ตอนที่ 2 พบคุณอามู่
ตอนที่ 2 พบคุณอามู่
‘คลับเฮาส์เทียนซ่างเหรินเจียน’ เป็นสถานที่ถลุงเงินที่มีชื่อของเมือง เป็นแหล่งเริงรมย์ที่มีชื่อเสียงระบือไปไกล หญิงงามหนุ่มหล่อทุกรูปแบบล้วนแต่มารวมตัวในสถานที่แห่งนี้
ถางซินนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะบาร์ วิสกี้หลายแก้วได้ไหลลงไปในท้องของเธอ ความคิดชั่วร้ายในสมองยิ่งเกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จะมีลูกกับใครมันก็คือเกิด ? ลองหาหนุ่มหล่อร่างกายกำยำสักคน ลูกเกิดมาจะได้ยิ่งสวย!
ในใจคิดแบบนี้ สายตาก็สาดส่องบนฟลอร์เต้นรํา และได้ไปจับจ้องกับเงารูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนไม่ไกลจากตรงนี้
แม้ว่ายังมองเห็นหน้าตาของชายคนนั้นไม่ชัด แต่ว่าความสูงและรูปลักษณ์ของเขาโดดเด่นออกมากจากกลุ่มคน
ดูเหมือนว่าเขาถูกรายล้อมอยู่ ชายหญิงทั้งหลายที่อยู่ทางด้านหลังล้วนแต่งชุดสูทรองเท้าหนัง ช่างมีสไตล์เหลือเกิน
เอาคนนี้เลย!
หลังจากตัดสินใจได้ ถางซินก็สูดลมหายใจลึกๆ ทำผมให้เย้ายวน แล้วสวมรองเท้าส้นสูง เดินโซซัดโซเซไปทางชายผู้นั้น
“โอ้ย...เวียนหัวเหลือเกิน!”
ในขณะเดินอยู่ ถางซินแสร้งทำเป็นเท้าพลิกแล้วหกล้มลงไปในอ้อมกอดของมู่เฉินหยวน ชายที่เป็นเป้าหมาย
สองมือที่กำยำได้สอดเข้าไปรับตรงสะโพกของถางซิน พยุงเธอไว้อย่างมั่นคง
ในอ้อมกอดอันแข็งกระด้างที่ไม่คุ้นเคย กลิ่นอายของฮอร์โมนเพศชายได้พุ่งพล่านเข้ามา ถางซินรู้เพียงตอนนี้ปากแห้งนิดหน่อย สติสัมปชัญญะค่อยๆ เลือนหายไป
“คุณหอมมากเลย.....”
มู่เฉินหยวนขมวดคิ้วที่เคร่งขรึมของเขา ผู้ช่วยและบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาต่างตกตะลึงพรึงเพริด
กลางฟลอร์แบบนี้ นึกไม่ถึงจะมีหญิงสาวที่ใจกล้าขนาดนี้ !
“คุณผู้หญิง รบกวนระวังการกระทำของตัวเองหน่อย” เสียงที่เย็นชาของชายผู้นี้ทำให้เหมือนกับกระแทกเข้ากับท่อนน้ำแข็งขนาดสามศอกแล้วจมดิ่งลงไปในสระน้ำแข็งลึก
ถางซินรู้สึกตลึงงัน เสียงที่คุ้นหูทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมา แล้วสบตากับมู่เฉินหยวนพอดี ดวงตาคู่นั้นดั่งกับดาวในคืนที่หนาวยะเยือก เย็นชาจนทำให้ไม่รู้สึกหนาวแต่กลับสั่นไปทั้งตัว
ในชั่วขณะนี้ หัวใจของถางซินเหมือนกับหยุดนิ่งไป !
เธอทำตาโตเพ่งมองไปบนใบหน้าเย็นชาที่อยู่ห่างกันไม่กี่คืบ ไม่นานจึงปริปากสีชมพูของเธอ แล้วพูดด้วยความประหลาดใจอย่างมากว่า “คุณ....คุณอามู่?”
สวรรค์! เธอได้ทำเวรทำกรรมอะไรกันแน่ ถึงได้พบกับมู่เฉินหยวนซึ่งถือว่ามีศักดิ์เป็นคุณอาของมู่หยางชิว!
ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าคุณปู่มู่ไม่เคยมีลูก เขาจึงเป็นลูกชายที่คุณปู่มู่รับมาเลี้ยงดู มู่เฉินหยวนจึงถูกส่งไปร่ำเรียนการบริหารการจัดการที่เมืองนอกตั้งแต่ยังเด็ก และในวันครบรอบ 60 ปีในวันนั้น คุณปู่มู่จึงให้มู่เฉิงหยวนเป็นผู้สืบทอดบริษัทมู่ซื่อ
เขาเป็นจตุรเทพในวงการผู้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจในเมืองหลวง ทำให้เขาเป็นบุคคลสำคัญที่มีแต่ผู้คนชื่นชม!
แม่สามีคิดจะผูกสัมพันธ์กับผู้มีบารมีอย่างมู่เฉินหยวนครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะว่าตำแหน่งหน้าที่ของมู่หยางชิวล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับคุณอาของเขา ทราบข่าวมาว่า น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่มีเวลาที่จะสนใจเธอเลย
และก็รวมถึงถางซิน ที่จะมีโอกาสอันน้อยนิดเพื่อพบกับมู่เฉินหยวน
นี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับเขาอย่างใกล้ชิด
ดวงตาของเขาดูเย็นชา ใบหน้าของเขาดูเหมือนสามารถมองทะลุไปถึงสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจได้ จากนั้นร่างกายของเขาก็ได้เผยท่าทีไร้เยื่อใยออกมา
“คุณอามู่....ขอ ขอโทษค่ะ”
เมื่อถางซินเรียก ‘คุณอา’ เป็นครั้งที่สอง มู่เฉินหยวนจึงได้ตอบกลับมา
เขาขมวดคิ้วแล้วคลายมือที่โอบอุ้มเธออยู่ปล่อยเธอลงมา ดวงตาไร้ซึ่งอารมณ์เตรียมที่จะแยกออกไป
เขาไม่มีความสนใจให้กับผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกเข้ามาประเคนถึงที่
“คุณอามู่ รอหน่อยค่ะ!”
ในเมื่อได้ทำไปแล้วเธอก็กัดฟันทำต่อไป จะมาไม้ไหนฉันก็รับได้ จึงต้องเล่นละครให้มันจบ ถ้าสามารถพึ่งพิงมู่เฉินหยวนที่เหมือนกับภูเขาทองลูกนี้ได้ก็คงเป็นเรื่องที่ดี ?
“วัน......วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ค่อยดี ดื่มเหล้าเยอะไปหน่อย คุณอาจจะทิ้งฉันไว้ในบาร์เหล้าได้เหรอ ? ที่นี่ไม่ปลอดภัยเลย” ถางซินเม้มริมฝีปาก แสร้งทำเป็นคนที่อ่อนแอไร้ทางสู้
เธอแอบสังเกตมู่เฉินหยวน เห็นสีหน้าของเขายังคงสภาพไร้เยื่อใย ก็ลองแสร้งทำเป็นเจ็บออกมา โซซัดโซเซลูบคลำส้นเท้าของตนเอง พูดด้วยเสียงสั่นๆ “เมื่อกี้เท้าฉันพลิก.......ยังเจ็บมากอยู่เลย”
ถ้าพูดถึงสีหน้าไร้อารมณ์ของมู่เฉินหยวนตอนเมื่อกี้ ในตอนนี้เริ่มมีรอยยิ้มที่มุมปาก สายตามีประกายความสนใจเกิดขึ้น