวแรงไม่รู้กี่ครั้ง
“ฉันต้องการหย่าค่ะ”
เธอพูดขณะที่เขากำลังรูดซิปกางเกงขึ้นด้วยท่าทางสบายๆ เขาทำราวกับว่า เมื่อครู่นี้ เขากับเธอไม่ได้เพิ่งกระทำเรื่องร้อนๆ ร่วมกันอย่างบ้าคลั่ง
“แน่ใจ?”
“ค่ะ ฉันเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว”
เขายิ้มเยาะ ปรายตามองมาที่เธอเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น
“ถ้าเซ็นชื่อแล้ว เธอก็ไปตามทางที่เธอต้องการได้เลย”
นี่คือคำพูดของเขาในวันนั้น...
เขาทำเหมือนไม่แยแส ทำไมเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรกับการที่เธอจะหายไปจากชีวิต และเตียงของเขา
ซึ่งแพรทองก็ไปจริงๆ หายไปจากชีวิตเขาจริงๆ เหลือไว้เพียงแค่กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเธอที่ยังติดบนหมอนที่เธอใช้หนุนนอน และในความทรงจำของเขาเท่านั้น
ห้าปีผ่านไป...
เขาเคยคิดว่าเธอคงไม่มีวันกลับมาอีก เธอหายไปจากชีวิตของเขาอย่างสมบูรณ์ ราวกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
แต่วันนี้ เธอกลับมายืนอยู่ตรงหน้าของเขาอีกครั้ง...
ในฐานะเจ้าของที่ดินแปลงสำคัญที่บริษัทของเขาต้องการเวนคืน
ในฐานะหญิงสาวที่เขาเคยทอดทิ้ง
และในฐานะอดีตเมีย ที่เขาเคย 'เอา' เพียงเพื่อดับตัณหา แต่ไม่เคยยื่นหัวใจให้เลยสักครั้ง
ร่างกายของเธอนั้นยังคงงดงามและเปี่ยมเสน่ห์เหมือนเดิม
ผิวเนียนนวลละเอียดที่เขาเคยลูบไล้ ยังคงขาวผ่องจนแทบจะเรืองแสงในแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า
กลิ่นหอมอ่อนจาง แต่คุ้นเคยลอยมากระทบจมูกของเขา สร้างความปั่นป่วนให้หัวใจที่เขาคิดว่าตายด้านไปนานแล้วได้อย่างรุนแรง
แต่สายตาที่เธอมองเขาในวันนี้ มันไม่ใช่สายตาของผู้หญิงที่เคยมองเขาด้วยความรักเหมือนในอดีตอีกต่อไปแล้ว
เพราะสายตาคู่นั้นแข็งกร้าว เยือกเย็น ราวกับมีกำแพงหนาๆ กั้นขวางเอาไว้
และสิ่งที่เขาไม่คิดว่าจะรู้สึกได้อีก... กลับค่อยๆ ตื่นขึ้นมาในอกข้างซ้าย เหมือนหัวใจที่เคยตายดับไปแล้ว... กำลังดิ้นรนเพื่อจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“สบายดีนะคะ คุณรชานนท์”
น้ำเสียงของเธอเยือกเย็น และท่าทางก็สงบจนแทบดูไร้ความรู้สึก
“ก็ดี... แต่คงไม่ดีเท่าคุณหรอก แพรทอง”
เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ต่างกัน แต่สายตาของเขาก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธออย่างท้าทาย
เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน
“แปลกดีนะคะ โลกมันกลมจริงๆ ฉันนึกไม่
ถึงเลยว่าที่ดินผืนเล็กๆ ของฉันจะสำคัญกับคุณขนาดนี้”
“ผมเองก็ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอคุณอีกครั้งเหมือนกัน”
เขาพูดเสียงต่ำ พร้อมก้าวเท้าเข้าไปใกล้เธออีกก้าว
“และผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าผู้หญิงที่ผมเคยมี จะกลายมาเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจของตัวเองแบบนี้”
แพรทองแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ เสียงหัวเราะที่เหมือนกำลังเหยียดหยันเขาทุกประโยคที่เคยพูด
“คุณยังเหมือนเดิมเลยนะคะ รชานนท์ ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ คุณยังคิดว่าทุกอย่างที่ขวางทางคุณ คืออุปสรรคทั้งหมด”
เขาขบกรามแน่น ก่อนจะข่มใจแล้วพูดด้วยเสียงที่เย็นชาไม่แพ้กัน
“ถ้าไม่ใช่อุปสรรค แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ? หรือว่าคุณอยากกลับมาอยู่ในสถานะเดิม ถึงจะยอมคืนที่ดินให้ผม?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก และเย้ยหยัน เพราะคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า
แพรทองชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นวาวโรจน์ขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่เธอจะเชิดหน้าขึ้น แล้วยิ้มกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ฉันไม่มีวันกลับไปอยู่ในสถานะเดิมหรอก เพราะนั่นมันคือฝันร้ายที่สุดสำหรับฉัน”
เขาหัวเราะในลำคอ ก้าวประชิดเข้ามาอีก จนแทบจะไม่เหลือระยะห่างระหว่างกัน
“อย่าเพิ่งตัดสินใจเร็วนักสิ แพรทอง คุณไม่อยากรู้เหรอว่าผมเปลี่ยนไปหรือยัง อยากลองพิสูจน์หน่อยไหมล่ะ เอาไหม?”
