แค้นที่ 5 ไอ้สารเลว
"เลือดงั้นหรือ เหอะ"
เขาร้องออกมากับตัวเองเมื่อถอนแกนกายออกพร้อมกับเลือดแดงฉานที่ปะปน ทว่าไม่นานความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นเย้ยหยัน
'หึ สงสัยจะเก็บไว้ให้ไอ้ฆาตกรชู้รักนั่นสินะ เสียใจด้วยนะที่ฉันเป็นคนได้มันไป' ศิลายิ้มอย่างพอใจเมื่อคิดว่าเจนิสเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เธอรัก แต่เขาแย่งชิงมันมาได้ ทว่ายังไม่สาแก่ใจเขาสักนิด
"มาทำไมไอ้หมอ"
ศิลาร้องถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนเป็นเพื่อนผู้พ่วงตำแหน่งหมอของเรือนจำกำลังจะเปิดประตูห้องที่เขาใช้เส้นสายและวิธีสกปรกขังหญิงสาว
"ฉันก็มาทำตามหน้าที่สิ แกขังนักโทษมาสองวันแล้ว ฉันต้องประเมินร่างกายว่าเธอสามารถอยู่ในนั้นได้อีกหรือเปล่า"
"ยังไม่ตายหรอก ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ"
"ไม่ได้! มันเป็นหน้าที่"
หมอหนุ่มว่าแบบนั้นแล้วเข้าไปทันทีไม่ฟังเสียงคนที่ใหญ่สุด ร่างของสาวน้อยที่นอนนิ่งทำเอาคนเป็นหมอรุดเข้าไปทันที
"ไอ้ศิลา! นี่แกทำอะไรเธอ ฮะ! ทำไมถึงเป็นแบบนี้"
"เสียงดังทำไมวะ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่สำออยเท่านั้นแหละ มารยาหญิงร้ายจะตายแกไม่รู้รึไง"
"สำออยบ้าอะไรล่ะ ไข้สูงจนไม่ได้สติแบบนี้! ฉันต้องพาเธอไปห้องพยาบาล"
"ไม่ต้อง! ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวก็หายเอง" หมอหนุ่มไม่ฟังเสียงเขาเช่นเคย ช้อนตัวอุ้มนักโทษสาวออกไป
"แกจะมาจ้องหน้าฉันทำไมว่ะ" ศิลาทำเป็นถามพลางมองไปทางอื่นราวไม่อยากเห็นสายตาของคนเป็นเพื่อน
"อย่ามาเฉไฉ รู้ดีอยู่แกใจนี่ว่าฉันมองทำไม"
"เออ! ฉันทำเองแหละ แต่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย ยัยนั่นอาจจะชอบด้วยซ้ำ"
"ศิลา! อย่ามาประชด ที่ผ่านมาเรื่องแบบนี้แกเข้มงวดมาตลอด แล้วทำไมถึงมาแหกกฎซะเองแบบนี้วะ หืม!" คนถูกถามยังคงตีหน้ามึน
"แล้วดูทำกับเธอสิ! รอยฟันเต็มตัวเสียขนาดนั้น เป็นหมาบ้ารึไง! เชี่ยน่าสงสารฉิบหาย ถ้าได้ตรวจภายใน ฉันไม่อยากจะคิด"
"น่าสงสารกับผีอะไร! นั่นยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความเลวที่เธอทำ!"
ราวกับว่านั้นเป็นเหมือนกรรไกรคมที่ตัดเส้นฟางแห่งโทสะของศิลาลง น้ำเสียงแข็งกร้าวเปล่งออกไปพร้อมกับตัวของเขาที่ตัวสั่นเทิ้มดวงตาแดงก่ำ หากมองดีๆ น้ำตาลูกผู้ชายกำลังเอ่อคลอออกมากับเรื่องราวที่เขายังทำใจไม่ได้
"อย่าบอกนะว่าเธอคือ..."
"..."
เขาสะบัดหน้าหนีเป็นคำตอบ นั่นทำหมอหนุ่มต้องถอนหายใจแล้วพูดเรียบ
"แต่แกก็ทำเกินไปทำไมไม่รอให้กฎหมายตัดสิน"
"โดยการประหารชีวิตนะเหรอ ฮึ! มันง่ายไป"
"แกก็เลยจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้เธอรู้สึกว่าตกนรกทั้งเป็น งั้นสิ!" ความเงียบเป็นคำตอบให้แก่หมอหนุ่มได้เป็นอย่าง
"เฮ้อ...ฉันคงห้ามแกไม่ได้สินะ ถ้างั้นระหว่างที่เธอถูกขังโดยวิธีสกปรกของแก ทุกวันอาทิตย์ฉันจะเข้ามาตรวจร่างกายและตรวจสภาพจิต ไม่ให้เธอแย่ลงจนเกิดภาวะคิดสั้น"
"แต่!"
"หรือแกอยากให้ข่าวออกไปว่านักโทษภายใต้การดูแลของเรือนจำนี้ฆ่าตัวตายโดยไร้สาเหตุ หืม..."
"เออ โว๊ย! แต่อย่ามาขวางทางฉันก็พอ!"
เห็นท่าทีที่ไม่ยอมลงของเพื่อนหมอศิลาก็จำใจต้องยอมรับข้อเสนอ ทั้งที่แสนจะขัดใจก็ตาม
ร่างกายบอบบางที่นอนหงายแสนจะบอบช้ำเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ปรือมองขึ้นเห็นเป็นฝ้าเพดานขาวๆ แม้ร่างกายจะไม่อำนวยนักแต่โดยสัญชาตญาณที่พึ่งผ่านเรื่องเลวร้ายแบบนั้นมา ทำเอาเจนิสผวารีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน พลางสาดส่ายสายตาไปมาเพื่อดูว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ที่นี่ไม่ใช่ในคุกมืด
แกร๊ก
ทันทีที่เธอได้ยินเสียงลูกบิดประตูเจนิสสะดุ้งตัวโยนราวกับได้ยินเสียงระเบิด ร่างใหญ่ที่เดินผ่านเข้าประตูมาแม้จะอยู่ในเสื้อกาวน์ดูแล้วเป็นคนใจดีคนหนึ่ง
ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอไว้ใจเลยแม้แต่น้อย มือบางคว้ากล่องปฐมพยาบาลที่มีทั้งของคมและขวดยาขว้างปาใส่เขาโดยไร้ซึ่งคำถามและการพูดคุย
"ใจเย็นก่อนครับคุณเจนิส"
หมอบดินทร์ แพทย์ประจำเรือนจำเอ่ยอย่างใจเย็นเขาเข้าใจถึงสภาวะจิตใจของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกับศิลามานานแต่เขาก็อดตำหนิการกระทำของศิลาไม่ได้
"แก ไอ้เลว ไอ้ชั่ว แก...ทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน ฮึก...ฮึก"
เธอด่ากราดใส่คนที่เดินผ่านประตูมาตามหมอ ผู้เป็นนายใหญ่แห่งเรือนจำเดินเข้ามาด้วยท่าทีเรียบเฉยดวงตาแฝงไปด้วยความสะใจจนเจนิสมองออก แม้ข้อมือของเธอจะถูกกุญแจมือตรึงไว้กับขอบเตียง แต่อีกมือน้อยๆ ก็ไม่วายควานสะเปะสะปะหาอาวุธเพื่อที่จะขว้างปาใส่คนตรงหน้า ที่กระทำราวกับเธอเป็นสัตว์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
"ไอ้เลว ไอ้ชั่ว นรกส่งมาเกิด"
เธอด่ากราดทั้งหมอและ ผอ.เรือนจำ ศิลายกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยคำพูดสุดร้ายกาจ
"หมอเห็นมั้ยครับว่าคนไข้ไม่สินักโทษคนนี้เกรี้ยวกราดขนาดไหน เธอถูกขังเดี่ยวในห้องมืดเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าปล่อยมาใช้ชีวิตกับคนอื่นอาจไปฆ่าใครตายอีก"
เขาเน้นย้ำคำว่าฆ่าจนเจนิสต้องกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ก่อนจะอ้าปากด่าอีกครั้งแต่หมอบดินทร์ห้ามไว้ก่อน
"ผอ. ออกไปก่อนเถอะครับเดี๋ยวผมดูแลเธอเสร็จแล้วจะเรียกคุณมารับเธอไปเอง"
ศิลาขบกรามแน่นเมื่อรู้สึกได้ว่าเจนิสกำลังถูกปกป้อง ในสมองเพียงคิดว่าเธอไม่สมควรได้รับสิทธิ์ใดๆ ทั้งนั้นแม้กระทั่งสิทธิ์ที่จะรักษาตัวเอง แม้ร่างกายของเธอจะบอบช้ำจากการกระทำของเขามากก็ตาม แต่หมอบดินทร์ไม่ใช่ ถึงจะเข้าใจว่าเจนิสผิดและเป็นนักโทษ แต่เขาไม่สามารถเพิกเฉยกับจรรยาบรรณของการเป็นหมอได้ เขาต้องรักษาเธอไม่ว่าเธอจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม
"ออกไปก่อนครับ"
บดินทร์สั่งเสียงเรียบอีกครั้ง ศิลาหงุดหงิดแต่ก็เดินออกไปอย่างอยากจะตัดปัญหา คุณหมอหันมายิ้มอ่อนโยนให้ผู้หญิงที่กำลังดิ้นคลุกคลิกจนข้อมือตัวเองแดงทั้งๆ ที่เธอถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจมือ แม้รู้ว่าสู้ไม่ได้แต่เธอก็ยังดิ้นจนข้อมมือบวมแดง
"หยุดดิ้นก่อนครับ ดิ้นไปก็แค่นั้นคุณหลุดพ้นจากที่นี่ไม่ได้ มีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ"
น้ำเสียงราบเรียบกับมือหนาที่บรรจงทำแผลให้เธออย่างแผ่วเบา แม้จะตกใจอยู่บ้างแต่เจนิสก็ไม่ได้อาละวาดใส่หมอเหมือนตอนที่ศิลาอยู่ หมอบดินทร์พยายามชวนเธอคุยแต่ไร้ซึ่งคำตอบจากหญิงสาว ไม่ว่าเขาจะถามสักกี่คำถาม แต่หมอก็ไม่ลดละความพยายาม เขาชวนเธอคุยตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพยาบาล
"เสร็จแล้วครับ ถึงเวลาส่งคุณกลับแล้ว"
เจนิสสะดุ้ง แม้ว่าจะทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เขาถามมาตั้งนานแต่เมื่อเขาพูดว่าจะให้เธอกลับไปอยู่คุกมืด แววตาของเธอแสดงความสั่นกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด บดินทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แต่มันเกินอำนาจรับผิดชอบของเขาจริงๆ เรื่องนี้เขาช่วยอะไรเธอไม่ได้จ จำต้องปล่อยให้ศิลาทำตามใจไปเรื่อย
