บทนำ (2)

เวลาไม่ถึงครึ่งวันข่าวเรื่องการทะเลาะจนถึงขั้นลงไม้ลงมือของมิริน อธิป และชลาลัยก็กลายเป็นข่าวดัง มีคนถ่ายคลิปตอนเกิดเรื่องได้ตั้งแต่ตอนเริ่มต้น หลังจากที่คลิปวีดีโอถูกแพร่กระจายออกไปอธิปกับชลาลัยก็ออกมาแก้ต่างให้กับตัวเองโดยอ้างว่ามิรินโมโหจนขาดสติ การให้ข่าวแบบนี้ทำให้มิรินโดนรุมด่าทางโซเซียลมีเดียมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นยังมีกลุ่มคนที่เห็นต่างบ้าง แต่เมื่อมีใครสักคนแสดงความเห็นต่างออกไปกลุ่มแฟนคลับของพระเอกหนุ่มกับนางเอกหน้าหวานก็รุมถล่มใส่คนที่พิมพ์ข้อความไม่ถูกใจทันที

เรื่องที่ได้รับฟังทำให้นายนรานักธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของเมืองไทยนั่งเม้มปากแน่นข่าวการทะเลาะกันของลูกสาวทำให้ท่านต้องรีบกลับบ้านแทบจะทันทีหลังจากทำหน้าที่ประธานในงานแต่งงานเสร็จ จริงอยู่ที่ว่ามิรินเคยมีข่าวไม่ดีมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ข่าวที่เกิดขึ้นตอนนี้มันสร้างความไม่พอใจให้ท่านมากถึงมากที่สุด ในขณะมารตีผู้เป็นภรรยาก็เครียดไม่แพ้กัน ลูกสาวของเธอถูกลูกเลี้ยงที่แสนจะร้ายกาจทำร้ายต่อหน้าคนหลายคน ถึงแม้ว่ามิรินกับนางจะไม่ค่อยถูกกันนัก แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือ อย่างมากก็แค่สร้างสงครามน้ำลายเท่านั้น แต่ครั้งนี้มิรินตบหน้าชลาลัย ถึงแม้จะไม่เห็นกับตาตัวเอง แต่จากในคลิปวีดีโอก็รู้ว่าแรงตบน่าจะรุนแรงมากเลยทีเดียว

“ยายมิมันเกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ทำเรื่องป่าเถื่อนเหมือนคนไม่มีหัวคิดแบบนั้น มันตั้งใจจะทำให้ผมอับอายหรือไงนะ” นายนราบ่นกับภรรยา

“ครั้งนี้ยายมิทำเกินไป ฉันไม่ยอมนะคะ มาตบหน้าชลาได้อย่างไร” มารตีพูดกับสามีเสียงเข้ม

“ผมต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมมันถึงทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นกับน้อง” พูดจบนราก็กดโทรศัพท์หาลูกสาวคนโตทันที และเมื่ออีกฝ่ายรับสายท่านก็เริ่มออกคำสั่งโดยไม่รีรอ “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

“เรื่องอะไรคะ” มิรินถามเหมือนไม่ใส่ใจ

“แกรู้ดีว่าเรื่องอะไร กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้”

“จะเรียกไปด่าเรื่องตบหน้าลูกรักเหรอคะ” มิรินย้อนถาม แววตาขมขื่น เธอพอจะรู้ว่าตัวเองจะโดนอะไรเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับพ่อ

“มาหาฉันที่บ้านเดี๋ยวนี้”

“ตอนนี้ไม่ว่าง”

“แกกำลังจะทำให้ฉันโกรธมากขึ้นกว่าเดิมนะ”

“ไม่ว่างกินเหล้าฉลองอยู่ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกันนะคะ” มิรินตอบพร้อมกรอกไวน์ที่อยู่ในแก้วเข้าปากรวดเดียวหมด คำตอบนี้ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้เป็นพ่อมากขึ้น

“มิริน แกนี่มัน..ฉันไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าแกแล้วนะ”

“แค่นี้นะคะ วันนี้ก็ลองถามลูกสาวสุดที่รักไปก่อนก็แล้วกันว่าทำไมถึงถูกตบ รีบปลอบใจซะแล้วพรุ่งนี้ค่อยเจอกัน” มิรินวางสายทันที และหันมาดื่มไวน์ที่เพิ่งถูกเทลงแก้วต่อเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ส่วนผู้เป็นพ่อได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ

“ยายมิว่าอย่างไรบ้างคะคุณ”

“มันบอกกำลังกินเหล้าฉลองอยู่ จะมาเจอเราพรุ่งนี้”

“อะไรกัน ทำไมเป็นคนร้ายกาจแบบนี้ ก่อเรื่องน่าเกลียดขึ้นมาแล้วยังไปดื่มฉลองอีก เราจะทำอย่าไรดีคะคุณพี่ ไปลากตัวมาบ้านเลยดีไหม”มารตีโวยวายเพราะไม่พอใจและเสนอความเห็น ส่วนนราส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

“ไม่มีประโยชน์หรอก เราไม่รู้ว่ามันไปมั่วไปเมาอยู่ที่ไหน ดังนั้นทำใจให้สงบและรอพรุ่งนี้ดีกว่า”

“ถ้ามิรินไม่มาล่ะคะ”

“คนอย่างยายมิ ลองมันบอกว่าจะมามันต้องมาแน่คุณไม่ต้องห่วง”

“คอยดูนะ พรุ่งนี้ฉันจะเอาเรื่องมิรินแน่นอน”

เมื่อกลับมาถึงบ้านสองสามีภรรยาก็พบว่าชลาลัยนั่งรออยู่แล้ว เมื่อพบหน้าพ่อแม่หญิงสาวก็โผเข้าหาและร้องไห้ออกมาทันที

ในขณะที่ชลาลัยกำลังร้องไห้และฟ้องว่าตัวเองถูกพี่สาวทำร้ายร่างกายและโยนข้อหาร้ายกาจให้อยู่นั้น ทางด้านมิรินก็นั่งดื่มไวน์โดยมีลูกหมีอยู่เป็นเพื่อนในคอนโดหรูของตัวเอง

“ทำแบบนี้ดีเหรอมิ ป่านนี้แม่น้องสาวแกไม่ฟ้องและใส่ไฟแกยับเยินแล้วเหรอ แกไม่กังวลเลยหรือไง”

“คิดมากไปทำไม อย่างไรฉันก็ถูกมองว่าผิดอยู่แล้ว อย่างมากก็แค่ถูกพ่อด่า ฉันชินแล้ว”

“แต่เรื่องนี้มันรุนแรงกว่าทุกครั้งนะ เพราะมันถึงขั้นลงไม้ลงมือ”

“แม่นั่นสมควรโดนตบแล้ว แค่ตบไม่กี่ทียังน้อยไปด้วยซ้ำ”

“โซเชียลฯเล่นงานแกเละเลยนะ”

“ฉันไม่สนข้อความพวกนั้นหรอก ไม่รู้จักกันเสียหน่อยมาด่ากันเสียๆหายๆ แกเก็บข้อความที่ด่าแรงๆไว้นะ ฉันจะฟ้องให้หนักเลย” มิรินบอกเพื่อน

“มิ...”

“ไม่ต้องพูดแล้วน่า ว่าแต่ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อน แกเป็นเพื่อนที่อยู่ข้างฉันมาตลอดถึงแม้ว่าฉันจะสร้างเรื่องมากแค่ไหนก็ตาม” ลูกหมียิ้ม

“เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างแกจะไม่ทำร้ายใครก่อน ที่ร้ายก็เพราะถูกกระทำก่อนทั้งนั้น ที่ด่าช่างแต่งหน้าก็เพราะถูกนินทาในระยะเผาขน และหลายครั้งที่แกมีเรื่องก็เพราะถูกเจ้าของงานเอาเปรียบบ้าง ถูกจ้างไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนบ้าง ช่วยเพื่อนร่วมงานบ้าง ทุกครั้งที่มีเรื่องก็เพราะมีคนมาหาเรื่องก่อนทั้งนั้น และที่สำคัญแกเป็นเพื่อนที่ดีมากนะ ถึงจะเสียงดังไปบ้าง ขี้หงุดหงิดบ้าง แต่แกหวังดีกับเพื่อนเสมอ” มิรินยิ้ม ในชีวิตเธอมีเพื่อนสนิทไม่กี่คน แต่ละคนก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง จะมีก็เพียงลูกหมีที่ดูแลกันอยู่และเพราะถูกดึงให้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวนี่ แหละเลยหนีไปไหนไม่ได้เลย