บท
ตั้งค่า

บทที่ 4: แขกรับเชิญพิเศษ【2】

“เฮ้ย! เข้ามาได้ไงเนี่ย”

ลีแทจินร้องสุดเสียงเมื่อเห็นหน้าของนัชฌาน ที่ร้องนี่ไม่ใช่เพราะตกใจแต่เป็นเพราะเขาจำได้ว่าเพิ่งเปลี่ยนรหัสเข้าห้องไปเมื่อกี้นี้ต่างหากและเขาก็มั่นใจว่าไม่มีใครรู้รหัสใหม่นอกจากเขา

“ไม่มีสมองอย่างนาย เป็นใครก็ต้องรู้ทั้งนั้นว่าตั้งรหัสใหม่เป็นหนึ่ง สอง สาม สี่แน่ๆ”

นัชฌานว่าเสียงเรียบก่อนโยนกระเป๋าลงมาบนโซฟาข้างๆ ร่างสูง คนถูกด่าทำหน้ามุ่ย ก็จริงอย่างที่นัชฌานว่า รหัสมันเดาง่ายขนาดนั้น ใครๆ ก็รู้

“แล้วนายมาทำไม” ลีแทจินถามแก้เก้อ

“ก็มาขอบคุณนายแทนท่านประธานคิมน่ะสิ”

“ขอบคุณ... ขอบคุณเรื่องอะไร?”

“เรื่องที่นายทำตัวไม่มีปัญหา แถมยังแก้ภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดีขึ้นด้วยน่ะสิ”

คนฟังทำหน้าเหรอหรา ไม่รู้ว่าเขาไปทำอย่างที่ว่านั่นตอนไหน ซ้ำไม่รู้อีกว่าการที่นัชฌานมาหาเขาอย่างนี้เป็นเพราะคิมแฮซูมีแผนเล่นงานอะไรเขาคืนหรือเปล่า

“ไม่ต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีหรอกน่า ฉันไม่ได้มาเอาคืนอะไรทั้งนั้น แค่จะมาแจ้งตารางงานรอบใหม่ของนาย”

นัชฌานเห็นหน้าของลีแทจินก็ดูออก รีบแก้ตัวทันควัน สีหน้าหวาดระแวงดูผ่อนคลายขึ้นเมื่อเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งถูกนำออกมาจากกระเป๋าเอกสาร

“นี่เป็นรายละเอียดของรายการทีวีที่นายจะต้องไปให้สัมภาษณ์พรุ่งนี้ ฉันเช็คประวัติการทำงานของนายมาแล้ว นายยังไม่เคยไปออกรายการนี้เลยสักครั้ง”

ชายหนุ่มรับกระดาษแผ่นนั้นมากวาดสายตาอ่าน มันเป็นรายละเอียดของรายการ ‘มานั่งคุย’ รายการทอล์คโชว์ชื่อดังของเกาหลีที่ชอบจับคนดังมานั่งสัมภาษณ์พร้อมกับทำเซอร์ไพรส์โดยการเชิญแขกรับเชิญพิเศษมาช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศของรายการ เขาจำได้ดีว่ามันเคยเป็นรายการที่เขาอยากได้รับเชิญมากที่สุดสมัยเข้าวงการใหม่ๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยถูกเชิญสักที ถ้าเขาเป็นศิลปินไร้ข่าวฉาว ป่านนี้ก็คงได้รับเชิญไปแล้ว

“ฉันเห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่นายจะได้เดบิวต์ใหม่ในฐานะนักร้องมารยาทดี อย่าทำมันพังก็แล้วกัน”

เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยมีความฝันอย่างนั้นด้วย แต่ก็ดี ถือเสียว่าเขาได้ทำความฝันนั้นให้เป็นจริงแล้วก็แล้วกัน

“ขอบใจชานชาน”

“ทำไมเรียกฉันแบบนั้น” ชื่อเล่นใหม่ที่หลุดออกจากปากลีแทจิน ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าหูคนฟังสักเท่าไหร่

“ทำไม” ทว่าคนฟังกลับทำท่าทางไม่รู้สึกรู้สา ถามกลับหน้าตาเฉย

“เรียกว่าผู้จัดการหรือชื่อเฉยๆ สิ”

ฟังก็รู้ว่านัชฌานไม่ชอบให้เรียกอย่างนั้น แต่มีหรือที่นักร้องหนุ่มจะแคร์

“ก็ชื่อนายมันเรียกยาก ฉันเลยทำให้เรียกง่ายขึ้น มีปัญหาอะไรเหรอชานชาน” ปิดท้ายด้วยจงใจเรียกชื่อนั้นอย่างท้าทายก่อนจะคว้าไอศกรีมมาตักเข้าปากอีกครั้ง

นัชฌานยืนมองคนตรงหน้าที่เบนความสนใจไปทางจอโทรทัศน์นิ่งๆ ก่อนจะหยิบเอาของบางอย่างจากกระเป๋ามาถือไว้ในมือมั่นและฟาดพั่บลงไปบนหัวไหล่ของลีแทจินเต็มแรง

พั่บ!

“โอ๊ย! ทำอะไรวะ!” คนถูกตีร้องลั่น ไม่ใช่ว่าเจ็บหรอกนะ แต่เพราะตกใจเสียงดังของมันมากกว่า

“สั่งสอนนายไง” นัชฌานว่าหน้าตายพลางชูพัดกระดาษในมือ

“นายคิดว่ากำลังอยู่ในรายการตลกสมัยก่อนอยู่หรือไง” ลีแทจินแทบอยากจะเทไอศกรีมรดหน้าผู้จัดการทันทีที่เห็นว่าเขาใช้อะไรประทุษร้ายตนเอง

“ถ้านายยังเรียกฉันว่าชานชานอยู่ล่ะก็ ฉันจะลงโทษนายด้วยวิธีนี้แหละ” ไม่ว่าเปล่า ยังฟาดลงมาอีกรอบและตามด้วยอีกชุดใหญ่จนนักร้องหนุ่มต้องยกมือปัดป้องเป็นพัลวัน

“เออๆ เข้าใจแล้ว ไม่เรียกชานชานก็ได้!”

นัชฌานชะงักมือ ตั้งท่าจะเก็บพัดกระดาษลงไป “ดีมาก”

จังหวะที่คนตัวเล็กเผลอนี่แหละที่ลีแทจินรอคอย เขาผุดลุกขึ้นไปแย่งพัดกระดาษจากนัชฌานมาถือไว้มั่น ก่อนที่นัชฌานจะเรียบเรียงสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้น พัดกระดาษนั้นก็ถูกตีลงมาที่ศีรษะของเขาแล้วเรียบร้อย

“ซะเมื่อไหร่” ลีแทจินล้อเลียนยั่วโมโห

“นาย...” พูดออกมาได้คำเดียวก็เม้มปากแน่นเมื่อรู้ว่าเขาเสียท่าให้กับนักร้องหนุ่ม

ลีแทจินท้าทายมากขึ้นไปอีกโดยการทำลายพัดกระดาษด้วยมือทั้งสองข้างและโยนทิ้งลงตรงหน้าเจ้าของเดิม

“อย่าคิดจะมาควบคุมฉันซะให้ยาก น้องหนูชานชาน”

กวนประสาท!

เป็นคำเดียวที่ผุดเข้ามาในหัวของนัชฌานตอนนี้ เขาทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้เลยนอกจากยืนดูลีแทจินเดินไปเปิดประตูห้องแล้วเชื้อเชิญให้เขาออกไปเท่านั้น

“อย่ามารบกวนเวลาพักผ่อนของฉัน ไสหัวไปซะ ส่วนงานวันพรุ่งนี้ ถ้าฉันอ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหน ฉันจะเสนอหน้าไปถามนายเอง”

ไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่อีกต่อไป นัชฌานคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปแต่โดยดี ทันทีที่ประตูปิดลง เสียงปุ่มกดจากแผงล็อคอัตโนมัติก็ดังลอดผ่านออกมาให้ได้ยินเป็นสัญญาณให้รู้ว่าเจ้าของห้องทำการเปลี่ยนรหัสอีกครั้ง

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกมรอบนี้ ผู้จัดการแพ้สิ้นรูปเพียงใด แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยๆ นักร้องนั่นก็ไม่ทำตัวงี่เง่าไม่รับงานอย่างที่เขาคาดเดาไว้ก็แล้วกัน

ถึงจะเข้าห้องไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้นัชฌานหยุดการกระทำอันเป็นที่รบกวนได้เลย เขาตื่นมาดักรอลีแทจินที่หน้าห้องแต่เช้า ถ้ารออยู่เฉยๆ คงไม่เท่าไหร่ แต่นี่กดกริ่งเรียกราวกับว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอย่างไรอย่างนั้นแหละ ที่สำคัญคือลีแทจินก็ดันบ้าจี้ไปด้วย กุลีกุจอลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวไปสตูดิโอประหนึ่งหนูติดจั่น พอเปิดประตูมาเจอหน้าใสๆ ของผู้จัดการก็อดไม่ได้ที่จะแหวใส่

“ที่บ้านไม่มีกริ่งให้กดหรือไง เอากลับไปเล่นมั้ยฮึ?”

“ฉันกลัวว่านายจะนอนเน่าตายอยู่ในห้องก็เท่านั้น” นัชฌานตั้งท่ารออยู่แล้วก็พ่นคำเจ็บแสบกลับพลัน

“แล้วตกลงตายไม่ตายล่ะ” ชายหนุ่มผายมือพร้อมยักไหล่

ท่าทางยียวนนั่นเชิญชวนให้นัชฌานอยากจะเตะสักทีสองที ดีที่เขาไม่ได้เป็นคนใจร้อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีข่าวนักร้องฟัดกับผู้จัดการส่วนตัวแหงๆ

“วันนี้ถือว่าเป็นวันดีของนาย ฉันจะปล่อยนายไปสักวันแล้วกัน”

“หืม? พูดดีนี่ ก็ได้ ฉันจะคิดว่าเสียงนายเป็นเสียงหมาเห่าเหมือนกัน”

“อย่ามามัวคุยเรื่องไร้สาระอยู่เลย ฉันมาดักรอนายแต่เช้าก็เพื่อจะบรีฟงานให้นายก่อนเข้าถ่ายทำจริง” นัชฌานชักจะเหนื่อยกับการต่อล้อต่อเถียง เขายกกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถือติดมือมาขึ้นมาโบก

ลีแทจินเชิดจมูกขึ้นเล็กน้อยด้วยท่าทางยโส “ว่ามา”

ตอนนี้นัชฌานรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นลูกไล่ของชายคนนี้อย่างไรก็ไม่รู้ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยๆ เขาก็ยอมทำตามแต่โดยดีแล้วกัน

“ขั้นแรก พิธีกรจะนำนายเข้าสู่รายการแล้วจะถามเรื่องของการแถลงข่าวเมื่อวาน ถ้าพวกนั้นถามอะไร ให้นายตอบอิงกับสิ่งที่นายพูดไปเมื่อวานโอเคมั้ย ถ้าจะเติมแต่งอะไรก็ให้อิงถึงสิ่งที่พูดไปด้วย อย่าลืมว่าตัวเองโกหกอะไรไว้เด็ดขาด ไม่งั้นพวกนั้นจะจับพิรุธได้”

“นี่นายหาว่าฉันโกหกเหรอ” สีหน้าของคนถูกกล่าวหาแสดงออกว่าไม่พอใจทันที

นัชฌานยักไหล่เล็กน้อย “ก็จริงไม่ใช่เหรอ”

“เค้าเรียกว่าบิดเบือนความจริงเล็กน้อยเพื่อความหรรษาต่างหาก”

นัชฌานอยากจะถอนหายใจใส่ชายหนุ่มแรงๆ สักที แต่พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่นแล้วก็มั่นใจได้ว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้คงไม่รอดมือลีแทจินแน่

“ก็หวังว่านายจะทำได้อย่างราบรื่นแล้วกัน”

ลีแทจินชำเลืองมองคนตัวเล็กเล็กน้อย เขาชอบเหลือเกินที่ได้เห็นผู้จัดการคนใหม่เริ่มลดความโอหังลง ดูท่าทางแล้วนัชฌานก็คงจะลงเอยเหมือนผู้จัดการคนอื่นๆ ที่ต้องยอมเขาอย่างไม่มีทางเลือก

“แล้วแขกรับเชิญพิเศษล่ะ รู้ยังว่าใคร” เขานึกขึ้นได้ว่ารายการนี้มีไฮไลท์พิเศษอยู่ด้วย

นัชฌานเปิดหน้ากระดาษรายละเอียดที่ทางรายการส่งมาดูพลันส่ายหน้า “ไม่รู้สิ ทางรายการไม่ได้แจ้งไว้”

“ขออย่าให้เป็นพวกสมาชิกวงเก่าเส็งเคร็งนั่นแล้วกัน” เขาพึมพำก่อนเดินนำออกไปขึ้นลิฟต์

“ก็ไม่แน่” นัชฌานยักไหล่ก่อนตามเข้าไปข้างใน ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าการอัดรายการวันนี้มีเรื่องให้ได้สนุกแน่

ไม่อยากจะเชื่อว่านักร้องชื่อเสียงเสียอย่างเขาจะมีแฟนคลับตามมาให้กำลังใจเยอะจนล้นสตูดิโอก็ต้องเชื่อ ความจริงแล้วนัชฌานก็รู้อยู่บ้างว่าถึงแม้ลีแทจินจะเป็นนักร้องพฤติกรรมแย่ แต่เขาก็ได้รับความนิยมสูงจากพฤติกรรมของเขาเองเช่นกัน ผู้หญิงสมัยนี้ก็แปลก ผู้ชายดีๆ มีให้ชอบเยอะแยะไม่ชอบ ดันชอบผู้ชายแบดบอย!

“ทุกคนเงียบเสียงลงด้วยนะครับ เราจะเข้าสู่รายการกันแล้ว” สต๊าฟคนหนึ่งตะเบ็งเสียงใส่โทรโข่ง พยายามควบคุมให้เสียงกรีดร้องกระหึ่มของเหล่าแฟนๆ เงียบลง

นัชฌานซึ่งอยู่หลังเวทีรีบตรงเข้าไปยังลีแทจินที่กำลังให้สต๊าฟคนอื่นๆ เซ็ทไมค์ลอยเข้ากับเสื้อสูทอยู่พลันกระซิบเบาๆ

“อย่าทำพังซะล่ะ”

“รู้แล้วน่า นี่ก็สั่งจริง” นักร้องหนุ่มกระซิบกลับด้วยน้ำเสียงรำคาญก่อนที่เขาจะถูกพาให้ไปยืนเตรียมตัวรออยู่ในจุดที่จัดเตรียมไว้

นัชฌานมองไล่หลังแล้วก็วิตกไม่น้อย ไม่รู้ว่าการรับปากของชายหนุ่มจะน่าเชื่อถือได้แค่ไหน ถึงจะมีความวิตกกังวลทว่าก็อดชื่นชมความหล่อเหลาภายใต้ชุดสูทที่ไม่ค่อยได้เห็นเขาใส่บ่อยนักอย่างเสียมิได้ ปกติเคยเห็นทางจอทีวีก็แค่เสื้อผ้าแฟชั่นที่เข้ากับแนวเพลงที่เขาร้องเท่านั้น ยกเว้นแต่ถ้าเขาไม่ทำหน้าเหมือนโกรธใครมาตลอดเวลานั่นก็นับว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีชวนมองคนหนึ่งเลยทีเดียว

“เอาล่ะนะ จะตัดเข้ารายการแล้วนะครับ”

นัชฌานหลุดออกจากภวังค์ของตนเองเมื่อเสียงของผู้กำกับรายการดังขึ้น พิธีกรผู้ดำเนินรายการชายหญิงขึ้นมานั่งประจำที่บนเวทีก่อนที่เสียงของผู้กำกับคนนั้นจะดังขึ้นอีกครั้งเป็นสัญญาณให้ทุกชีวิตเตรียมตัว

“ไฟพร้อม กล้องพร้อม พิธีกรพร้อม โอเค... สาม สอง หนึ่ง...”

“สวัสดีค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่รายการมานั่งคุย พบกับดิฉันจางมียอง และ...”

“ผม...ชเวมินโฮครับ”

ความเป็นมืออาชีพของสองพิธีกรสะกดคนดูอยู่หมัด ทว่าสิ่งที่สร้างความคึกคักให้กับรายการไม่ใช่สีหน้าร่าเริงของสองคนนั้น แต่เป็นชื่อของใครบางคนที่หลุดออกจากปากพิธีกรหญิงมากกว่า

“วันนี้เราสองคนมาพร้อมกับแขกรับเชิญที่จะมาให้เราสัมภาษณ์แบบเอ็กคลูซีฟอีกเช่นเคย ขอทุกท่านเชิญพบกับไลเกอร์ได้เลยค่า!”

รอยยิ้มธรรมชาติที่ไม่ค่อยปรากฏบนใบหน้าของลีแทจินก็ได้เห็นในคราวนี้ เขาโบกมือทักทายแฟนเพลงก่อนจะโค้งทักทายกับพิธีกร เสียงกรี๊ดของสาวๆ ดังกระหึ่มไปทั้งสตูดิโอยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีกจนเหล่าสต๊าฟต้องพากันช่วยส่งสัญญาณห้ามปรามให้เงียบเสียงลง การถ่ายทำรายการถึงได้ดำเนินไปในขั้นต่อไปได้

พิธีกรทักทายพูดคุยกันกับแขกรับเชิญเล็กน้อยก่อนจะดึงเข้าสู่ประเด็นร้อนโดยพิธีกรชายที่เป็นคนเริ่ม

“พวกเราตกใจกับการแถลงข่าวของคุณเมื่อวานมากเลยครับไลเกอร์ ช่วยเล่าหน่อยได้มั้ยว่าเรื่องเป็นยังไงมายังไงกันแน่”

“ก็อย่างที่ให้ชี้แจงไปเมื่อวานแหละครับว่าท่านประธานคิมบังคับให้ผมเซ็นสัญญาทาสแล้วก็หักเงินค่าตัวผมแปดสิบเปอร์เซ็นต์จนผมต้องทำการประท้วงด้วยวิธีนี้แหละ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ที่ได้เจรจากับทางต้นสังกัดเมื่อวาน ผมขอไม่เปิดเผยรายละเอียดนะครับ”

“การประท้วงของคุณดูเข้ากับภาพลักษณ์ดีนะคะ จากภาพลักษณ์แรก เราก็คิดว่าคุณจะเป็นคนร้ายๆ อย่างนั้นจริงๆ ซะอีก”

“เปล่าหรอกครับ นั่นมันก็แค่คาแร็กเตอร์ที่ทางต้นสังกัดคิดเพื่อให้เข้ากับแนวเพลงเท่านั้น นิสัยส่วนตัวจริงๆ ผมเป็นคนเรียบร้อยนะ”

เสียงหัวเราะดังร่วนไปตลอดการดำเนินรายการ ทุกอย่างดำเนินไปโดยราบรื่น พิธีกรผลัดกันยิงคำถามให้นักร้องหนุ่มตอบ ลีแทจินก็ตอบได้นุ่มนวลและดูมีสมองมากกว่าที่นัชฌานคาดเดา ซ้ำท่าทางเป็นมิตร ยิ้มแย้มตลอดเวลานั่นยังทำให้เขาดูกลายเป็นคนดีขึ้นมาจริงๆ เสียด้วยทั้งๆ ที่การแสดงออกทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่หน้าฉากเท่านั้น

คงจะมีแต่เขากับผู้จัดการที่นั่งอยู่บนเก้าอี้แถวหน้าของฝั่งผู้ชมเท่านั้นแหละที่รู้ดี

“เรียบร้อยอย่างนี้ ถ้ามีแฟนก็คงถูกแฟนข่มตายเลยนะครับ งั้นถามสเป็กผู้หญิงหน่อยดีกว่าว่าสเป็กสาวๆ ของคุณเป็นแบบไหนกันไลเกอร์”

“ผมไม่มีสเป็กหรอกครับ”

ลีแทจินหัวเราะเล็กน้อยพลางลูบศีรษะอย่างเก้อเขิน ท่าทางน่ารักนั้นเรียกเสียงวี้ดว้ายจากแฟนคลับได้ระลอกใหญ่จนสองพิธีกรต้องออกปากแซวกันยกใหญ่

“แหม ทำมาเป็นบอกว่าไม่มีสเป็ก งั้นเอางี้ ลองเปรียบเทียบดารานักร้องหญิงก็ได้ว่าคนไหนพอจะตรงสเป็กคุณ”

“ถ้าต้องเลือกแบบนั้น ผมเลือกไม่ถูกหรอกครับ เอาเป็นว่าผมบอกลักษณะคร่าวๆ ดีกว่า” ที่ตอบแบบนี้ก็คงเป็นเพราะกลัวถูกจับคู่ลงหน้าหนึ่งเป็นแน่ พวกนักข่าวสายบันเทิงชอบเอาเรื่องไร้สาระพวกนี้มาใส่สีตีไข่จะตาย

“ผมชอบผู้หญิงไม่สูงมาก รูปร่างกับใบหน้าสมส่วน ศัลยกรรมก็โอเคแต่อย่าให้หน้าไปเหมือนคนอื่นนะครับ มันจำยาก มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง วางตัวดี ดูมีสง่าราศีและมีเสน่ห์ อะไรประมาณนั้นแหละครับ”

“สเป็กคุณนี่กว้างจังเลยนะครับ แบบนี้เดายากเลยว่ามีดารานักร้องหญิงคนไหนบ้างที่เข้าเค้า ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงคนไหนที่มีคุณสมบัติตามนี้เตรียมตัวได้เลยนะครับ เผื่อไลเกอร์ของเราจะถูกใจ”

ลีแทจินยิ้มรับ ก็แน่ล่ะ เขาตั้งใจไม่เจาะจงไปที่ใครอยู่แล้วนี่ เรียกว่าพูดมั่วๆ เสียด้วยซ้ำ ก็แค่ทำให้มันผ่านๆ ไป การสัมภาษณ์น่าเบื่อนี่จะได้จบลงสักทีจนเขาลืมไปเสียสนิทว่ายังมีอีกช่วงหนึ่งที่ทางรายการเตรียมไว้สำหรับแขกรับเชิญ

“แต่เดี๋ยวก่อนนะคะมินโฮ วันนี้เรามีแขกรับเชิญพิเศษมาเซอร์ไพรส์ไม่ใช่เหรอ คนนี้ก็น่าจะเข้าเค้าสเป็กของไลเกอร์อยู่นะ”

พอพิธีกรหญิงพูดขึ้นมาอย่างนั้น ลีแทจินก็ได้กลิ่นของความไม่ชอบมาพากลทันที ยิ่งได้ยินเสียงพิธีกรถามรับกับคู่หูแล้ว ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายก็เต้นระทึกขึ้นมาทันใด

“ใครหรือครับผู้หญิงผู้โชคดีคนนั้น”

“ให้ไลเกอร์ลองเดาดูดีกว่าว่าใครกันเอ่ย”

จากที่ตื่นเต้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ยิ่งตื่นเต้นหนักขึ้นไปอีก เม็ดเหงื่อค่อยๆ ซึมออกจากฝ่ามือทีละน้อยจนเปียกชุ่ม เขาเดาไม่ออกเลยว่าคนพวกนี้กำลังจะเล่นตลกอะไรกันอยู่

“ใครหรือครับ”

“ลองเดาดูสิคะ” พิธีกรสาวแกว่งนิ้วชี้ไปมาเป็นเชิงให้อีกฝ่ายทาย

“ทายไม่ถูกหรอกครับ บอกมาเลยดีกว่าว่าใคร” เขาฝืนยิ้ม แสร้งปั้นสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดทั้งที่น้ำเสียงไม่ปกติแล้ว

แต่คงจะมีแค่ผู้จัดการเท่านั้นที่รู้ นัชฌานเห็นท่าทางของเขาแล้วก็อยากจะลุกขึ้นไปดูหลังเวทีเสียเหลือเกินว่าใครกันที่ทำให้ชายหนุ่มออกอาการวิตกจริตถึงขนาดนี้

“งั้นขอเชิญนักแสดงสาวสุดสวย แขกรับเชิญพิเศษของเราในวันนี้เลยแล้วกันค่า!”

สิ้นเสียง คนที่ทำให้ลีแทจินต้องนั่งอยู่ไม่สุขก็ปรากฏตัวขึ้น นัชฌานมองไปยังหญิงสาวร่างโปร่งในชุดเดรสสั้นสีแดงสดพกความมั่นใจย่างกรายเฉิดฉายมายังหน้ากล้อง โค้งทักทายให้สองพิธีกรและนั่งลงยังฝั่งตรงข้ามลีแทจินอย่างงุนงง

“สวัสดีค่ะคุณมียอง คุณมินโฮ แล้วก็สวัสดีแทจิน” น้ำเสียงใสกล่าวทักทายอย่างสนิทสนม หากแต่ลีแทจินไม่หือไม่อือ นอกจากพยายามที่จะควบคุมสติอารมณ์ที่ส่อเค้าว่าจะพุ่งเตลิดเท่านั้น

“คังนาบี...” เขาพึมพำเบาๆ สายตาปกติเมื่อครู่แลดูแข็งกร้าวขึ้นมาแวบหนึ่งให้นัชฌานได้ทันสังเกตก่อนจะหายไปในเสี้ยววินาที

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”

หญิงสาวว่าขณะที่นักร้องหนุ่มหลบสายตาด้วยการก้มหน้าลง ทั้งที่ในใจว้าวุ่นหนักจนอยากจะลุกขึ้นไปชกหน้าคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดเซอร์ไพส์ในครั้งนี้หรืออาละวาดรายการให้พังกันไปข้างหนึ่งเหลือเกิน

ทำไมต้องเป็นยัยนี่ด้วยนะ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel