บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8

คุณพระช่วย แสดงว่าชีคดาเนียลคิดไว้แต่แรกแล้วว่าจะจัดการกับตนอย่างไรงั้นหรือ ไม่ได้ ไม่มีทางแน่ เธอไม่มีวันยอมรับชะตากรรมนี้เด็ดขาด

ไม่มีวันเด็ดขาดที่จะอยู่รอความตายหรือรอรับการลงโทษในสิ่งที่ไม่ได้ก่อตามความพึงพอใจของชีคดาเนียลแน่ การะเกดไม่ผิดและไม่ได้รู้เห็นต่อการจากไปของอัสมันแม้แต่อย่างเดียว ทั้งที่พยายามอธิบาย ขอร้องหรือแม้แต่ขอโอกาส เขาก็ยังไม่คิดจะหยิบยื่นสิ่งใดให้ มีแต่บังคับขู่เข็ญให้สำนึกในสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นต้องรับผิดชอบ ดังนั้น...

เสียงนาฬิกาตีบอกเวลาย้ำว่าการะเกดจำเป็นต้องตัดสินใจแล้ว คืนนี้ชีคดาเนียลอาจจะกลับดึกเพราะมีงานสำคัญที่ต้องสะสางเป็นวันสุดท้าย และพรุ่งนี้คงจะมีเวลากลับมาไล่บี้และตัดสินลงโทษเธอเรื่องอัสมันแน่

จะไม่มีวันนั้น จะไม่มีการะเกดที่คาลีจให้ชีคดาเนียลทำอะไรตามอำเภอใจได้อีกต่อไป เธอจะกลับเมืองไทย กลับแผ่นดินเกิด อย่างน้อยก็กลับไปตั้งต้นเรียกสติคืนมาก่อน แล้วค่อยๆ คิดว่าจะทำอย่างไรกับข้อกล่าวหานี้ดี

เพื่อนๆ ที่เมืองไทยหลายคนมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ ไม่แน่ว่าพวกนั้นอาจจะช่วยเธอเรื่องนี้ได้ เมื่อไรที่พร้อมและมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ได้แล้ว การะเกดสัญญาว่าจะหาทางติดต่อกลับมาแน่

การะเกดลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้า โชคดีที่นาดาให้สาวใช้เอาชุดของเธอมาเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวค่อยๆ แง้มประตูห้องออกมาทีละนิด ปลอดคนไม่มีใครอยู่แถวนั้น

วินาทีที่ตัดสินใจเด็ดขาดการะเกดวิ่ง วิ่งลงบันไดแล้วเปิดประตูบานใหญ่ออกมา วิ่งโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีกเลยว่าจะมีใครเห็นหรือไม่ เส้นชัยของเธออยู่ที่ถนนใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์แห่งนี้

แสงไฟจากริมถนนเสียงรถที่วิ่งผ่านหน้าไปเมื่อครู่ การะเกดรู้สึกถึงคำว่าอิสรภาพขึ้นมาทันทีว่ามันมีค่าแค่ไหน เธอทำตามคำบอกของฟาติมาทุกอย่างและมันก็ได้ผลจริง อีกนิดเดียวเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นก็จะจบลงแล้ว อ้อมอกของแผ่นดินเกิดคือความหวังเดียวของหญิงสาวในเวลานี้

'หยุดรอที่เสาไฟริมทาง จากนั้นจะเห็นรถที่มีธงสีส้มให้โบกแล้วยื่นกระดาษแผ่นนี้ให้ พวกเขาจะรับคุณขึ้นไปทันที คุณต้องไปก่อนสามทุ่มครึ่งนะคะ'

'พอไปถึงด่านตรวจให้อยู่เฉยๆ ทำไมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอข้ามด่านไปได้พวกเขาจะไปส่งคุณไปหาคนที่ฉันสั่งให้มารับ'

'เรื่องตั๋วหรือพาสปอร์ตไม่ต้องห่วงนะคะคุณไปรอที่สนามบิน ส่วนอย่างอื่นฉันมีคนที่ช่วยได้รับรองได้ว่ ถ้าทำตามนี้คุณจะได้กลับบ้านคุณแน่'

'ช่วยฉันแบบนี้ ถ้าชีคดาเนียลรู้เข้า คุณจะไม่เดือดร้อนเหรอคะ' แม้จะดีใจที่มีทางหนี แต่การะเกดก็ไม่วายห่วงว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน

'คงไม่มีใครคิดว่าฉันจะช่วยคุณหรอกค่ะ ทุกคนมองว่าเราน่าจะเป็นศัตรูกันมากกว่าเพราะคุณมาทำให้อัสมันจากฉันไป'

'แล้วจริงๆ คุณคิดแบบนั้นหรือเปล่าคะ'

'ไม่เลยค่ะ ต้องขอบคุณคุณด้วยซ้ำที่ทำให้รู้ว่า ความรักของฉันกับอัสมันแข็งแรงแค่ไหน'

'แล้วถ้าเขารู้หรือจับได้ว่าคุณช่วยฉัน เขาจะทำอะไรคุณหรือเปล่า' นักข่าวสาวถามเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตัดสินใจไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแน่

'กว่าจะรู้คุณคงกลับเมืองไทยไปแล้ว ถ้าให้ดีเมื่อกลับไปหลบไปอยู่ที่ไหนสักแห่งก่อน รอให้เรื่องเงียบแล้วค่อยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ส่วนทางนี้ไม่ต้องห่วงยังไงดาเนียลก็ไม่ฆ่าฉันแน่ค่ะ และถ้าเขาโกรธ ฉันก็มีวิธีที่จะทำให้หายได้ คุณห่วงตัวเองและรีบตัดสินใจดีกว่า วันนี้ทางสะดวกทุกอย่างเหมาะที่จะหนี ถ้าพ้นวันนี้ไปแล้วอาจทำอะไรไม่สะดวกนะคะ'

'ขอบคุณคุณฟาติมามากนะคะที่ช่วยฉัน ถ้ากลับไปเมืองไทยได้ฉันจะพยายามหาทางสืบว่าใครที่แอบใช้ล็อกอินฉัน ทำเรื่องพวกนี้จนคุณอัสมันต้องตาย' นักข่าวสาวให้คำมั่นสัญญา

'บอกแล้วไงคะว่าไม่สำคัญ คุณควรคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะหนีให้พ้นเงื้อมมือดาเนียลมากกว่า โชคดีนะคะ'

แสงไฟของรถบรรทุกสว่างจ้ามาแต่ไกล การะเกดดูนาฬิกาข้อมือเป็นครั้งสุดท้าย สามทุ่มครึ่งตรงเวลาพอดี รถบรรทุกที่มีธงสีส้มติดอยู่เคลื่อนเข้ามาใกล้ หญิงสาวขยับตัวไปยืนให้เห็นเด่นชัดขึ้น

รถบรรทุกคันดังกล่าวชะลอความเร็วลง ชายอาหรับโพกผ้าคนหนึ่งชะโงกหน้าลงมา พร้อมกับรับกระดาษแผ่นเล็กที่การะเกดยื่นออกไปให้ ในที่สุดเขาก็ยื่นมือมาดึงตัวนักข่าวสาวขึ้นไปบนรถ หญิงสาวภาวนาขอให้ทุกอย่างราบรื่นไม่มีอุปสรรคใดๆ มาขวางทางกลับบ้านของเธอได้

ชีคดาเนียลกลับมาเร็วกว่าที่บอกไว้ นาดามารอรับที่ห้องโถงเหมือนเคย ท่าทีเหน็ดเหนื่อยของชายหนุ่มทำให้นางกระวีกระวาดไปหาผ้าเย็นและน้ำสะอาดมาให้ เมื่อรู้สึกสดชื่นขึ้นจึงถามหาการะเกด

"ชีคจะให้คำตอบเธอแล้วใช่ไหมคะ" นาดาถามด้วยความตื่นเต้น

"แค่เดือนเดียวคงไม่นานใช่ไหม"

คำตอบของชีคดาเนียลทำให้นาดาเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ รีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของการะเกดเพื่อแจ้งข่าวดีนี้ให้เจ้าตัวรู้ แต่แล้วความดีใจของนางก็ต้องกลายเป็นความตกใจรีบวิ่งลงมาที่ห้องโถงอีกครั้ง

"มีอะไร นาดา" ชีคดาเนียลถามด้วยความแปลกใจ

"คุณการะเกดค่ะ คุณการะเกดหายไป"

"อะไรนะ การะเกดหายไป หายไปได้ยังไง"

ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการะเกดหายไปไหนและเมื่อไร ชีคหนุ่มกำมือแน่นด้วยความโมโห ไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าหล่อนจะกล้าทำแบบนี้ เจ้าแห่งทะเลทรายเปิดประตูเข้าไปที่ห้องเล็กข้างห้องโถงทันที กล้องวงจรปิดที่ติดไว้ทุกตำแหน่งในบ้าน ถูกย้อนดูเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว

ภาพที่ปรากฏคือการะเกดวิ่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิต และเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของหญิงสาวไม่รู้ เสาไฟต้นที่ยืนรอรถมีกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพว่าเธอขึ้นรถบรรทุกที่จะข้ามผ่านชายแดนที่โอม่าร์

"คุณการะเกด" นาดาอยากจะเป็นลมเมื่อเห็นสิ่งที่การะเกดทำ อะไรทำให้คิดสั้นหนีไป ทั้งที่ไม่รู้ทิศทางและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้าบ้าง

"จะปล่อยเธอไปเหรอคะ ถ้าที่ด่านมีปัญหา" นาดาเอ่ยเสียงเครือ

การะเกดคงไม่รู้กระมังว่าที่ด่านชายแดนมีอะไรร้ายแรงรออยู่ ข่าวโจรทะเลทรายบุกปล้นสะดมชิงของที่จะข้ามไปค้าขายมีอยู่บ่อยครั้ง หรือบางทีก็เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทของพ่อค้าด้วยกันเองที่ขัดผลประโยชน์จนลงเอยด้วยชีวิต

ปัญหาเหล่านี้ทั้งโอม่าร์และคาลีจพยายามหาทางแก้ไข แต่ก็ค่อนข้างยากเนื่องจากกว่าที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง คนก่อเรื่องก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว

"ชีคคะ" นาดาจับแขนชายหนุ่มที่ยืนมองด้วยสายตาแห่งความโกรธ

"เธอไม่ใช่คนที่นี่นะคะ ถ้าเกิดว่า..."

"เดี๋ยวผมจะตามไปเอง ถ้าคืนนี้ไม่กลับช่วยให้คนไปรับที่ด่านด้วย"

ชุดคลุมยาวและผ้าโพกศีรษะถูกเปลี่ยนแทนสูทหรูสีดำภายในเวลาไม่กี่นาที ม้าฝีเท้าดีที่สุดในคฤหาสน์คือพาหนะที่จะต้องแข่งกับรถบรรทุกที่วิ่งนำไปก่อนหน้าเมื่อครึ่งชั่วโมงนี้

นาดาสวดขอพรต่อพระเป็นเจ้า ได้โปรดเมตตาคุ้มครองพญาเหยี่ยวแห่งทะเลทรายให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง รวมถึงการะเกดผู้ไม่รู้ว่าเส้นทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอันตรายเพียงใดด้วยเถอะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel