ตอนที่ 1 พบเจอ
คำโปรย:เมื่อเมียที่ผมร่วมเตียงดันกลายมาเป็นคนรักที่เจ้านายตามหา ความรักของผมและเธอจึงค่อยๆ จางหายไป
บนถนนที่รถพลุกพล่าน ดวงตาคู่คมภายใต้หมวกกันน็อกสีดำสนิท ปกปิดมิดชิด มองไฟแดงที่ใกล้จะเปลี่ยนเป็นไฟเขียวอย่างร้อนใจ ก่อนที่มือหนาจะเร่งเครื่องแล้วออกตัวด้วยความเร็ว ขับเคลื่อนมาจอดที่หน้าประตูทางเข้าผับแห่งหนึ่ง ในซอกแคบๆ ซึ่งผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก
มือหนารีบถอดหมวกกันน็อกวางลง บนรถบิ๊กไบค์แล้วรีบสาวเท้าถือกระเป๋าใบโตเดินเข้าไปภายใน สายตาคู่คมหันมองยากาศโดยรอบ ผู้คนมากมายยืนเต้น ดื่มด่ำกันอย่างเร่าร้อนจึงไม่มีใครให้ความสนใจเขามากนัก
“วันนี้พี่ใหญ่กำชับมาว่า งานจะต้องสำเร็จลุล่วง ผมจะให้พลาดไม่ได้เด็ดขาด” มือหนากำกระเป๋าแน่นเดินขึ้นไปตรงชั้นสองของตัวผับ ดวงตากวาดมองหาเลขห้อง 236 ที่ลูกน้องแจ้งมา ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าไปทันที
“ใจเย็นผมเอง”
เซ็นยกมือชูขึ้นเมื่อเห็นว่าคนในห้องยกปืนขึ้นชี้มาที่เขา ด้วยความตกใจ “วางปืนลง” บุรุษผู้เป็นนายนั่งไขว้ขา เอ่ยสั่งน้ำเสียงราบเรียบ ผมจึงกล้าที่จะเดินไปหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามเขาพร้อมทั้งวางกระเป๋าลงเบื้องหน้า หนุ่มวัยกลางคนชาวจีน นามจั่วหลิง
“ไม่เจอกันนานเลยนะ เซ็น” น้ำเสียงชายวัยกลางคนเอ่ยถาม ผมจึงยิ้มให้เขาเบาๆ เพราะเราร่วมธุรกิจกันมานาน “ไม่คิดว่าวันนี้ ท่านจั่วจะเดินทางมารับของด้วยตนเอง ช่างเป็นเกียรติแก่ผมอย่างมาก” ผมเอ่ยสั้นๆ แล้วเปิดกระเป๋าให้เขาดูของภายใน
ใบหน้าชายวัยกลางคนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหันไปหาลูกน้อง ให้นำเงินมาวางตรงหน้าเซ็น “ฝากบอกอาเฉินด้วยว่า คราวหน้าจะต้องได้ร่วมงานกันอีก” มือหนาจับลงบนไหล่เซ็นแล้วลุกเดินออกไปจากห้อง พร้อมกับลูกน้องที่คอยติดตามห้าคน
ผมรีบโค้งตัวให้กับจั่วหลิง ก่อนจะตรวจดูเงินในกระเป๋า แล้วลุกเดินออกจากห้องตามหลังเขาไปแบบห่างๆ
“...”
ช่วยด้วย” ฉันร้องตะโกนจนสุดเสียงหลังจากที่วิ่งลงมาจากรถเก๋งสีดำริมฟุตพาท โดยมีชายสวมสูทสามคนวิ่งไล่ตามมาแบบติดๆ ใครจะคิดว่าชีวิตจะขมขื่นได้เพียงนี้ กลับมาจากมหา’ลัยก็เจอคนกลุ่มหนึ่งรออยู่ที่บ้าน อีกทั้งพ่อและแม่ยังบอกกับปากว่าให้ไปกับพวกเขาแล้วชีวิตจะสุขสบาย
ฉันไม่รู้เลยว่าพ่อกับแม่คิดอะไรอยู่ถึงได้มอบฉันให้คนเหล่านี้ ซึ่งฉันไม่มีทางจะยอมเด็ดขาด “ช่วยด้วย” ฉันวิ่งเท้าเปล่าไปบนฟุตพาท ดวงตาหันมองหาคนที่พอจะช่วย แต่คนเหล่านั้นกลับมองฉันราวกับเป็นฝุ่นอากาศ พวกเขาเดินหนี บ้างก็ไม่สนใจ
ฮือๆๆๆ ใครก็ได้ช่วยด้วย”
“หยุดนะ”
เสียงตะโกนดังมาจากทางเบื้องหลัง ฉันจึงต้องรีบออกแรงวิ่งเพื่อหาที่หลบซ่อน... “ว้าย”
มือปริศนากระชากร่างบางเข้าไปในมุมมืดของผับ พลันใช้มือหนาอุดริมฝีปากอมชมพูของเธอเอาไว้ ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้ชิดกันเพียงเสี้ยว “อย่าส่งเสียงถ้าไม่อยากโดนจับได้” ผมเอ่ยเบาๆ กับผู้หญิงคนนั้น เมื่อเห็นว่า คนที่ไล่ตามเธอผ่านไปแล้วจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกจากริมฝีปากของเธอ
ทำให้ผมเห็นหน้าของเธอชัดขึ้น เธอดูสวยและน่ารัก จนหัวใจของผมเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ “คุณจะไปที่ไหน แล้วคนพวกนั้นไล่ตามคุณมาทำไม” ผมมองดวงตาคู่สวยของเธอขณะเอ่ยถาม แต่เมื่อเธอได้ยินกลับนิ่งเงียบก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“ฉันไม่รู้”
ฉันได้แต่เอ่ยน้ำเสียงสั่นคลอนมองคนตรงหน้าที่ช่วยชีวิต เขาดูเป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่ง ยามอยู่แนบชิดแบบนี้ฉันจึงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยจึงเบี่ยงใบหน้าหันไปอีกฝั่ง อีกทั้งตอนนี้เขาก็ยังมองจ้องมาที่ดวงตาของฉัน ไม่ยอมลดละราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
“งั้นมากับฉัน” ผมจับมือของเธอเบาๆ แล้วพาไปขึ้นรถที่จอดอยู่ “เอาไปสวมสิ” ผมยื่นหมวกกันน็อกให้เธอแต่ดูเหมือนว่าเธอจะสวมมันไม่เป็น ผมเลยต้องสวมให้เธอแทน ตอนนี้ผมจะพาเธอไปส่งที่ไหนยังไม่รู้เลย แต่หากปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ คงจะโดนคนเหล่านั้นพาไปทำไม่ดีไม่ร้ายแน่
ร่างหนา ควบบิ๊กไบค์ หลังจากสวมหมวกกันน็อกให้หญิงสาว ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ย่างเท้าเปล่าขึ้นซ้อนเบื้องหลัง มือเรียวสวยของเธอจับเสื้อแจ็กเก็ตของเซ็นเบาๆ เพราะเขินอาย “หากจับแบบนี้เธอได้ตกแน่” ผมเอ่ยกับเธอก่อนจะถือวิสาสะจับมือเรียวดึงมากอดรอบเอวของผม แล้วบิดรถแล่นออกไป
สายลมพัดกระทบเรือนร่างของทั้งคู่ยิ่งเซ็น บิดรถเร็วแค่ไหน มือเรียวสวยของหญิงสาวก็ยิ่งกอดกระชับลำตัวเขาแน่นขึ้นเท่านั้น ใบหน้าขาวนวลภายใต้หมวกกันน็อกซบลงบนแผ่นหลังกว้าง ดวงตาคู่สวยหลับตาปี๋ เพราะกลัวความเร็ว เซ็นขับรถพาเธอมาจอดลงที่หน้าห้องเช่า เก่าๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ติดกันหลายหลัง
ที่นี่คือที่ไหน “ฉันถอดหมวกกันน็อกแล้วเอ่ยถามผู้ชายคนนั้น ในใจคิดหวาดหวั่นกลัวว่าเขาจะเป็นคนเลว เมื่อเซ็นเห็นดวงตาคู่สวยที่ดูวิตก จึงรับหมวกในมือของเธอมาวางลงบนรถ “ห้องพักฉันเอง เธอไม่ต้องกลัวฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกตามมาสิ”
ชายหนุ่มเดินนำเธอไปที่ประตูก่อนจะล้วงหยิบกุญแจออกมาเปิด “เมียเหรอพ่อหนุ่ม” เสียงยายวัยชราห้องข้างๆ เอ่ยถาม ผมจึงหันไปยิ้มบางๆ “ครับยาย” ผมเอ่ยตอบยายไปเพราะหากเธอคือผู้หญิงของผม คนแถวนี้จะได้ไม่กล้ามาวุ่นวายกับเธอ
“ทำไมคุณบอกยายไปแบบนั้น” ฉันเอ่ยถามเขาเบาๆ หลังจากเดินตามเขาเข้ามาในห้องที่ดูมืดสลัว และค่อยๆ มีแสงสว่างหลังจากที่ผู้ชายคนนั้นเดินไปกดสวิตช์ไฟ
“ทำไมคุณรังเกียจผมเหรอ” ผมเอ่ยถามเธอขณะถอดเสื้อแจ็กเก็ต วางพาดลงบนเก้าอี้เก่าๆ ในห้องนอนแคบๆ
“เปล่าค่ะ ฉันก็แค่สงสัย”
หญิงสาวยืนนิ่งมองเซ็นถอดเสื้อออกเผยให้เห็นแผงอกกำยำของเขา ทว่าบนผิวกลับมีรอยบาดแผลมากมายที่บ่งบอกว่าเขาคงจะพบเจออะไรมาเยอะ “คืนนี้เธอนอนบนเตียงได้เลยนะ ฉันจะนอนตรงโซฟาเอง” ผมเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินไปเปิดตู้แล้วหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เธอพอจะสวมได้ออกมาวาง
“นั่นห้องอาบน้ำ และนี่คือผ้าของเธอ ใช้ได้ตามสบาย” ผมมองดูเธอสวมชุดนักศึกษารัดรูปแล้วมันรู้สึกขัดตาอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าตนเองจะอดใจไม่ไหวแล้วเผลอทำอะไรเธอลงไป “ขอบคุณนะคะ” ฉันเดินไปหยิบเสื้อที่ผู้ชายคนนั้นวางพาดไว้ให้ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ
