บทที่ 2.....แฉ (1)

บทที่ 2.....แฉ

ข่าวการทะเลาะกันของมิริน อธิป และชลาลัยกลายเป็นข่าวดังมีการขุดคุ้ยเรื่องราวของทั้งสามขึ้นมาพูดกันสนุกปาก คนที่โดนด่ามากที่สุดก็คือมิรินเพราะด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนไม่ยอมคนและพูดจาตรงไปตรงมาไปสนใจใครของเธอทำให้ถูกโจมตีมากกว่า แต่ถึงจะโดนถล่มมากแค่ไหนเจ้าตัวก็ไม่สนใจแต่อย่างใด หญิงสาวยังคงทำงานของตัวเองต่อโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น

“แม่สงสารคุณมิจังดูสิมีแต่ข่าวร้ายๆทั้งนั้นเลย” นางขวัญหทัยพูดกับลูกชายในขณะที่เขากำลังนั่งกินข้าว และนางนั่งอ่านข่าวบันเทิง

“ก็ไปตบน้องสาวถึงกองถ่ายนี่ครับ” ธีร์บอกถึงสาเหตุที่ทำให้มิรินโดนโจมตี

“คุณมิไม่เคยทำร้ายใครก่อน ที่ทำแบบนี้ต้องถูกกระทำก่อนแน่นอน” นางบอกกับลูกชายเพราะรู้จักหญิงสาวที่เป็นข่าวดี ถึงจะอยู่คนละจังหวัดแต่มิรินก็มักจะโทรศัพท์มาหาเสมอ

“แม่เข้าข้างคุณมิตลอด”

“คุณมิเธอน่าสงสาร เห็นข้างนอกร้ายๆแต่ข้างในอ่อนแอจะตาย”

“แม่รู้ได้ไงครับบางทีเธออาจจะไม่ได้เป็นแบบที่แม่คิดนะ” ธีร์พูดต่อ

“แม่เห็นมาตั้งแต่เกิด และเลี้ยงมากับมือทำไมแม่จะไม่รู้ คนที่ทำให้คุณมิเธอร้ายก็คุณนรากับเมียใหม่นั่นแหละ ธีร์เองก็รู้จักกับคุณมิเธอมาตั้งแต่เด็ก อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี” นางขวัญหทัยบ่นนางไม่ชอบมารตีและรู้ดีว่าผู้หญิงคนนั้นร้ายกาจแค่ไหน

“เมื่อก่อนกับตอนนี้มันต่างกัน ตั้งแต่ผมออกจากบ้านหลังนั้นมาดูเหมือนว่าคุณมิจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับผม ยิ่งตอนที่พาแม่มาอยู่ด้วยกันยิ่งห่างเหินไปกันใหญ่ รู้ไหมว่าคุณมิของแม่หาว่าผมแย่งแม่ไปจากเธอ ผมต่างหากที่ต้องโวยวายเรื่องนี้” นางขวัญหทัยยิ้ม รู้ดีว่ามิรินรักนางมากแค่ไหน และก็รู้ดีว่าธีร์เองก็รักเธอมากเช่นกัน

2 เดือนต่อมา

มิรินยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ถึงแม้ว่า งานเดินแบบกับงานแสดงจะลดน้อยลงเพราะข่าวเรื่องทะเลาะวิวาทแต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังมีงานประจำอย่างงานออกแบบตบแต่ภายในให้ทำ มิรินทำงานนี้ตั้งแต่เรียนจบโดยเข้าทำงานในบริษัทที่มารดาผู้แสนอาภัพมีหุ้นส่วนอยู่เมื่อแม่จากไปเธอก็เลยกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นอีกคนของที่นี่ ตอนแรกนายนราผู้เป็นบิดาต้องการให้ลูกสาวคนโตเข้ามาทำงานในธุรกิจของท่าน แต่หญิงสาวปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยโดยให้เหตุผลว่าไม่อยากต้องมาทนมองหน้าแม่เลี้ยง ทำงานนี้ได้สักพักก็เข้าสู่วงการนางแบบและวงการละครตามลำดับ และถึงแม้จะรับงานทางด้านวงการบันเทิงมากแค่ไหนหญิงสาวก็จัดสรรเวลาเพื่อไม่ให้งานบริษัทเสียหาย

“มิ ตอนหกโมงเย็นต้องไปงานเปิดตัวสินค้าที่ห้างนะ” ลูกหมีเตือนเพื่อนเรื่องตารางงานของวันนี้

“อืม”

“วันนี้แกต้องทำตัวให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย”

“ทำไมต้องทำแบบนั้น” มิรินถามต่อ

“ก็วันนี้แม่น้องสาวกับอดีตคนรักของแกถูกเชิญไปด้วย ดูเหมือนว่างานนี้นักข่าวรอสัมภาษณ์แกและสองคนนั้นพร้อมกัน ตอนแรกที่ดูรายชื่อคนที่เชิญไม่มีสองคนนั้น แต่อยู่ๆก็ได้รับเชิญ ฉันว่าคนจัดงานอยากได้กระแส” ลูกหมีเตือนพร้อมบ่น

“เอาเป็นว่าจะพยายามห้ามใจตัวเองไม่ให้ด่าสองคนนั้นก็แล้วกัน” มิรินพูดอย่างขอไปที

“ฉันกลัวว่าแม่น้องสาวตัวดีของแกจะพยายามทำให้สติหลุด” มิรินยิ้มเมื่อเพื่อนพูดจบ

“ฉันจะพยายามไม่ตบแม่นั่นออกสื่อก็แล้วกัน”

“ฉันจะพยายามกันอีกที”

มิรินมองพระเอกหนุ่มที่มายืนดักหน้าด้วยสายตาไม่พอใจและทำท่าจะเดินหนีแต่ถูกอีกฝ่ายขวางทางเอาไว้ไม่ยอมหลบ อธิปมองเธอด้วยสายตาตัดพ้อตั้งแต่มีเรื่องมิรินไม่ยอมพบหรือพูดคุยกับเขาทุกช่องทาง สิ่งที่หญิงสาวทำคือส่งลูกหมีมาบอกว่าให้เลิกแล้วต่อกันเพียงแค่นั้น ดังนั้นวันนี้เมื่อมีโอกาสก็อยากที่จะพูดกับเธอต่อหน้าให้มันรู้เรื่องชัดเจนไปเลย

“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะมิ”

“ไม่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันแล้ว”

“ผมอยากจะขอโทษ และอยากให้คุณให้โอกาสอีกครั้ง” อธิปขอความเห็นใจ ตลอดเวลาที่คบหากันแบบคนรักถึงแม้ว่าจะเพียงปีกว่าแต่พระเอกหนุ่มก็ยอมรับว่ามิรินคือผู้หญิงในอุดมคติ ถึงแม้ท่าทางที่แสดงออกมาจะดูไม่สนโลกแต่เธอเป็นผู้หญิงที่มีน้ำใจและน่ารักมากคนหนึ่ง ถ้าจะให้เทียบกับชลาลัยผู้เป็นน้องสาว มิรินกระด้างกว่าก็จริง แต่เขาก็ผูกพันกับคนตรงหน้ามากกว่าผู้หญิงอีกคน

“ไม่มีทาง” หญิงสาวปฏิเสธโดยไม่เสียเวลาคิด

“เรารักกันไม่ใช่เหรอ”

“คนรักกันเขาจะไม่ทรยศกันแบบที่คุณทำ คุณจะไม่มั่วกับใครฉันไม่ว่า ไม่เคยว่า ที่ผ่านมาอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณทำอะไร ทั้งพริตตี้ ทั้งพวกสาวๆคลั่งดาราคุณจะคั่วกับใครฉันไม่เคยพูดและทำไม่รู้ไม่เห็น แต่ครั้งนี้มันสุดจะทน” สิ่งที่มิรินพูดสร้างความประหลาดใจให้เพราะที่ผ่านมาเขาก็ว่าทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดแล้ว ไม่คิดว่ามิรินจะรู้

“แต่ผมพลาดไปแล้ว”

“ถ้าพลาดมันต้องแค่ครั้งเดียว แต่นี่มันไม่ใช่”

“มิ”

“ฟังนะ ที่ฉันไม่เอาคลิปวีดีโอกับภาพกอดรัดฟัดเหวี่ยงของคุณกับนังน้องขี้อิจฉามาแฉต่อหน้าสื่อนี่ก็บุญเท่าไหร่แล้ว ดังนั้นอย่ามายุ่งกับฉันอีก”

“ถึงคุณไม่ทำแบบนั้นตอนนี้ผมก็โดนโจมตีอยู่ดี”

“ฉันโดนมากกว่าคุณเยอะ ที่คุณโดนก็เพราะกรรมไง คุณโดนสื่อกับคนด่าเพราะสำส่อน”

“คุณตัดใจจากผมง่ายเหลือเกิน หรือว่าคุณไม่เคยรักผมเลย” คำถามของเขาทำให้มิรินนิ่ง

“เราคบกันเพราะแรงยุของคนรอบข้าง คบกันมาได้ยังไม่ถึงสองปีเลยฉันคิดว่าเราไม่ได้รักกันหรอก เราแค่ชอบใจกันเท่านั้น โชคดีที่เราไม่เคยมีสัมพันธ์ทางกายต่อกัน ไม่อย่างนั้นเรื่องคงยาวกว่านี้” อธิปถึงกับนิ่ง ใช่เขากับมิรินตัดสินใจคบหากันเพราะแรงยุของบรรดาคนรอบตัว เพราะได้ร่วมงานกันบ่อยเลยตกลงจะลองคบกัน และที่ผ่านมามิรินกับเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับบนเตียงเลยเพราะเธอไม่ยอม

“มิ”

“อย่ามายุ่งกับฉันอีก”

“คุณมันใจร้าย”

“ฉันไม่เคยบอกว่าตัวเองใจดี ถอยไป ฉันไม่อยากมีเรื่องกับคุณ” คำพูดและสายตาของเธอทำให้อธิปยอมหลีกทางให้ด้วยความจำใจ