รักร้อนละลายใจ

เสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับชื่อดัง ‘ซีซ่าร์ผับ’ ย่านมหาวิทยาลัยชื่อดังกลางเมืองกรุง บรรยากาศวันนี้ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนแล้ว ยังเป็นสัปดาห์แรกของการเปิดเรียนภาคเรียนที่ 2

จึงคลาคล่ำเต็มไปด้วยนักท่องราตรีที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นนักศึกษาวัยรุ่นหนุ่มสาวของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในละแวกนั้น

เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงดึกผู้คนภายในผับยิ่งคึกคัก เสียงพิธีกรบนเวทีที่ยกระดับจากพื้นประมาณครึ่งฟุต ประกาศออกไมค์

พร้อมจังหวะกลองที่ส่งเสียงเรียกร้องให้ผู้คนหันมาสนใจ และมันก็ทำให้ผู้คนหันมาส่งเสียงโห่ร้องตอบรับกันอย่างครึกครื้น

“เอาละครับต่อไป ขอเชิญทุกท่านพบกับวงดนตรีเทพบุตรสุดหล่อทั้งสี่ เนฟเวอร์ แบด”

หลังเสียงประกาศของพิธีกร สาวๆ หลายคนกรีดร้องต้อนรับหนุ่มหล่อทั้งสี่อย่างตื่นเต้น เพราะวงเนฟเวอร์แบด เป็นวงดนตรีที่กำลังจะได้เดบิวต์ กับค่ายเพลงใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ

เพลงแรกเปิดตัวด้วยเพลงเร็ว เสียงเบสบีบอารมณ์ให้พุ่งขึ้น แล้วกีตาร์ก็สอดแทรกประสานเข้ามา ก่อนจะเป็นเสียงกลองเร่งเร้าปลุกให้ผู้คนได้ขยับตัวโยกย้ายกันอย่างครื้นเครง

หลายคนออกมาเต้นรำกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง เพลิดเพลินกับเสียงเพลงเสียงดนตรี และยังได้ปลดปล่อยผ่อนคลายความตึงเครียด อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยอิสระดื่มด่ำกับความสุข รสชาติของชีวิตวัยรุ่น

แล้วเพลงสุดท้ายก็จบลงไป ...

“สำหรับคืนนี้ขอให้ทุกคนโชคดีครับ และขอฝากสักนิด ถ้าสาวสวยคนไหนยังไม่มีใครไปส่ง มือเบสของวงเรายังว่างอยู่นะครับ”

เบญจามินทร์หัวหน้าวง ซึ่งเป็นนักร้องนำและมือกีตาร์ หันมายิ้มพร้อมกับยักคิ้วใส่ธนาธิปมือเบสของวง ซึ่งเขาไม่ได้พูดตอบโต้อะไร นอกจากยิ้มแล้วส่ายหน้า เพราะเขามันจะโดนเบญจมินทร์แกล้ง และพูดเย้าแหย่เช่นนี้เป็นประจำ

สาวๆ หลายคนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดตามมา ก่อนสาวสวยเซ็กซี่คนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าสุดของเวที จะตะโกนถามสวนขึ้นมาว่า

“แล้วมือกีตาร์ละค่ะ โสดด้วยรึเปล่า” คราวนี้มีเสียงแซวพร้อมเสียงร้องกรี๊ดดังกว่าเดิม

คนถูกถามถึงกับอมยิ้ม แล้วจึงตอบกลับไปอย่างเต็มปากเต็มคำ

“โสดครับ”

“ว๊าย จริงเหรอคะ”สาวคนเดิมตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง

คราวนี้เธอลุกจากเก้าอี้ ก้าวเข้ามาชิดขอบเวทีตรงที่เบญจมินทร์ยืนอยู่ พร้อมยื่นแก้วเหล้าให้เขา

เบญจมินทร์ไม่ลังเลที่จะโน้มตัวลงไปหาสาวสวยคนนั้น เขาขยับริมฝีปากเฉียดแก้มของหญิงสาวเพียงนิดเดียว แล้วพูดกระซิบที่ข้างหูของเธอ

“ผมโกหกไม่เก่งครับ” พูดจบเขาก็ยื่นมือไปรับเหล้าแก้วนั้น แล้วกระดกดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

หญิงสาวถึงกับยิ้มกว้างเพราะพออกพอใจกับคำตอบของชายหนุ่ม เธอแอบหมายตาเขาไว้ ตั้งแต่เห็นเขาเมื่อครั้งแรกที่มาเที่ยวที่นี่ พอรู้ว่าวันนี้จะมีการแสดงดนตรีสดของวงเนฟเวอร์แบด เธอจึงรีบจองโต๊ะหน้าสุด เพื่อที่จะได้เห็นเขาใกล้ๆ และต้องการดึงดูดความสนใจจากเขาด้วย

แล้วแผนการของเธอก็สำเร็จ เพราะขณะที่ร้องเพลงอยู่ เขาก็มองมาที่เธอหลายต่อหลายครั้ง และตอนนี้สายตาเขาก็ยังแอบมองต่ำลงมาที่เนินอกไซส์ใหญ่พิเศษ ชุดเกาะอกที่รัดแน่นจนดูน่าอึดอัด ทั้งคู่สบตากันอย่างมีความหมาย ต่างรู้ความต้องการของกันและกัน

“เบญจมินทร์โว๊ย พักบ้างไรบ้าง จะเอาทุกคืนเลยรึไงว่ะ”กวินท์มือกลองตะโกนแซวขึ้น ขณะที่กำลังลุกจากเก้าอี้เพื่อลงจากเวที

เบญจมินทร์ล่ะสายตาจากหญิงสาว แล้วหันมายิ้มพลางยักไหล่เบาๆ ก่อนจะขยับกลับมายืนเต็มความสูง และเดินตามเพื่อนลงไปติดๆ

แล้วเขาก็ก้าวไปตามทางเดินแคบๆ ทางไปห้องน้ำ หางตาก็แอบมองคนที่กำลังเดินตามมา และไม่ใช่ใครที่ไหน สาวสวยคนเมื่อครู่ที่ยื่นเหล้าให้เขานั่นเอง

ชายหนุ่มชะลอฝีเท้าลงให้เธอได้เดินตามทัน แล้วพอถึงหน้าห้องน้ำเขาก็หยุดเดิน และหันหลังพิงไปกับผนังหน้าห้องน้ำ เธอเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเขา ส่งยิ้มหวานยั่วยวน เชิญชวนอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนจะไล้สายตา มองหญิงสาวร่างบาง แต่หน้าอกกลับใหญ่ล้นทะลักออกมา จนยอดอกเกือบโผล่ออกมาแล้ว มันเปิดเผยมากเกินไป มันรบกวนสายตาเขาทำให้หยุดมองไม่ได้ ช่างดึงดูดและน่าลิ้มลองว่าจะพอดีมือแค่ไหน

“เอมมี่ค่ะ”หญิงสาวแนะนำตัวสั้นๆ พร้อมกับยื่นมือขึ้นมา เขาพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นมาจับมือกับเธอ

"ผมคิดว่าคุณคงรู้จักผมอยู่แล้ว และคงรู้ว่าผมต้องการอะไร"พูดจบเบญจมินทร์ก็ดึงมืออีกฝ่ายเข้ามาใกล้อีก ก่อนจะเลื่อนมือไปโอบเอวคอดแล้วดึงเข้ามาจนแนบกับตัว

“ว้าว อเมซิ่งมากเลยค่ะ ที่เรามีความคิดที่ตรงกัน งั้นอย่าเสียเวลาเลยนะคะ เอมมี่ว่าเราไปหาที่ทำอะไรสนุกๆ ดีกว่า”ปากพูดไป หน้าอกของเธอก็วนเวียนเสียดสีบริเวณหน้าอกหน้าท้องของชายหนุ่ม หญิงสาวทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไร

“ข้างในมีห้องพักของเฮียซีอยู่ ผมว่าห้องนั้นก็น่าจะใช้ได้นะ”หัวหน้าวงเนฟเวอร์แบด หันมาหยักคิ้วให้เพื่อนอีกสามคนที่กำลังจะเดินมาเข้าห้องน้ำ

เป็นอันรู้กันว่ามีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ อาจจะหายไปสักชั่วโมง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ แต่เขาจะไม่นอนค้างกับผู้หญิงคนไหนเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการสร้างพันธะหรือความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใครทั้งนั้น

ห้องรับรองขนาดไม่เกิน 20ตารางเมตร มีโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงได้ อยู่ชิดผนังด้านในติดกับหน้าต่างบานเลื่อน ตรงข้ามโซฟาเป็นโต๊ะทำงานของเจ้าของผับ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่สนิทสนมกันดีกับเบญจามินท์

เมื่อประตูห้องปิดลงเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็หันมาโน้มตัวลงจุมพิตสาวสวยอย่างดูดดื่มและหื่นกระหาย ริมฝีปากของคนทั้งคู่บดขยี้กันอย่างรุนแรง เหมือนอดทนรอเวลานี้มานานแล้ว

หญิงสาวครางเสียงกระเส่าอยู่ในลำคอ เมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มเลื่อนจากปลายคางลงมาที่เนินอก มือเขากระชากเกาะอกลงเบาๆ เผยบลาลูกไม้สีดำปกปิดหน้าอกอยู่ เขาจึงเอื้อมมืออ้อมไปด้านหลังปลดตะขอออก บลาลูกไม้สีดำจึงเลื่อนหลุดลงไปที่พื้นอย่าง่ายดาย

แล้วมือของชายหนุ่มก็เข้ามาประคองกอบกุมทรวงอกคู่สวย แล้วนวดคลึงเบาๆ ก่อนจะใช้นิ้วโป้งปัดผ่านยอดอกเบาๆ สร้างความเสียวซ่านให้อีกฝ่ายจนเธอเผลอครางออกมา

“ผมจะทำให้คุณร้องดังกว่านี้”ปากเขาพูดอยู่ตรงร่องอกของหญิงสาว

เบญจมินทร์ผลักร่างบางลงไปที่โซฟา แล้วตัวเขาจึงตามลงไปคร่อมตัวเธอเอาไว้ และเริ่มเล้าโลมเธอด้วยลิ้นอย่างชำนาญ เสียงเอมมี่ครางพร้อมลมหายใจที่ถี่และแรงขึ้น เธอบิดกายด้วยความทรมานอยู่ใต้ร่างของหนุ่มหล่อ

ร่างกายของทั้งสองเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เพราะความร้อนแรงภายในกายที่เกิดจากการถูกไฟราคะแผดเผา เมื่อได้เสพสมความสุขจากร่างกายของกันและกัน

ทว่าตอนนั้น จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เบญจมินทร์ที่กำลังพิงหลังหงายไปกับโซฟา เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู

“อย่าเปิดนะคะ”เอมมี่เงยหน้าขึ้นมาจากเป้ากางเกงของชายหนุ่ม แม้ปากจะสะดุดไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู แต่เธอก็ก้มลงไปทำต่อ

“ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมยังไม่เสร็จใครก็เข้ามาไม่ได้ทั้งนั้น” เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของหญิงสาวเพื่อปลอบโยน และปล่อยให้เธอสร้างความสุขที่เสียวซ่านให้เขาต่อไป โดยไม่สนใจเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นมาอีกรอบ