บท
ตั้งค่า

EP.1 การบอกลาและจุดเริ่มต้น

มหาวิทยาลัย

ซู่.............................

เสียงฝนตกพรำ ๆ จากละอองกลับตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับว่าท้องฟ้ารับรู้ถึงความรู้สึกเสียใจของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ยืนแน่นิ่งข้างทาง ใบหน้าที่งดงามแลดูยู่ยี่เงยหน้าเผชิญท้องฟ้าอย่างไม่เกรงกลัวหยาดฝน เสียงกรีดร้องดังไปพร้อมกับเสียงฝนและฟ้าร้อง ผู้คนใต้คันร่มและริมทางที่สัญจรไปมา อดไม่ได้ที่จะหันมองมายังเธอ แล้วพิจารณาว่าเธอร้องไห้เสียใจ หรือ หัวเราะจนแทบบ้ากันแน่

น้ำตา และเม็ดฝนไหลปะปนบนใบหน้าที่ได้รูปเป็นสายธาร จากบนลงล่าง จากฟ้าลงสู่ดิน ไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ไม่ต่างจากจิตใจคนที่เมื่อเจอสิ่งแย่ ๆ ก็เหมือนมีดที่ทิ่มแทงหัวใจ เจ็บเจียนตาย แต่ไม่มีบาดแผลใดๆ ให้ใครเห็น

ตัวเธอที่แทบทรงตัวไม่ไหว ยังคงประคองสติที่เริ่มเลือนราง และ ร่างกายที่พร้อมล้มพับอยู่ตลอดเวลาเดินฝ่าสายฝนไปอย่างเลื่อนลอยไร้วิญญาณ หัวใจที่เพิ่งถูกทำลายจากคนรักที่คบกันมากกว่า 2 ปี ทุ่มเทหมดหน้าตัก ไม่ขาดตกบกพร่องในฐานะแฟน กลับได้รับสิ่งตอบแทนอย่างแสนสาหัส ผู้ชายที่เธอคบกันมา กลับมีผู้หญิงอีกคนที่ครอบครัวของเขาเรียกเธอคนนั้นว่า คู่หมั้น ต่อหน้าเธอ ใบหน้าที่กระอักกระอ่วนของเขา ที่เหมือนยังไม่พร้อมอธิบายใดๆ ให้กับเธอ ทำให้เธอกระจ่างได้ว่า ทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง และดูเหมือนตัวเขาถอยจากเรื่องนี้ไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการคำอธิบายใด ๆ ต่อไปแล้ว

“มันจบแล้วละ ......” เสียงที่เปล่งไม่อาจสู้เสียงฝนที่ตกกระหน่ำ จึงมีแค่เธอที่ได้ยินเสียงของเธอเอง

“เฮ้อ” เธอถอนหายใจเหมือนละทิ้งความคิดทุกอย่างหอบร่างอันเปียกโชก เดินฝ่าสายฝนไปตามถนนในมหาวิทยาลัย จนออกมานอกรั้วมหาลัย เมื่อถึงข้างถนนใหญ่บริเวณป้ายรถเมล์ มือทั้งสองข้างสลับกันทำหน้าที่ปาดน้ำตาไปพร้อมกับหยาดฝน และเมื่อยืนนิ่งสิ่งต่างๆ ก็ถาโถมเข้ามาในความคิด จนทำให้เธอรู้สึกว่ารับไม่ไหวแล้ว ตาทั้งสองข้างเหนื่อยล้าจนปิดลง สติที่มีอยู่ก็ค่อย ๆ เลือนลาง

ก่อนที่สติจะหมดไปเธอได้ยินเสียงผู้ชายที่แผ่วเบา “พี่ พี่... เป็นอะไร ไหวไหม” เธอเห็นผู้ชายซึ่งไม่ชัดนัก จดจำได้แค่ว่าเป็นชุดนักศึกษามหาวิทยาลัย ก่อนร่างกายที่พยายามใช้สติประคองเดินมาตลอดทางก็ทิ้งตัวลงพลันราวกับอยากทิ้งทุกอย่างที่รับมาวันนี้ออกจากชีวิตไป

ณ. ห้องพิเศษส่วนตัว โรงพยาบาล

หญิงสาวที่ยังคงหลับใหลไม่ได้สติมา 1 วันเต็ม นอนแน่นิ่งบนเตียงสีขาวในโรงพยาบาลห้องพิเศษ เพราะฤทธิ์ยา ใบหน้าขาวแลดูซีดเซียว แต่ยังคงความงดงามอยู่มากนัก คิ้วได้รูป ตาโต จมูกคมสัน ปากกระจับได้รูป ผิวขาวราวหยก คนที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ในมหาลัยมากมาย ผู้ไม่เคยมีความรักมาก่อน พอเปิดใจและได้ลองรักใครสักคน จึงทุ่มเทไม่คิดหน้าคิดหลัง กลับถูกเขาคนนั้นทำลาย เหยียบย่ำ หักหลังไม่เหลือชิ้นดี เธอคนนี้ชื่อ เดย์ ปัจจุบันกำลังขึ้นปี 4 คณะศิลปกรรม เอกศิลปะการถ่ายภาพ นอกจากขึ้นชื่อเรื่องความสวยแล้ว บุคลิกเฟรนลี่กับเพื่อน มาก แม้บางครั้งจะดูเงียบและขรึมไปบ้าง นิสัยลุย ๆ ชอบอ่านการ์ตูน เล่นเกม แต่กลับฉลาดเรียนดี

จากความมืดมิดเริ่มเห็นแสงสว่างรำไรผ่านเปลือกตา ดวงตาเล็กๆ ค่อยๆ เปิดรับแสงจ้าที่สาดส่องผ่านม่านหน้าต่างในห้อง เธอกะพริบตาเป็นระยะพักหนึ่ง จนดวงตาคุ้นชินกับแสงสว่าง แล้วพบว่า ภายในห้องยังมีผู้ใหญ่สองคนที่มีเธอเป็นดั่งแก้วตาดวงใจจากห้องที่เงียบสงัด ก็มีเสียงดังกึกก้องทันทีเมื่อเธอตื่นขึ้น

“คุณคะ...คุณ ลูกฟื้นแล้ว คุณไปตามหมอให้ที” แม่หันไปเอ่ยกับพ่อของเดย์ หน้าจากที่หม่นหมองก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มทันทีที่ดวงใจของเธอได้สติ ส่วนพ่อของเธอก็ดีใจไม่แพ้กัน รีบปรี่ออกจากห้องเพื่อตามหมอทันที

“แม่คะ ที่นี่ที่ไหนคะ” เสียงอันแผ่นเบาฟังแล้วดูอิดโรยอยู่มาก และยังสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเธอหมดสติไป

“โรงพยาบาลไงลูก ลูกเป็นไข้สูง แล้วหมดสติไป ตอนโรงพยาบาลโทรแจ้งแม่ตกใจรีบลากพ่อมาที่นี่ทันทีเลย ทำไมไม่สบายไม่บอกแม่ ไม่มาหาหมอล่ะลูก”

“ขอโทษนะคะแม่ เดย์คิดว่าไหว ไม่รู้ว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ค่ะ คราวหน้าจะระวังนะคะ”

“ลูกปลอดภัยแม่ก็ดีใจมากแล้ว แม่ใจหายใจคว่ำหมด พ่อกับแม่ยอมทิ้งการประชุมบริษัทมาเลยนะ รู้รึยังว่าแม่กับพ่อ รักลูกและห่วงลูกแค่ไหน”

“เดย์ ก็รักพ่อกับแม่นะคะ ไม่มีใครรักเดย์เท่าพ่อกับแม่แล้วในโลกนี้”

“ป่วยขนาดนี้ยังปากหวานนะลูก”

สิ้นการสนทนาของทั้งสอง ผู้เป็นพ่อที่ออกไปตามหมอ ก็พาหมอ และ พยาบาลมาตรวจอีกครั้ง หมอได้ตรวจวัดไข้ดูอาการพื้นฐานแล้ว ก็พบว่า อยู่ในสภาวะปกติอาการไม่น่าเป็นห่วง

“ลูกผมเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ”

“ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วครับ เหลือแค่ยังมีไข้สูงเล็กน้อย พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ” สิ้นเสียงหมอ ใบหน้าของพ่อและแม่ของเธอ ก็กลับมายิ้มเต็มอิ่มได้เสียที

“เอ่อ คุณหมอคะ ใครเป็นคนพาหนูมาส่งโรงพยาบาลคะ เดย์อยากจะไปขอบคุณเขานะคะ เขาได้แจ้งชื่อไว้ไหมคะ”

“ผมไม่ทราบนะ เออคุณพยาบาลได้เห็นไหม” หมอหันไปถามพยาบาลข้าง ๆ ที่น่าจะรู้เหตุการณ์กว่าตน

“ไม่ทราบชื่อนะคะ ทางเขาไม่สะดวกแจ้งชื่อเบอร์โทรเลยค่ะ แต่ว่า วันที่เขามาส่งนี่ตราตรึงมากนะคะ เล่ากันทั้งโรงพยาบาล” พยาบาลที่อธิบายไปยิ้มไป เริ่มทำให้เธอสงสัยมากขึ้น

“ยังไงคะ”

“วันนั้น มีผู้ชายสูงโปร่งหน้าตาดี แบกคุณมาตัวเปียกทั้งตัวคุณและเขา ตอนแรกพยาบาลที่ห้องฉุกเฉินนึกว่าเป็นแฟนคุณ จะสอบถามเขา แต่เขาไม่สะดวกแจ้งอะไรเลย”

“แบบนั้นคงตามหาเขาเพื่อขอบคุณเขาไม่ได้แล้วละสินะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ”

“เอ๊ะ จริงสิ ไม่รู้ว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ให้คุณรึเปล่านะคะ คุณรู้จักหรือเล่น แอป THLL”

“รู้จักสิคะ เล่นอยู่เหมือนกันค่ะ แล้ว...มันเกี่ยวกับเขายังไงคะ” เธอสงสัยจึงถามพยาบาลต่อ

“ฉันเห็นกระเป๋าที่เขาสะพาย ห้อยพ่วงกุญแจไดม่อนของApp นั้นอยู่นะคะ ฉันว่าถ้าไม่โด่งดังในแอปนั้นก็ต้องรู้จักคนดังในแอปนั้นแน่ๆ ค่ะ”

“ขอบคุณมากค่ะ” หลังจบการสนทนาหมอ และพยาบาลก็ออกจากห้องไป

“เอ่อ......แม่คะ มือถือของเดย์อยู่ไหนคะ”

“แม่เอาให้คนขับรถไปร้านซ่อมแล้ว ร้านบอกว่ามันพังแล้วนะลูก เดี๋ยวแม่ซื้อเครื่องใหม่ให้นะ”

“เหรอคะ ดีเหมือนกัน พังไปได้ซะก็ดี แล้วเดย์ก็อยากเปลี่ยนเบอร์ด้วยค่ะ”

“เป็นอะไรรึเปล่าลูก มีใครกวนใจลูกรึเปล่า”

“ไม่มีอะไรค่ะแม่ แค่ดีใจจังที่จะได้มือถือใหม่” ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยการฝืนยิ้ม

“ลูกคนนี้ก็นะ เจ้าเล่ห์เหมือนพ่อไม่มีผิด สมกับเป็นพ่อลูกกัน” แม่พูดแล้วจึงหันไปหยอกผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนโซฟา

“ลูกผมก็จริง แล้วก็เป็นลูกคุณด้วยนั่นแหละ เหมือน ๆ กันทั้งครอบครัว”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะทั้ง 3 คนกึกก้องไปทั่วห้อง จากนั้นก็มีเสียง ที่ดังมาจากประตู

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงเคาะประตูเป็นระยะทำให้เสียงหัวเราะพวกเราชะงักลง ผู้เป็นแม่จึงเดินไปเปิดประตูให้ก็พบว่าเป็นเพื่อนของลูกตนที่เห็นมานาน

“อ้าว หนูมีน เชิญเข้ามาจ้า”

“ขอบคุณมากค่ะ คุณน้า” มีนเอ่ยทักแม่ของเดย์ก่อนจะหันมาหาเดย์ “ยัยเดย์เป็นไงมั่ง ตอนรู้ตกใจแทบแย่แหนะ” เสียงที่มาก่อนตัวเสมอ มีนคือเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอที่เรียนเอกเดียวกัน และรู้จักกันมาตั้งแต่ ม.ต้น และเรียนที่เดียวกันมาจวบจนมหาวิทยาลัย

“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

“ฉันแจ้งอาจารย์เราไว้แล้ว ว่าแก่ป่วย เข้า โรงพยาบาล”

“ขอบใจมากนะแก”

“ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้น” มีนเข้าไปกระซิบข้างหูเดย์ เนื่องจากมีนพอรู้อะไรมาบ้าง

“เอาไว้คุยทีหลังนะแก ไว้จะเล่าให้ฟัง”

“เคร เคร” ทั้งสองคนยังคุยกันเรื่องสัพเพเหระ รวมไปถึงเรื่องการเรียนที่เธอขาดไป 1 วันเต็ม สักพัก แม่ของเดย์ก็แทรกเสียงเข้ามาคุยด้วย

“เออลูก แม่ย้ายของลูกออกมาจากคอนโดแล้วนะ” แม่พูดพลางปอกเปลือกผลไม้ไป เดย์ได้ยินถึงกับสะดุ้งเพราะเธอไม่อยากอยู่บ้านตอนเรียนเพราะไม่สะดวก

“แม่............... ทำไมทำแบบนั้นละคะ”

“ก็คอนโดนั้น มันห่างจากมหาวิทยาลัย ทางก็เปลี่ยวตอนกลางคืน ถ้าลูกไม่สบายออกมาหาอะไรทานก็ลำบากแม่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ลูกอยู่ที่นั่นต่อ แม่จะขายคอนโดนั่นซะ”

“แต่บ้านเราก็ไกลมากนะคะ เดย์จะขึ้นเรียนปี 4 แล้ว ต้องเริ่มโปรเจคจบอีก”

“แม่ก็ไม่ได้จะให้ลูกมาอยู่บ้านสักหน่อย”

“เอ๊ะ ...” เธอมีท่าที่แปลกใจกับแม่ เพราะตัวแม่เองเป็นคนที่พยายามกล่อมให้เธอกลับไปอยู่บ้านมาตลอด

“แม่จะช่วยหาที่พักดี ๆ ให้ลูกน่ะ แม่จะได้สบายใจ แต่ตอนนี้แม่ยังคิดไม่ออก”

“คุณน้า ให้เดย์มาพักที่เดียวกับมีนไหมคะ” มีนที่ฟังด้วยได้เสนอแนะ เพราะมีนอยากให้เดย์มาพักด้วยนานแล้ว

“หนูมีนพักที่ไหนเหรอลูก” แม่ของเดย์ถาม

“นี่แก .......แกก็รู้ว่าฉัน ....” เดย์ที่ฟังเอื้อมมือไปดึงแขนเสื้อของมีน ราวกับจะให้มีนหยุดเสนอความคิด เพราะเดย์ชอบอยู่ห้องเดี่ยวไม่ชอบร่วมห้องกับคนอื่นแม้จะสนิทแค่ไหนก็ตาม

“เออนา ไม่ได้นอนห้องเดียวกับฉันหรอก อีกอย่างนะ อย่างที่คุณน้าเขาบอกคอนโดของแกอยู่ไกลเกินไป อันตราย ฉันก็คิด และเป็นห่วงแก แต่แกมันดื้อเกินไปฟังเพื่อนที่ไหน” พอมีนอธิบาย เดย์ที่รับฟังก็พอเข้าใจจึงค่อย ๆ ปล่อยมือและรับฟังคำเสนอแนะของเพื่อนต่อ

“คุณน้าคะ ที่มีนพักอาศัย มันไม่ใช่แมนชั่น คอนโด หอพักหรอกค่ะ มันเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ ที่เขาปล่อยห้องในบ้านเช่า อยู่กันแบบครอบครัว เจ้าของเขามีห้องพักอยู่ 5 ห้องจึงปล่อยให้นักศึกษาพักนะคะแล้วตอนนี้ ว่าง 2 ห้องพอดี เพราะมีรุ่นพี่ที่จบปีนี้ ย้ายออก แต่ดูเหมือนมีจองไปแล้ว 1 ห้อง เหลืออีกห้องค่ะ ใกล้มหาลัยมาก ไม่อันตรายแน่นอน แถมมีหนูคอยดูแลเดย์ได้ด้วยนะคะ ส่วนค่าเช่าไม่แพงเลยค่ะ”

“น้าไม่ได้ห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอกนะ ขอแค่ปลอดภัย ถ้ามีหนูมีนอยู่ใกล้ ๆ แม่ก็อุ่นใจ แล้วลูกละว่าไง” แม่หันไปถามเดย์ที่ยังคงคิดพิจารณาจากที่มีนกล่าวมา

“ก็แม่เล่นขนของ ออกจากคอนโดนั่นแล้ว เดย์ก็คงหาที่พักไม่ทัน”

“จะมาโทษแม่ไม่ได้นะ โทษที่ลูกไม่ดูแลตัวเองให้ดี ทำให้แม่เป็นห่วงเอง”

“งั้นเอาเป็นว่า ถ้าหนูกลับที่พัก จะไปแจ้งคุณลุงคุณป้าเจ้าของที่พักไว้ให้นะคะ คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะเดี๋ยวหนูจัดการเอง” มีนพูดกับแม่ของเดย์ จากนั้นจึงหันไปคุยกับเดย์ต่อ

“ว่าแต่แกออกจากโรงพยาบาลวันไหนล่ะ”

“พรุ่งนี้อ่ะ ฉันแค่เป็นไข้สูงแล้ววูบเท่านั้นแหละ”

“งั้นพรุ่งนี้ แกก็ขนของย้ายไปที่พักได้เลย ฉันจะรอ เดี๋ยวส่งที่อยู่ให้แกละกัน”

“เออ มือถือฉันพัง แกส่งให้แม่ฉันก่อนแล้วกันนะ”

“มิน่า ทุกคนติดต่อแกไม่ได้เลย งั้นก็ตามนั้นละกัน เดี๋ยวฉันกลับก่อน จะได้รีบคุยกับคุณลุงคุณป้าให้”

“เออ กลับดี ๆ ล่ะ พรุ่งนี้เจอกัน ขอบใจที่เป็นภาระให้นะแก” เดย์พูด

“เพื่อนกันทำให้กันได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว” มีนพูดพร้อมกับยิ้มจนตาหยี่ ก่อนจะหันไปลาคุณพ่อ คุณแม่ของเดย์

“กลับก่อนนะคะ คุณอา คุณน้า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel