ep3
“นั่นมันเรื่องของฉัน และฉันคิดว่า...ฉันไม่ต้องบอกให้คุณรู้ก็ได้นี่”
“อืม...ก็ใช่ แต่คุณจะไม่ถามผมสักหน่อยหรือว่าเงินเจ็ดหลักที่ระบุในเช็ค มันเป็นเงินค่าอะไร”
“นั่นเป็นเรื่องของคุณกับคุณพ่อ ฉันไม่เกี่ยว ฉันมีหน้าที่แค่มาเจรจากับคุณ เพื่อให้คุณเลื่อนเวลาขึ้นมาเท่านั้น”
เคิร์กหัวเราะเบาๆ หญิงสาวคนนี้ ถ้าปล่อยให้ไปเจรจาธุรกิจที่ไหนก็คงพัง เพราะไม่มีลูกล่อลูกชนอะไรเลย เอาแต่ใจเหมือนกับ
ลูกสาวเศรษฐีที่ถูกตามใจจนเคยตัว
“ผมว่าคุณน่าจะรู้นะ เพราะมันเกี่ยวข้องกับคุณ”
“เกี่ยวข้องกับฉัน งั้นเหรอ?”
วิริญญาแสดงความแปลกใจ เธอไม่อยากรับรู้เรื่องธุรกิจของพ่อเธอสักเท่าไหร่ ธุรกิจส่งออกของคุณพ่อ ก็ต้องเกี่ยวข้องกับพืชไร่ของเขาอยู่แล้ว แต่มันจะเกี่ยวข้องอะไรกับเธอล่ะ ในเมื่อเธอไม่ได้ทำงานร่วมกับพ่อของเธอเลย เธอแค่มาเก็บหนี้
“แน่นอนที่สุด”
เคิร์กลุกขึ้นเดินมาหาหญิงสาวช้าๆ ใบหน้าเขาเปื้อนยิ้ม ขณะที่วิริญญารับรู้ถึงความไม่ปกติ
“มัน....มันเกี่ยวข้องกับฉันยังไง”
เคิร์กคว้าร่างบางให้ลุกขึ้นยืนคู่กับเขา สบตาของเธอแน่วนิ่ง ทำให้หญิงสาวหวาดกลัวขึ้นในใจ
“ปล่อยฉันนะ”
“ไม่อยากรู้หรือ? ว่าเช็คนี่มันเกี่ยวข้องกับคุณยังไง”
“ฉันอยากรู้ แต่ปล่อยฉันก่อน”
วิริญญาพยายามสะบัดตัวหนีออกห่างจากตัวเขา แต่กลับกลายเป็นว่าร่างทั้งร่างของเธอถูกดึงเข้าหาเขาอย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม และกว่าจะรู้ตัวใบหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดก็ประทับลงมาเกลือกกลั้วกับใบหน้าของเธออย่างกะทันหัน
“คนบ้า...ปล่อยฉันนะ”
เธอดิ้นรนจิกข่วน เพื่อให้หลุดพ้นจากเขาทุกวิถีทาง แต่ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะยิ่งดิ้น อ้อมแขนของเขาก็ยิ่งรัดรึงมากขึ้น แถมใบหน้าที่มีขนขึ้นรุงรังก็ซุกไซ้ไปตามใบหน้าของเธอจนใบหน้าของเธอแดงเถือกไปหมด เพราะการบดขยี้
“คุณ.....”
เสียงของเธอถูกกลืนหายไป เพราะริมฝีปากของเขาประทับปิดลงมาบนริมฝีปากอวบอิ่มของเธออย่างเหมาะเหม็ง เรียวลิ้นอุ่นชื้นสอดเข้าไปในอุ้งปากแล้วดูดดุนอยู่กับลิ้นของเธออย่างเรียกร้อง
“อืมมมม”
เสียงประท้วงครางเบาๆ ในลำคอ ร่างที่ขยับดิ้นรนค่อยๆ ผ่อนลงจนกลายเป็นนิ่งสนิทลงในที่สุด
เพี๊ยะ!
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น ใบหน้าที่มีหนวดเคราเฟิ้มสะบัดไปตามแรงเหวี่ยงของฝ่ามือน้อยๆ ที่ยืนหอบตัวโยนอยู่ใกล้ๆ
ร่างของเขาค่อยๆ หันกลับมาช้าๆ แล้วคว้าร่างบางเข้ามาอีกครั้งก่อนที่จะบดขยี้จูบอีกที และครั้งนี้..สิ่งที่หญิงสาวต่อสู้ไม่ใช่การหยิกข่วน ทว่า....เป็นน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างเงียบๆ เคิร์กปล่อยร่างบางเป็นอิสระ เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงหยาดน้ำตาที่เปียกชื้น วิริญญาทรุดร่างลงเก้าอี้หวายอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง คนป่าเถื่อนแบบนั้น...เธอจะไปสู้อะไรเขาได้
“คุณทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง”
เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ตัดพ้อและน้อยใจ
“คุณไม่ชอบเหรอ?”
เปรี้ยง! เสียงแจกันกระทบพื้นในทันทีที่เขาถาม ดีที่ว่าชายหนุ่มหลบได้ทันทำให้เขาไม่ได้รับอันตราย
“ขี้หงุดหงิดจริงคุณ”
“ฮือๆๆๆ พ่อไม่น่าส่งฉันมาหาคนป่าเถื่อนอย่างคุณเลย”
“ไม่เอาน่า...อย่าร้องไห้เลย”
พอหมดหนทางเข้าจริงๆ วิริญญาก็นั่งร้องไห้ โดยที่ไม่รู้จะทำอะไรได้ดีกว่านั้น ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนมอง ก่อนจะปลอบไปแบบแกนๆ ก็ในเมื่อเขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำไม่ได้ผิด
“คุณรังแกฉัน”
“รังแกอะไรกันเล่า ผมก็แค่....”
“นั่นแหละ ฉันไม่ได้เต็มใจสักหน่อย”
“อืม...งั้นเหรอ แต่ผมว่าคุณก็ออกจะชอบอยู่นะ”
“บ้านะสิ...” หญิงสาวสะบัดหน้าพรืด “คุณบังคับฉันต่างหาก”
“โธ่! คุณ...ของแบบนี้ บังคับกันได้ที่ไหน ผมก็แค่เสนอแล้วรอให้คุณสนองเท่านั้น แล้วคุณก็สนองได้ดีเสียด้วย...”
“ไม่จริง!”
“งั้นลองพิสูจน์อีกครั้งไหม”
ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้นขยับเข้ามาใกล้ แต่วิริญญาขยับหนีโดยอัตโนมัติ
“เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ที่สุด”
“กล่าวหานะครับ จูบน่ะ จะหวานชื่นมันก็ต้องร่วมมือกันทั้งสองฝ่ายแหละครับ”
