บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 : เจอกันโดยไม่ได้ตั้งใจ

บทที่ 5 : เจอกันโดยไม่ได้ตั้งใจ

ตอนนี้ฉันขึ้นมัธยมหกแล้ว พี่เพชรสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ส่วนพี่สายชล ฉันพอจะรู้มาบ้างว่าพี่สายชลสอบติดมหาวิทยาลัยในจังหวัดใกล้ ๆ นี้เอง

นั่นคงเป็นครั้งแรกที่ฉันเริ่มมีเป้าหมายในชีวิต ฉันตั้งใจจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับพี่สายชลให้ได้

ช่วงนี้ฉันจึงตั้งใจเรียนอย่างหนัก จนพ่อแม่เองยังรู้สึกแปลกใจ ชีวิตของฉันผ่านไปอย่างเชื่องช้า นอกจากบ้าน โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา ฉันแทบไม่ได้ไปไหนเลย เพื่อน ๆ ในกลุ่มพยายามชวนฉันออกไปเที่ยวอยู่เป็นประจำด้วยความที่เป็นปีสุดท้าย เผื่อต้องแยกย้ายกันไป แต่ฉันกลับไม่มีอารมณ์จะไปไหน

จนเข้าช่วงใกล้จบการศึกษา สายไหมเดินมากอดคอฉัน “น้ำหวาน วันนี้พวกเราจะไปแฮงค์เอาท์ แกไปด้วยกันนะ นี่ก็ใกล้จะประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ไม่รู้ว่าเราจะติดที่เดียวกันหรือเปล่า”

สายไหมพูดกับฉันอย่างอ้อนวอนจนฉันใจอ่อนยอมพยักหน้าตกลง พวกเพื่อน ๆ คนอื่นต่างส่งเสียงเฮดังลั่นประหนึ่งได้รับโล่รางวัลเกียรติยศอย่างนั้นแหละ

คืนวันเสาร์พวกเราไปกินเลี้ยงกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง บรรดาเพื่อน ๆ ต่างชวนฉันกินเหล้า รสชาติของมันออกจะขมเฝื่อน น้ำสีทองไหลลงจากคอสู่ท้องให้ความรู้สึกร้อนผ่าวทันที

ฉันฝืนกินไปเพียงสองแก้วก็เริ่มรู้สึกมึนหัว พวกเพื่อนฉันต่างหัวเราะชอบใจกับความคออ่อนของฉันยิ่งนัก พวกเราสนุกกันอยู่ครู่หนึ่ง ฉันจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

ระหว่างที่เดินกลับมาที่โต๊ะนั้น จู่ ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายฉัน

“สวัสดีครับ ผมชื่อพล ผมอยากรู้จักคุณครับ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร” เสียงของเขาแม้ไม่เบามากแต่ความมึนหัวทำให้ฉันแทบฟังไม่รู้เรื่อง “ว่าไงนะคะ” ฉันทวนคำถามซ้ำอีกหน

จังหวะนั้นผู้ชายคนนั้นถือโอกาสโน้มตัวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น จนฉันผงะถอยหลังไป เขาเอื้อมมือมาคว้าแขนฉันไว้ด้วยคงกลัวฉันจะล้มคะมำลง

“ไม่เป็นไรนะ” เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงห่วงใย ฉันชักแขนออกจากการจับก่อนตอบ

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ฉันรีบก้มหน้าจะเดินหนี ทว่าพลยังคงเดินมาปาดหน้าฉันอย่างไม่ยอมแพ้

“ผมเห็นคุณนั่งกับเพื่อน ๆ สักพักแล้ว ผมอยากรู้จักคุณจริง ๆ” ฉันได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้ดี ฉันเหลียวซ้ายเหลียวขวาอย่างพะวง

ทันใดนั้นจู่ ๆ ก็มีมือใหญ่โอบเข้าที่บ่าฉันอย่างถือวิสาสะ ฉันเงยหน้ามองอย่างตกใจ แล้วก็ยิ่งตกใจมากขึ้นเพราะคน ๆ นั้นก็คือพี่สายชล

“มีปัญหาอะไรกับน้องพี่รึเปล่า” พี่สายชลถามชายหนุ่มข้างหน้าอย่างหาเรื่อง

“เอ่อ...ไม่ครับไม่มี” พลรีบตอบก่อนจะเดินจากไป

ฉันยังคงมองหน้าพี่สายชลค้างอยู่อย่างนั้น พี่สายชลตวัดสายตาดุใส่ฉันทันทีที่อยู่กันสองคน

“เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมมาเมาอยู่ตรงนี้” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไร พี่สายชลก็ดุใส่ฉันทันที ฉันได้แต่มองพี่สายชลด้วยสายตารู้สึกผิด แต่ฉันก็ยังแอบสงสัยไม่ได้ว่าฉันผิดอะไรกันแน่ ยังไม่ทันไรพี่สายชลก็จับมือฉันเดินออกไปนอกร้าน

“พี่ชล จะไปไหน” ฉันถึงขั้นร้องเหวอออกมา

“พากลับบ้าน” พี่สายชลตอบฉันด้วยน้ำเสียงห้วน

“เดี๋ยว หวานยังไม่ได้บอกเพื่อน ๆ เลย” ฉันรีบยื้อมือของเขาด้วยกลัวเพื่อน ๆ จะเป็นห่วงที่ฉันหายตัวไป

พี่สายชลหยุดชะงักไปครู่ ก่อนจะจูงมือฉันกลับเข้าร้านอีกครั้ง แต่มือใหญ่นั้นยังคงไม่ยอมปล่อยฉัน ฉันเองก็ไม่คิดอยากให้เขาปล่อยมือเช่นเดียวกัน ตอนนี้หน้าฉันแดงเรื่อ ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหล้าที่กินเข้าไปหรือเพราะผู้ชายตรงหน้านี้กันแน่

“น้อง ๆ ครับ พี่พาน้ำหวานกลับบ้านก่อนนะ” พี่สายชลเดินไปถึงโต๊ะก็ไม่รอให้ฉันได้พูดอะไรเช่นเคย

พวกเพื่อน ๆ ฉันมองกันตาค้างด้วยแปลกใจที่มีชายหนุ่มเดินจูงมือฉันกลับมาถึงโต๊ะแถมยังบอกว่าจะพากลับบ้านอีก มีเพียงสายไหมที่ทำหน้าพยักพเยิดใส่ฉันราวกับใคร่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ใช่คนที่ฉันเอาแต่บ่นถึงให้ฟังหรือไม่

ฉันมองเพื่อนอย่างยิ้ม ๆ ก่อนจะพยักหน้ารับ สายไหมยิ้มแก้มแทบปริ “พี่สายชล ฝากน้ำหวานด้วยนะคะ”

พี่สายชลยักคิ้วขึ้น ก่อนจะก้มหน้าบอกลาทุกคน แล้วจูงมือฉันออกจากร้านทันที

Part : พี่สายชล

ผมกลับบ้านช่วงเสาร์อาทิตย์ เพื่อน ๆ จึงนัดรวมตัวกันไปสังสรรค์กัน

ระหว่างที่ผมกำลังจะกลับสายตาก็พลันไปปะทะเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอช่างดูคุ้นเคยเหมือนกับคนที่ผมเฝ้าคิดถึง แมวน้อยของผมนั่นเอง

ระหว่างที่ผมจะเดินเข้าไปหาเธอ ผมก็สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินตัดหน้าเข้าไปคุยกันเธอ จากนั้นภาพที่ผมเห็นคือพวกเขามีการจับไม้จับมือกันด้วย

ผมถึงกับรู้สึกฉุนขึ้นมาทันควัน ผมรีบสาวเท้าเข้าไปโดยไม่รอช้า พร้อมทั้งโอบร่างบางไว้กับตัวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

กลิ่นเหล้าบาง ๆ โชยเข้าจมูกผมทำให้ผมรู้ว่าเธอมีอาการเมาเล็กน้อย

หลังจากผมไล่ผู้ชายคนนั้นไปแล้ว ผมก็ยังไม่หายหงุดหงิด จึงหันไปดุแมวน้อยของผมอีกรอบ ก่อนที่ผมจะตัดสินใจพาเธอกลับบ้านทันที

มือผมกอบกุมมือเธอโดยไม่ทันได้คิดอะไร แต่ท่าทางของเธอที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง ใบหน้าแดงระเรื่อ พร้อมรอยยิ้มที่ดูเขินอาย ทำเอาผมชะงักไปชั่วครู่ทีเดียว

ผมไม่ได้ปล่อยมือเธอออกแต่กลับยิ่งกระชับมือบางนั้นไว้แน่น หลังจากเธอยื้อผมด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ผมจึงตัดสินใจพาเธอกลับไปที่โต๊ะอีกครั้งก่อนจะบอกลาเพื่อน ๆ ของเธอ

เพื่อนเธอคนหนึ่งบอกฝากผมให้ช่วยดูแลน้ำหวานด้วย ผมอดนึกแปลกใจไม่ได้ว่าเพื่อนเธอคนนี้รู้จักผมได้อย่างไร

ผมทำเพียงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจูงมือเธอออกไปทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel