บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

“เอาเข้าไป ดูเสาดิเป็นรอยท่อเลย แรงขนาดไหนอะ นี่ถ้าโดนคนนะ ร้องไม่ออกฟื้นโรงบาล” มัสชี้รอบให้มายด์ดูถึงกับหุบปากหยุดขำทันทีลอบกลืนน้ำลายลงคอ

“โคตรหนักเลยมือ” เมื่อชื่นชมเสร็จรีบพากันเดินไปที่ท่ารถเพื่อกลับบ้าน

สองสามวันต่อมาเมื่อไม่มีข่าวคราวเกี่ยวกับ blood devil มายด์เริ่มสบายใจและมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเธอกับเพื่อนแคล้วคลาด มายด์อยู่ในชุดนักเรียนรองเท้าคัชชูแต่ไม่เข้าโรงเรียน เรียกง่ายๆ คือโดด โดดไปไหว้ครูโรงเรียนเก่า เธอนังอยู่ศาลาริมทางหน้าโรงเรียนมัธยม ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงงานพ่อแม่ตนเอง ระหว่างรอมีเด็กนักเรียนรุ่นน้องเดินเข้าโรงเรียนมองเธออย่างให้ความสนใจจนเจ้าตัวต้องมองตนเองว่าสิ่งใดผิดแปลกหรือไม่ จนกระทั่งบีลงจากรถตู้ประจำทาง นะขี่มอเตอร์ไซค์อัดเพื่อนและแฟนมาด้ย โศมากับอัญ และนา ทุกคนมารวมกันที่ศาลา

“คิดถึงวะ หายหัวไปเลยไม่โทรมาเลย” นะเป็นคนแรกพุ่งเข้ากอดมายด์เกือบหงายหลัง

“ต้องฉลองแล้วปะ หลังไหว้ครูไปต่อกัน” บีเสนอไอเดีย

“ไปกินชาบู” มายด์เกาะไหล่โศออกความเห็น

“แหม กินอีกแล้ว จะอ้วนไม่ไหว” นาบอกพร้อมส่ายหน้าแต่ไม่ขัด

“รวมตัวทั้งที ไปเม้าท์ต่อ” นะเห็นด้วย

“ชาบูดีแล้ว กินเยอะดี เม้าท์ได้นาน” บีเห็นด้วย

“ตกลงตามนี้ไปไหว้ครูกัน” โศสรุปความพากันเข้าโรงเรียนทำธุระให้เสร็จไว้จะได้ไปปาร์ตี้ฉลองกันต่อตามประสาเพื่อนเก่า

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ทุกคนมารวมตัวกันที่ร้านชาบูปิ้งย่างแยกสองเตา นั่งคุยไปกินไปในห้องแอร์สบายใจ

“ยิ่งโตยิ่งสวยนะมายด์” อัญเริ่มดิ่งตรงมาทางมายด์ทันที

“มีแฟนยัง” นาต่อทำมายด์มองตาปริบไม่ทันตั้งตัวเหมือนโดนรุมอยู่คนเดียว

“ไม่มีโสดจ้ะโสด มีทำไมประสาทกิน”

“เอ้าแล้วพี่ไอซ์ละ” บีหยอกทันควันทำมายด์หันมองยิ้มแห้ง

“นั่นแค่รุ่นพี่ที่ชอบ ไม่ใช่แฟนสักหน่อย”

“ต้องจีบติดแล้วปะ ระดับนี้” นะยิ้มกว้างเอาใจช่วย

“สงสัยเราไม่ได้โดดเรียนมากลุ่มเดียวแล้ว มีอาหารตามาแล้ว” อัญเอ่ยทำทุกคนมองตามสายตา “เด็กช่างทั้งนั้น”

มายด์ชะงักทันทีค่อยๆ เลื่อนตัวเองลดลงแทบเลื้อยลงใต้โต๊ะเมื่อฝ่ายตรงข้ามมีคนที่เธอไม่ต้องการเจอและลืม ถึงกับพูดไม่ออก

“มายด์ ดูดิ คนนั้นหล่อเหมือนดาราเกาหลีเลย มหาลัยอะไร จะได้รีบเข้า” บีชื่นชมเพ้อฝันโดยไม่ดูสีหน้าเพื่อนเริ่มซีด

“คนผมแดงก็หล่อนะ ตัดนายหน้าสิวออก ทั้งหมดคือดี” ยิ่งโศยิ่งอธิบาย มายด์ยิ่งหดตัวเลยนิดเดียว ก่อนถามถึงชายที่ไม่ต้องการเจอที่สุด

“มีคนที่หน้าตาเหมือนนักร้องไทยไหม”

“ไม่มีอะ นักร้องคนไหน ไม่คล้ายสักคน” โศตอบก่อนหันมองมายด์ก้มหน้าเอาผมมาปิดหน้าถึงกับสะดุ้งเฮือก

“รู้จักเหรอ” บีถามต่อมองตาปริบ

“ไม่มี ไม่รู้จักเลย ไม่เคยเจอหน้า หาเรื่องด้วย” คำว่าไม่มีมักมีบางอย่างซ่อนอยู่ทำให้เพื่อนทั้งหมดหันมองเธอเป็นตาเดียว

“เฮ้ย!” ไม่ทันที่ตั้งสติเสียงตะโกนดังมาจากกลุ่มฝ่ายชาย มายด์รีบยกกระเป๋าบังหน้าทันที “ผู้หญิงคนนั้นนะ”

นายผมแดงแสยะยิ้มเหล่มองมาทางมายด์ ทุกสายตาเริ่มมองมาทางมายด์ด้วยความงุนงง ยิ่งมายด์หลบหน้ายิ่งทำให้เขาชอบใจ

“เด็กเสิร์ฟคนนั้น น้ำจิ้มหมด ต้องการน้ำจิ้มขอเพิ่มด้วย” ก่อนเฉลยทำมายด์โล่งใจแต่ไม่กล้ามองหน้า มุมปากของเขายกยิ้มกินต่อ

“ไหนบอกไม่เคยเจอ หลบทำไม” บีเริ่มสงสัยคนแรก

“ไม่ได้หลบ มันตึงท้อง อิ่ม กินต่อเถอะเดี๋ยวไม่คุ้ม” เมื่อสถานการณ์คลี่คลายจึงลงมือกินต่ออย่างสบายใจโดยไม่รู้ว่าถูกจับจ้อง

หลังจากกินเสร็จมายด์ตัดสินใจมองมายังโต๊ะที่เคยมีคนอยู่กลับไม่เจอใครทำให้โล่งใจสนิทกลับบ้านอย่างปลอดภัย

บ้านสีฟ้าชั้นเดียวในหมู่บ้านหลายซอย เมื่อมาถึงก็ถอดสูททิ้งบนที่นอนถลกแขนเสื้อ ถอดเข็มขัด หยิบมือถือมากดโทรหามัสทันที

“ (ฮัลโหล ว่าไง) ฟังนะ วันนี้ฉันเจอไอ้ผมแดงนั่นด้วย จำได้เปล่า (จริงเหรอแล้วเขาจำได้ไหม) คิดว่าจำไม่ได้นะ มันคงเลิกรากับเราจริงๆ เพราะฉะนั้นวางใจได้ ชีวิตนี้ปลอดภัยแล้ว (งั้นพวกเราก็ได้เดินเที่ยวตลาแล้วสิ เผื่อเจอ…) เจอใคร (เขาหล่อมากเลยอะ เหมือนเทพบุตรลงมาเกิด หน้าก็ใส) เจอตั้งแต่เมื่อไหร่ (ก็ที่เกิดเรื่องคราวนั้น เผอิญว่า..) ว่า (ว่า…) ว่าอะไร เร็วๆ ลุ้น (คือว่าไม่เอาดีกว่า มันน่าอาย เขิน) เอ้า เดี๋ยวนอนไม่หลับ เปิดแล้วต้องต่อให้จบ (อยากรู้จริงเหรอ ถ้าอยากรู้พรุ่งนี้มารอหน้าโรงเรียนกลับบ้านพร้อมกัน) ได้ถ้าไม่บอกละน่าดู (อย่าลืมนะ) รู้แล้ว (มายด์) อะไร (จะเล่าอะไรให้ฟัง เกือบลืมแหนะ) เรื่องอะไร (เมื่อเช้าเด็กห้องเราโดนกระทืบเละเลย อาจารย์ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล คาดว่าเป็นแก๊งนั่น) ยังไงก็ระวังไว้แล้วกัน พวกอันธพาล ไว้เจอกัน (โอเค บาย) ” มายด์วางสายเดินกลับเข้าห้องเปิดเพลงฟังสบายใจ

บ่ายสามหลังเลิกเรียนที่โรงเรียนเทคนิค ชายหนุ่มห้าคนในชุดมหาลัยสองคนอีกสามคือสวมชุดนักเรียนสีขาวเนกไทแดง ดักรออยู่ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งหนุ่มมหาลัยไม่ใช่ใครใหม่คือนายหน้าใสกับหนุ่มผมทอง นักเรียนที่เดินออกมาจากโรงเรียนไม่มีใครไม่มอง

“รีบกลับบ้านหรือจ๊ะสาวๆ ให้ไปส่งไหม”

“ไม่ดีกว่ากลับเองได้” เพื่อนของมัสตอบกลับเมื่อมีเสียงแซวจากหนึ่งในห้าที่ยืนดักรอ มัสเริ่มหน้าถอดสีแต่พอเจอชายหน้าใสกลับใจตุ้มต่อม หลายอารมณ์หลายความรู้สึกปะปนจนแยกแยะไม่ออกจนกระทั่งผีผลักให้เขาก้าวมาหยุดขวางหน้าเธอ

“เธอคือผู้หญิงที่ล้มทับผมใช่ไหม” เสียงสุภาพชวนฝันทำมัสตั้งตัวไม่ทัน

“เอ่อ…อืม”

“เรียนอยู่ที่นี่สินะ”

“ค่ะ” ตอบเร็วอย่างไม่ต้องคิด

“ปีไหนแล้ว”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel