บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 - ชีวิตปกติของแอม

เสื้อช็อปในวันนั้น กลายเป็นเสื้อนอน เสื้อคลุม เสื้อกันหนาว เสื้อกันแมลง แอมเอามันมาใส่ทุกครั้งที่คิดถึงวาคิน เธอจำเขาได้แม่นมากในตอนที่ได้อยู่กับเขา หลังจากที่ได้กันในครั้งหนึ่งเธอได้เสื้อของเขามาเป็นที่ระลึกจริงๆ

เพื่อแลกของกันแอนจึงถอดต่างหูพ่วงไม้กางเขนข้างหนึ่งให้แก่เขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนเจาะหูก็ตาม เขาบอกกับเธอว่าครั้งต่อไปเขาจะซื้อแหวนมาหมั้นเธอ

อาทิตย์นึงล่ะ หลังจากนั้น มันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ แอมเดินทางมาที่ห้างเพื่อเล่นตู้เกมหยอดเหรียญ อย่างที่เคยเล่น แต่ไม่พบเขามาเล่นเลย ใจเด็กสาวเริ่มหวั่นไหวว่านี่เธอใจง่ายไปหรือเปล่า และเธอก็ยังจำได้ว่าเพื่อนเขาวาคินก็อยู่แถวนั้น แต่ตัวเขากลับไม่อยู่

แอมจึงพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อจะคุยกับเพื่อนของวาคินถามถึงเขาว่า

“ขอโทษนะคะ เป็นเพื่อนของวาคินหรือเปล่าคะ” แอมถามถึงวาคินเพราะว่าเธออยากพบเขาอีก

“ใช่ครับ ใช่น้องคนที่เล่นเกมตู้หยอดเหรียญจริงๆคนนั้นหรือเปล่า วันนี้วันอาทิตย์มันไม่ว่าง เขาติดงานส่วนตัวครับ” เพื่อนคนนึงของวาคินตอบมาเพราะเขาก็ยังอยู่กับเพื่อนอีกหลายคนในกลุ่มซึ่งมาที่ห้างตามปกติ

“ช่วยบอกวาคินได้ไหมคะว่าฉันอยากพบเขาอีก” แอมตอบเขาด้วยความสุภาพหวานเพียงว่าเพื่อนๆของวาทีจะช่วยเหลือเธอกับเขาได้บ้าง

“เดี๋ยวผมบอกให้ครับ ไม่รู้ว่าเขาจะว่างมาอีกเมื่อไหร่” เพื่อนชายทั้งกรุ๊ปต่างมองหน้ากันแล้วยิ้ม ทั้งงงทั้งขำ แต่เขาก็ยินดีช่วยเหลือแอมตามที่เธอขอ

“ขอบคุณค่ะ” ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เจอกับเขาง่ายเหมือนตอนที่เล่นตู้เกมหยอดเหรียญอย่างที่เคย แม้ว่าแอมจะพยายามข่มใจหลายครั้งว่าเธอนี้ไม่น่าหลวมตัวแบบนี้เลย มีแต่เสื้อช็อปของเขาที่ยังอยู่ที่บ้านของคุณเธอ

******

โดยไม่รู้หรอกว่าการที่เธอมาเล่นตู้เกมหยอดเหรียญในครั้งนั้น แอมพึ่งจะสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักไป เธอจึงคลายเครียดด้วยการเล่นตู้เกมหยอดเหรียญ ลืมความโศกเศร้าไปบ้าง ลืมความเครียดความกดดัน ซึ่งแม่ของเธอพยายามจะจับเธอคลุมถุงชน กับชายที่เธอไม่รู้จักอยู่ตลอดเวลา

แต่กับชายแปลกหน้าคนนั้น จะได้รู้สึกถึงความอบอุ่นและความจริงใจของเขาในเวลานั้น แค่อยากทำความรู้จัก เขากลับรู้จักเธอเสียลึกซึ้ง จนแอมพูดอะไรไม่ออก การที่จะได้พบกับวาคินอีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องง่าย นี่เขาหายไปไหนนะ

******

จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี จากปีเป็นหลายปี แอมได้เติบโตบนความทรหด อดทนหลายเรื่อง เพราะเธอมีความต้องการอยากทำงานอาชีพเป็นครูสอนดนตรีภาควิชาเปียโน เธอจึงเริ่มลืมเลือนวาคินไปจากใจ เหลือเพียงเสื้อช็อปตัวนั้นที่เป็นที่ระลึกอยู่ราวกับของสำคัญที่แอมยังเก็บไว้

แอมตั้งใจฝึกฝนการเรียนเปียโนจนถึงขั้นสอบตกเป็นครู แล้วเธอก็ได้เขียนโน้ตเปียโนขึ้นมา เพื่อสอนนักเรียนของเธอ เด็กๆรักเธอทุกคน อยากเรียนกับเธอ เพราะว่าได้โน้ตที่อยากเล่น แอมยินดีทุกอย่างที่จะเขียนโน๊ตเองก็ได้ เพื่อขอได้พบกับวาคินอีกครั้ง แต่เธอก็ยังใส่เสื้อช็อปของวาคินมาสอนดนตรีอยู่ดี มันกลายเป็นของสำคัญของเธอไปแล้ว

จากเด็กวัยรุ่นในวันนั้น ตอนนี้เธอก็เริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เด็กสาวในวันนั้นตอนนี้กลายเป็นครูสาวที่ไม่ยอมมีแฟนกับใครง่ายๆ เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าชีวิตวัยรุ่นได้เคยใจง่ายไปแล้วกับชายคนนึง พบเขาเพียงแค่ครั้งเดียว มีแต่ความทรงจำและเสื้อช็อปตัวนั้น ไม่เชิงว่าเขาขโมยหัวใจเธอ แต่เขากลับได้ครั้งแรกของเธอไป

แอมถอนหายใจ และตั้งใจสอนโน้ตให้กับลูกศิษย์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เด็กๆมีความสุขที่ได้เล่นเพลงที่อยากเล่น พร้อมๆกับคำว่าขอบคุณตอนท้ายชั่วโมงก่อนจากลา แอมยิ้มแย้มโบกมือให้ความรู้สึกตัวน้อยๆ ไม่ได้หวังอะไรมากขอเพียงแค่ให้ลูกติดทุกๆคนมีความสุขกับการเล่นเพลงที่เธอเขียน โน๊ตทุกเพลงที่เธอเขียนขึ้นมาไม่ได้ประพันธ์แต่ละอย่างใด แต่เพียงแค่เขียนเป็นโน๊ตเปียโนเพื่อให้นักเรียนได้เล่นอย่างมีความสุข

******

ข่าวดีการเขียนโน๊ต มันเป็นความสามารถของเธอ ดังไปจนถึงประเทศญี่ปุ่นจากต้นทางสาขาดนตรี วิชาเปียโน ทำให้แอมได้รับข่าวว่าจะมีตัวแทนจากญี่ปุ่น มาขอชมโน้ตที่เธอเขียนเพื่อเชิญเธอไปเป็นครูพิเศษในระดับวิชาการ

แอมไม่คิดว่าความสามารถของเธอจะทำให้เธอก้าวกระโดดกว่าการเป็นครูสอนดนตรีธรรมดาทั่วไป บางครั้งความสามารถของเธอก็เป็นที่อิจฉาของครูสอนดนตรีผู้มีอายุ เพราะเธอเป็นครูสอนดนตรีเปียโนรุ่นใหม่ในยุค 90 การเล่นดนตรีของเธอจึงไม่เหมือนคนยุคแรกๆ

แอมรู้สึกยินดีกับความก้าวหน้าทางการงาน แม้ว่าทั้งความรักเธอจะเงียบเหงาและไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับใครเลย แม้ว่าจะมีผู้ชายหลายคนพยายามเข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอก็ตาม แอมตั้งใจจะเป็นโสด ถ้าไม่มีใครเหมือนพ่อเธอ แอมคิดว่าจะขึ้นคานดีกว่า

และแล้วการทดสอบโน๊ตเปียโนที่แอมเขียนก็เริ่มมีตัวแทนจากญี่ปุ่นเดินทางมาถึงที่โรงเรียนสอนเปียโน จิตใจครูสาวที่อายุ 20 ต้นๆ ค่อนข้างตื่นเต้นมาก บอกว่าเธอเป็นครูที่อายุน้อยที่สุดในโรงเรียนดนตรี คงไม่แปลกถ้าจะเข้ากับเด็กๆอายุน้อยๆได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ

ทั้งตื่นเต้นและตื่นตระหนกมาก แอมพยายามรวบรวมอุปกรณ์และโน๊ตกระดาษขาวดำทั้งหมด เพื่อนำเสนอให้กับตัวแทนจากญี่ปุ่น ไปเขาได้ชมว่าเธอมีความสามารถในการเขียนโน้ตสำหรับการสอนโน้ตเปียโนให้แก่ลูกศิษย์ได้ ให้กับทางโรงเรียนดนตรีมีน้อยพิเศษให้กับนักเรียนทุกคนที่ต้องการ

คณะกรรมการคือเจ้าของโรงเรียน ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายผู้คุมสอบ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาดนตรี และตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น ผู้คนมากมายเหล่านี้ทำให้แอมรู้สึกใจสั่น รู้สึกประมาททันทีราวกับจะโดนจับผิด เธอแค่ต้องการเสนอโน้ตเป็นหนึ่งที่เขียนขึ้นมาเท่านั้นเอง

เธอถูกสอบถาม ว่าเขียนโน๊ตขึ้นมาได้ยังไง ให้แอมสาธิตให้ดูบ้าง เล่นโน้ตให้ดูบ้าง ในเวลานั้นเองที่ตัวแทนจากญี่ปุ่นต้องใช้ล่ามคนไทยเพื่อแปลให้แอมฟัง เขาสนใจเพียงแค่ว่าเธออายุน้อยมาก แต่มีความสามารถมากกว่าครูผู้มีอายุมากกว่า แอมค่อนข้างขัดเขินกลับคำชมของเขา แล้วรู้สึกปลื้มในความสามารถของตัวเองที่ทำให้เขาสนใจในความเก่งกาจของเธอ

การทดสอบและแสดงโน๊ตทั้งหมดนี้ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ แอมคิดว่าถ้ามันไม่ผ่านก็ไม่เป็นไร เพราะถึงอย่างไรโน้ตพวกนี้ก็ขายไม่ได้อยู่แล้ว แอมแค่มีความสุขที่ได้เล่นดนตรีกับเด็กๆ แล้วทำให้เด็กๆรู้สึกมีความสุข มากกว่าเบื่อการเล่นดนตรี

******

ตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่น เขามีหน้าตาที่ดูดี และสายตาของเขาก็สนใจเธอเป็นอย่างมาก แอมตั้งใจว่าจะไม่ยอมหลอมตัวแบบนี้กับชายแปลกหน้าอีกคนแน่ๆ เธอหวังว่าเสื้อช็อปตัวนั้นจะเป็นบทเรียนให้กับเธอ

แอมตั้งใจที่จะเสนอเพลงและโน้ตที่เขียนนี้แล้วยื่นให้กับพวกเขา เพราะมันจะเป็นโน๊ตเพลงแบบใหม่ สำหรับการสอนโน๊ตเปียโนให้กับเด็กๆรุ่นใหม่ต่อจากนี้ไป

เมื่อจบการนำเสนอแล้ว แอมไม่ได้เอะใจอะไรเลยกับตัวแทนที่มาจากญี่ปุ่น ชายผู้นั้นมีสีหน้ายิ้มแย้มและชอบใจกับการเขียนโน้ตของเธอมาก ถึงขั้นขนาดเขาอยากชวนเธอไปทานข้าวเย็นด้วยกัน แอมรู้สึกว่าไม่อยากอยู่กับผู้ชายสองต่อสอง แค่กับวาคินพบกันครั้งเดียว เขาก็หายไปจากชีวิตซะแล้ว

แอมจึงขอตัวลากลับก่อน เธอคำนับบอกลาอย่างสวยงาม แอมคิดอยู่เสมอว่า การนำเสนองานเขียนโน้ตดนตรีครั้งนี้ให้กับตัวแทนชาวญี่ปุ่น จะทำให้เธอมีรายได้ในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้น และสามารถเก็บเงินไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในระดับต่อไปได้

“ขอบคุณคุณครูแอมมากนะคะ โน๊ตทั้งหมดนี้ทางโรงเรียนดนตรีจะนำไปพิจารณาเพื่อเป็นโน๊ตให้กับนักเรียนในโรงเรียนดนตรีต่อไปนะคะ”

แอมดีใจมาก ที่โน้ตดนตรีเหล่านี้จะได้รับการเผยแพร่ในโรงเรียนดนตรีและสอนให้กับนักเรียนในโรงเรียนต่อไป เธอจะได้งานเพิ่ม รายได้ก็คงจะเพิ่ม และก็คงไม่ต้องชายตาแลชายใดๆอีก แอมกล่าวลาและเดินทางกลับบ้าน

แต่สำหรับครูสอนดนตรีอีกหลายๆท่านในโรงเรียนดนตรี ยังต้องอยู่ประชุมต่อไปรวมทั้งตัวแทนจากญี่ปุ่นด้วย เขามีนามว่า “ฟุคุโอะ อาเคดะ” เขามีความสนใจในความสามารถของแอม และคิดอยู่ว่าคนดีๆเก่งๆแบบนี้ไม่น่ามาอยู่ในโรงเรียนดนตรีในเมืองประเทศไทย สายตาของชายคู่นี้มองแอมผู้มีความสามารถเป็นพิเศษ

******

แอมเดินทางกลับมาถึงบ้าน มันเป็นบ้านของพ่อที่ทิ้งไว้ให้เธอหลังจากเขาตายไปแล้ว เธอไม่มีวันลืมว่าเมื่อไม่มีพ่อ เธอลำบากเพียงใด ทะเลาะกับแม่มากแค่ไหน แล้วตอนนี้ดีที่สุดก็คือแม่ย้ายตัวเองออกไปอยู่กับคนอื่น ใครก็ได้ที่ไม่ใช่กับเธอ แม้ว่าแม่จะกลับมารบกวนเธอเพราะต้องการขอเงินก็ตาม แอมยินดีให้แต่ว่าไม่ใช่ทั้งหมด

อย่างน้อยเสื้อช็อปตัวนั้นก็ยังอยู่นะ ไม่หายไปไหน แอบหยิบมันขึ้นมาสวมกอด รู้สึกเหมือนวาคินยังอยู่ แม้ว่าหลังจากวันนั้นแล้วเธอไม่มีชายใด ไม่มีการคบหากับชายอื่น เพราะแอมไม่อยากมีประวัติเสียหายก่อนการทำงานเป็นครูสอนดนตรีด้วย

“วันนี้มีคนมาทดสอบโน้ตเพลงที่ฉันเขียนนะ ถึงจะผ่านหรือไม่ผ่าน ฉันก็ไม่เสียใจหรอก แต่อยากพบคุณอีกจัง ฉันคิดถึงคุณมาหลายปีแล้ว คุณคงลืมฉันไปแล้วสินะ ฉันจะพยายามคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน แม้ว่าเสื้อที่ฉันกอดอยู่มันจะเป็นของจริง”

******

ไม่มีใครรู้หรอกว่า วันพรุ่งนี้มันจะไม่เหมือนวันนี้

******

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel