EPISODE02 เปลี่ยน
"ไหนว่าทำงานพรุ่งนี้ นี่มึงแดกกะจะตื่นพรุ่งนี้เย็นๆ เลยเหรอแจง" เสียงของใครสักคนในกลุ่มเพื่อนของฉัน ทักท้วงกับการดื่มแอลกอฮอล์ของฉันในวันนี้
ส่วนฉันจำไม่ได้หรอกว่าเสียงนี้เป็นเสียงของเพื่อนคนไหน เพราะตอนนี้สมองฉันเริ่มจะทำงานช้าลงเรื่อยๆ
"ฉลองล่วงหน้าให้กับผู้ชายที่กูโคตรรักไง มันกำลังจะกลับมาแล้วเห็นไหม ในที่สุดมันก็จะกลับมา หลังจากที่มันหนีกูไป 5 ปี ป่านนี้มีเมียไปแล้วมั้ง มันจะรู้ไหมว่ากูคิดถึงมันมากแค่ไหน มันจะรู้ไหมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกูก็โคตรเสียใจเหมือนกัน แต่มันคงไม่อยากรู้หรอก เพราะมันเกลียดกู มันบอกว่ามันโคตรเกลียดกู แต่กู... โคตรรักมัน กูรักมันพวกมึงได้ยินไหมว่ากูรักมัน กูโคตรรักมันฉิบหาย กูไม่สวยตรงไหนวะ ทำไมมันไม่รักกู กูไม่เข้าใจ..."
แล้วฉันก็เริ่มโวยวาย เริ่มพร่ำเพ้อ พูดพล่ามถึงเรื่องที่กักเก็บไว้ในใจ
ซึ่งฉันจะเป็นเฉพาะช่วงเวลาที่เมามาก ๆ แต่ถ้าในวันที่สติดี ๆ เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางออกจากปากของอีแจงแสนสวยแน่นอน
"ถ้ามึงเห็นมันตอนนี้ มึงอาจจะไม่รักมันแล้วก็ได้ มันไม่ใช่ไอ้ยิมแสนดีที่มึงเคยรู้จักแล้วแจง" แว่ว ๆ เสียงของหนึ่งในกลุ่มเพื่อนพูดขึ้นมา
ซึ่งฉันจับประโยคได้ประมาณเท่านี้ แต่ฉันก็ตีความหมายไม่ได้ เพราะสติฉันตอนนี้ไม่สามารถแยกแยะอะไรได้แล้ว
"แค่เป็นไอ้ควายยิม ยังไงกูก็รัก" นี่คือประโยคสุดท้ายก่อนที่ฉันจะกระดกแก้วเหล้าอีก 1 ช็อต
แล้วจากนั้นฉันก็น็อคยาว
ซึ่งคนเก็บซากก็คือเพื่อนของฉันนี่แหละ
'มากับเพื่อนปลอดภัยแน่นอน'
นี่คือคติประจำใจฉัน...
"โตจนมีลูก แต่เรื่องเมานี่เลิกไม่ได้" นี่เสียงยายแจ๋มแน่ ๆ ฉันรีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง เพื่อตัดความรำคาญใจ
กลับมานอนบ้านได้คงไม่พ้นเพื่อน แต่เรื่องปวดหัวหลังนอนตื่นนี่ห้ามกันไม่ได้จริง ๆ
รู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดเลย
"ยัง ยังนิ่ง บ่นขนาดนี้ยังไม่ลุกจากที่นอน จนเขาไปถ่ายงานเสร็จกลับมา ลูกสาวเจ้าของร้านยังนอนเน่า ตื่นโว้ยไอ้แจง จะค่ำอีกรอบแล้ว แกซ้อมตายหรือไง" ยายแจ๋มยังคงส่งเสียงโวยวายอยู่ข้างหูอีแจงแสนสวย
ฉันเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยรู้สึกแบบเดียวกับฉัน
อยากนอนต่อแต่โดนปลุกด้วยเสียงอันทรงพลัง
"แม่...ขออีกนิดเมื่อคืนหนักไปหน่อย" ฉันเอื้อนเอ่ยเพื่อต่อเวลา
แต่ก็ต่อไปงั้นแหละ เผื่อฟลุ๊ค เพราะยายแจ๋มแกไม่สนใจคำขอของฉันอยู่แล้ว
ซ้ำยังด่าสวนกลับด้วยอีกต่างหาก
"ใครสั่งใครสอนให้กินจนเพื่อนต้องหิ้วปีกมาล่ะ นี่ดีนะเพื่อนแกพวกนี้คบตั้งแต่เด็ก ไม่งั้นแกคงได้ลูกเพิ่ม ลุก! อย่ามาเนียนนอนต่อ ไปรับจัสมินกลับจากข้างบ้านด้วย เมื่อเช้าร้องจะไปเล่นที่นั่น ป่านนี้ยังไม่ยอมกลับ ฉันไปรับสามสี่รอบละ ยังไงก็ไม่ยอมกลับ แกลุกไปรับหลานฉันได้ละ"
นี่ไงสาเหตุที่มาปลุกฉัน เพราะเอาหลานกลับบ้านไม่ได้ ยายแจ๋มเขาจะเป็นแบบนี้ประจำ ถ้าจัสมินไปเล่นที่ร้านทอง จัสมินจะไม่อยากกลับ
ซึ่งยายแจ๋มไม่กล้าบังคับหลานสาวสุดที่รัก จึงมักจะมาสั่งให้ฉันไปบังคับลูกกลับ
ประมาณว่าให้ฉันเป็นแม่ใจร้าย ส่วนตัวเองเป็นยายใจดี
"ถ้าไปรับให้ กลับมาแจงขอนอนต่อ ห้ามกวนแจงนะ แจงปวดหัว ฝากจัสมินด้วย" ฉันลุกขึ้นมาต่อรองด้วยท่าทางสะลึมสะลือ
"เออ ไปเอาหลานฉันกลับมาก่อนเถอะ แล้วแกจะนอนสามวันสามคืนฉันก็ไม่ว่า" ยายแจ๋มทิ้งท้ายด้วยคำประชดก่อนจะเดินออกจากห้องนอนฉันไป
จัสมินชอบไปเล่นร้านทองข้างบ้าน เพราะผู้ใหญ่ทั้งสองใจดี ก็อย่างที่รู้กันว่าลูกชายเจ้าของร้านทองไปเรียนต่อต่างประเทศ ท่านทั้งสองจึงเหงามาก และพอจัสมินคลอด ท่านทั้งสองก็คลายเศร้าได้มาก ด้วยรอยยิ้มของจัสมิน
ท่านสองคนเอ็นดูจัสมิน
แต่ทั้งสองคนไม่รู้หรอกว่าจัสมินคือหลานแท้ ๆ ที่เกิดจากลูกชายคนเดียวของท่าน
ซึ่งฉันไม่คิดจะบอก เพราะมันไม่มีความจำเป็นต้องบอก ในเมื่อพ่อของลูกเกลียดฉัน เขาก็คงไม่ยอมรับจัสมินอยู่แล้ว
ฉันเดินลงมาจากห้อง แล้วเดินออกมาทางหลังบ้าน แล้วก็เดินข้ามรั้วมาฝั่งบ้านของไอ้ควายยิม ต้องบอกก่อนว่าบ้านเราทำรั้วข้ามหากันมานานแล้ว
เนื่องจากแต่ก่อนฉันกับไอ้ควายยิมเราสนิทกันตั้งแต่เด็กไง
ฉันเดินเข้าประตูหลังบ้านของไอ้ควายยิม เป็นประจำเหมือนที่เคยมารับลูกบ่อย ๆ เวลาลูกมาเล่นที่นี่
แล้วคือสภาพฉันหัวฟู ฟันยังไม่แปรง หน้าไม่ล้าง เครื่องสำอางของเมื่อคืนยังคงเหนอะที่ใบหน้า
สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงบอล เรื่องชุดเพื่อนฉันคงเปลี่ยนให้เหมือนที่เคย
"จัส จัสมินคะกลับบ้านได้แล้วค่า ค่ำแล้ว" และเมื่อเดินเข้ามาในบ้านทางประตูด้านหลัง ฉันก็แหกปากร้องเหมือนที่เคยทำนั่นแหละ ส่งเสียงไปก่อนตัว
แต่พอเดินมาถึงกลางบ้าน ปากที่แหกก็อ้าค้างทันที
เพราะคนที่ฉันหลงรักมานาน นั่งอยู่ที่โซฟา และมองมาที่ฉันก่อนจะยักคิ้วให้หนึ่งทีพร้อมสายตาที่เฉยชา
ไอ้ควายยิมมันเปลี่ยนไป ที่ว่าเปลี่ยนฉันหมายถึงร่างกาย ส่วนนิสัยฉันไม่รู้ว่าเปลี่ยนไหม
ร่างกายของมันมีรอยสักเต็มไปหมด ทั้งที่เมื่อก่อนมันเคยบอกว่าไม่ชอบศิลปะพวกนี้
ยิมที่ฉันรักไม่ใช่แบบนี้
