บทที่ 4 ข้อเสนอ
“จะกลับเลยหรือเปล่า?” เสียงใส ๆ ของเพื่อนสนิทคือ ‘อี้หนิง’ ที่ติดรถมาเป็นเพื่อน ‘ฐานิญา’ ที่พัทยา ถามหลังจากที่เห็นว่าเพื่อนเบนสายตากลับมาจากทาง Rooftop
“ไม่...” มือเรียวซีดขาวยกแก้วค็อกเทลสีชมพูสดใสขึ้นจิบ และหันไปสนใจนักร้องที่กำลังเป่าแซกโซโฟนบรรเลงเพลงสากลซึ่งเธอพยายามดื่มด่ำกับมันแต่ก็ทำไม่ได้เลย
“แล้วจะมานั่งอยู่แบบนี้เพื่อดูเขาพลอดรักกันเหรอ?” หนิงเอ่ยถามเพื่อด้วยหน้ายุ่ง ๆ
“ฉันมาฟังเพลงไม่ได้มาดูใคร”
“มาฟังเพลงถึงพัทยาเลย ไข่ตุ๋นแกอย่ามาเลอะเทอะ ถ้าอยากคุยก็เดินไปคุยเลย เห่ย! ออกไปกันแล้ว!” ฐานิญาหันขวับมองไปตามเสียงร้องตกใจของเพื่อนสนิท ก่อนจะเห็นว่าหญิงชายคู่นั้นพากันกลับออกไปแล้วจริง ๆ
“แป๊บนะ” ฐานิญาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสาย ก่อนที่ชายร่างบึกบึนด้านหลังของเจ้านายเขาจะรับสาย
“ร้านมาร์ชเมลบาร์เหรอคะ...โอเคค่ะ”
#มาร์ชเมลบาร์พัทยา
การินทร์เงยหน้ามองหญิงสาวในชุดแม่ชีที่เดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหาเขาถึงโซน VVIP ด้านในไนต์คลับพัทยา ดวงตาคมเข้มเป็นประกายพึงพอใจที่เห็นว่าฐานิญากล้าเผชิญหน้ากับเขาขนาดนี้
“ศิลป์...มึงปล่อยให้แม่ชีเข้ามาในผับได้ด้วยเหรอว่ะ?” แม้จะเป็นคำพูดแสนจะเบาเพราะโดนเสียงเพลงกลบไปหมด แต่ฐานิญาเธอได้ยินอย่างชัดเจน และถือวิสาสะนั่งลงบนโต๊ะกระจกเตี้ย ๆ ตรงที่การินทร์นั่งอยู่
“เอ่อ...คือ ไข่ตุ๋นสวัสดี” ‘ศิลป์’ เพื่อนสนิทการินทร์เอ่ยทักเธอ
“คุณศิลป์สวัสดีค่ะ ขอยืมตัวเพื่อนรักคุณสักครู่ และก็ขอเหล้าเข้ม ๆ แก้วหนึ่งด้วยค่ะ”
ดวงตากลมโตที่เยิ้มหยดนั่นทำให้การินทร์รู้ว่าฐานิญาดื่มมาประมาณหนึ่งแล้ว อาจจะไม่ใช่ประมาณหนึ่งด้วยอาจจะมากไปเสียด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่กล้ามานั่งจุ้มปุ๊กอยู่กึ่งกลางหว่างขาและมองหน้าเขาด้วยแววตาดื้อดึงเช่นนี้
การินทร์มองใบหน้าที่ถูกตกแต่งอย่างสวยจัดของฐานิญา ผมยาวสลวยที่เคยเป็นสีดำขลับตอนนี้ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน มือบางเย็นเยียบยื่นมาวางบนต้นขาแกร่ง
“คบกันไหมกิ้น” เสียงนั่นดังพอที่จะทำให้คนทั้งโต๊ะที่นั่งอยู่หันมามองคนทั้งคู่ด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกไป
การินทร์เลิกคิ้วขึ้นและจ้องมองสบเข้ากับแววตาสับสนนั่นด้วยความรู้สึกคึกคะนอง เขายกท่อนขาหลีกหนีมือนั่น ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
“เราคบกันมีแต่เธอที่ได้...แล้วฉันได้อะไร ฉันมีแต่เสีย และรู้สึกว่ามันไม่คุ้ม” ฐานิญากัดริมฝีปากตนเองจนได้กลิ่นคาวเลือด
“แล้วกิ้นอยากได้อะไร...พี่ให้กิ้นได้ทุกอย่าง” ชายหนุ่มยักไหล่และเบนสายตามองไปด้านหลังหญิงสาวพร้อมกับเหยียดยิ้ม
“ทุกอย่าง...ต้องถามว่าเธอเหลืออะไรบ้างจะดีกว่า” หยดน้ำตาสีใสไหลรินลงมาก่อนที่ฐานิญาจะปัดมันออกและคว้าแก้วในมือเขาขึ้นมากระดกดื่มจนหมดทั้งยังกำแก้วนั้นเอาไว้แน่น
“เพราะอลิสเหรอ...เรื่องของเรามันถึงยุ่งยากจัง” แววตาวาววับหันกลับมามองเธอ การินทร์ขบสันกรามแน่นเมื่อเห็นว่าคนที่ร้องไห้ตรงหน้าดันเหยียดยิ้มใส่เขา
“ไม่เกี่ยวกับอลิส แต่มันคือใครก็ได้ที่ไม่ใช่เธอ!” คำพูดตัดรอนไร้เยื่อใยของเขาทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บปวด
ความขมปร่าของบรั่นดีราคาแพงนั่นไม่ได้ทำให้ฐานิญารู้สึกแสบคอเลย แต่เธอรู้สึกแสบไปทั้งใจต่างหากเมื่อเห็นทั้งแววตาและรอยยิ้มเย้ยหยันของการินทร์
“พี่มาขอความเห็นใจกิ้นดี ๆ เพราะพ่อพี่เข้าโรงพยาบาลและท่านต้องการแค่กิ้นไม่ต้องการใครอีก!” ฐานิญาขยุ้มแขนเสื้อเชิ้ตของการินทร์น้ำตาสีใสไหลรินลงมาไม่ขาดสาย
“ฉันมีแฟนแล้ว เข้าใจไหม?”
