
บทย่อ
#บุญส่ง หนุ่มหน้าตาดี ฐานะต่ำต้อยที่มีชนักติดหลัง แต่เพราะเสน่ห์ดึงดูดทางเพศของเขา ทำให้หญิงสาวหลายคนต่างถวิลหา และเขา....จะตอบสนองกับพวกเธออย่างไร โดยเฉพาะคุณหนู ลูกสาวนายจ้าง*** “เรื่องผู้ชาย ผู้หญิงจะมีอะไรกัน ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาครับ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ..ผมเกรงว่าคุณนายท่านจะว่าคุณหนูได้น่ะครับ” “อ้อ...แล้วบทรักเขาล่ะ นายว่าธรรมดาไหม?” เธอยังคงถามต่อ ค่อยขยับขาไขว่ห้าง เปิดเปลือยต้นขาให้ร่นลึกเข้าไปอีก “ก็ธรรมดาเหมือนกันครับ” บุญส่งกลั้นใจตอบ “หึๆ แล้วแบบไหนที่นายว่าไม่ธรรมดาล่ะ บุญส่ง” หญิงสาวโน้มใบหน้าไปด้านหน้ารถ บุญส่งหันกลับมาก็แทบจะชนใบหน้าของเธอ รถเป๋ไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะชะลอจอดข้างทาง “คุณหนูอยากลองไหมละครับ”
๑.บุญส่ง
บุญส่ง หนุ่มวัยฉกรรจ์เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาหาลุงเมือง ญาติที่เขาเคารพในกรุงเทพฯ เขาเพิ่งออกจากคุกในข้อหาพยายามฆ่า โดยการปรักปรำของหนุ่มคู่อริที่แย่งผู้หญิงคนเดียวกัน ความจริงแล้วมันก็แค่ทะเลาะวิวาท แต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นลูกเจ้าใหญ่นายโต ทำให้เขาต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกนานถึง ๓ ปี จึงได้รับการอภัยโทษ พอกลับมาสู่โลกภายนอก คนขี้คุกอย่างเขาก็หางานทำไม่ได้แล้ว
ชายหนุ่มนั่งรถแท็กซี่มาลงที่บ้านหลังหนึ่งตามที่อยู่ที่ลุงเมืองเคยให้ไว้ ทันทีที่ก้าวลงจากรถแท็กซี่ เด็กต่างจังหวัดอย่างเขาก็ต้องใจเต้นระทึก เมื่อเห็นว่าที่อยู่ที่ลุงให้ไว้ เป็นตึกหลังใหญ่ที่เรียกกันว่าคฤหาสน์ ล้อมรอบด้วยรั้วอัลลอยด์ ภายในมีสนามหญ้าตัดเรียบ ตรงกลางมีลานน้ำพุประดับด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับ จากประตูหน้าถนนที่ทอดยาวจากไปสู่ตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน
บุญส่งชะเง้อมองเข้าไปภายในรั้วด้วยความหวาดหวั่น ละล้าละลังว่าจะกดกริ่งหน้าบ้านเรียกลุงเมืองดีหรือไม่
“มาหาใครหรือคะ?”
ยังไม่ทันที่บุญส่งจะตัดสินใจ หญิงสาวหน้าแป้นที่ยืนอยู่ด้านหลังบุญส่ง ก็เอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย ใบหน้าของเธอบ่งบอกว่าเป็นคนพื้นเพทางภาคอีสาน สวมเสื้อสีขาวแขนกระบอกยาวถึงข้อศอก ผ้านุ่งสีทึบ ในมือถือตะกร้าหวายที่บรรจุผักสดและผลไม้อยู่เต็มไปตะกร้า
“มาหาลุงเมืองครับ”
บุญส่งตอบอย่างนอบน้อมทันที หญิงสาวยืดอกเชิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะนานๆ จะมีคนพูดเพราะกับหล่อนสักที
“ญาติลุงเมืองเหรอ ตามฉันมาสิ”
หล่อนเดินเชิดหน้า นำเขาไปที่ประตูเล็กแล้วไขกุญแจเปิดเข้าไป
“ฉันเห็นพี่ยืนอยู่ลับๆ ล่อๆ อยู่นาน แต่ท่าทางพี่ไม่ใช่คนร้ายก็เลยทัก”
“ครับ ขอบคุณมากครับที่มองว่าผมไม่ใช่คนร้าย”
“โอ๊ย..ถ้าคนร้ายจะหล่ออย่างพี่ ฉันนี่แหละจะยอมเป็นเมียเลย”
หล่อนส่งสายตามาให้แล้วอมยิ้มเล็กๆ ขณะที่บุญส่งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าเธอคนนี้รู้ว่าเขาเพิ่งออกจากคุก จะยังพูดเล่นอย่างนี้กับเขาไหม?
“ฉันชื่ออ้อย พี่ล่ะชื่ออะไร”
หล่อนชวนเขาคุยในขณะที่พาเขาเดินเข้าไปด้านหลังของคฤหาสน์ เพราะเห็นว่าเขาเป็นญาติกับลุงเมืองที่หล่อนนับถือ และที่สำคัญเขาหน้าตาดี ชนิดที่เรียกว่าเป็นนายแบบได้อย่างสบาย
“ผมชื่อบุญส่งครับ”
“แหม..ชื่อดี บุญส่งมาเจอ..ฉันสินะ”
หญิงสาวพูดเองแล้วก็เขินเองจนอายหน้าแดงก่ำ แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบ ลุงเมืองที่นั่งกินข้าวพร้อมเพื่อนคนรับใช้อยู่ก็ตะโกนทักขึ้นมาอย่างดีใจ
“เฮ๊ย ไอ้ส่ง เอ็งออกจากคุกแล้วรึ มาๆ มากินข้าว ประเดี๋ยวข้าจะพาไปฝากงานกับคุณท่าน”
“คะ?...ว่าอะไรนะลุงเมือง ใครออกจากคุก”
“ก็หลานข้าสิวะ ไปติดคุกอยู่ตั้ง ๓ ปี ซวยแท้ๆ”
บุญส่งวางกระเป๋าเป้ใบเล็กของเขาไว้ที่พื้นแล้วยกมือไหว้ลุงเมืองกับคนรับใช้ที่อายุมากกว่า ท่ามกลางสายตาของอ้อยใจที่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“อ้าว..อีอ้อย เอาของไปเก็บสิวะ มายืนถลึงตาอยู่ทำไม”
ป้าสมตะโกนเรียกลูกสาวแล้วมองชายหนุ่มที่ยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่มุมห้อง
“มานั่งก่อนพ่อหนุ่ม เออ..หน่วยก้านดี รูปก็หล่อ มิน่าอี
อ้อยถึงติดใจ”
“ติดใจอะไรกันล่ะแม่ ฉันเห็นพี่เขายืนชะเง้อหน้าบ้านก็เลยถามว่ามาหาใครเท่านั้นแหละ”
“เออๆ ขอบใจโว๊ยนังอ้อย หลานข้าเพิ่งมาจากบ้านนอก ชื่อบุญส่ง ขยันขันแข็ง ข้ารับรองว่ามันเป็นคนดี”
“เป็นคนดีทำไมติดคุกละจ๊ะ แล้วโดนข้อหาอะไร”
อ้อยใจถามเสียงหวาดๆ ชำเลืองมองชายหนุ่มด้วยความเกรงใจและหวั่นกลัวอยู่ลึกๆ
“พยายามฆ่าครับ”
ชายหนุ่มหันไปตอบแล้วยิ้มให้ ทว่า..หญิงสาวกลับสะดุ้งโหยง หลบอยู่หลังป้าสมทันที
“เอ็งจะกลัวเขาทำไม พยายามฆ่า แต่ยังไม่ได้ฆ่าโว๊ย”
ป้าสมเอ็ดลูกสาวเบาๆ แล้วหัวเราะร่วน เพราะก่อนหน้านี้ นางรู้แล้วว่าบุญส่งหลานชายของลุงเมือง ถูกกลั่นแกล้งจนต้องติดคุก หางานทำไม่ได้ และนางเป็นคนแนะนำเองว่าให้มา
ทำงานเป็นคนสวนของที่นี่
คุณวิฑูรนายใหญ่ของบ้านนี้เป็นคนใจดี และให้โอกาสคนเสมอ นางสมจึงเชื่อว่าหลานชายของลุงเมืองต้องได้งานทำแน่นอน อีกอย่างหนึ่งคนสวนของที่นี่ก็ลาออกไปแต่งงานเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ไม่มีคนดูแลสวนภายในบ้านเลย
“ไอ้ส่ง เดี๋ยวเอ็งกินข้าวกินปลา เสร็จแล้วไปอาบน้ำ ข้าจะพาเอ็งไปหาคุณท่าน”
ลุงเมืองขยับที่ให้หลานชายนั่ง แล้วตบไหล่เบาๆ เพื่อให้หลานชายคลายใจว่าเขาต้องได้งานทำที่นี่แน่ๆ
