
บทย่อ
“คุณจะทำอะไร”“พิสูจน์” ปราการประกบปากจูบหญิงสาวทันทีพูดจบ เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอบิดเบี่ยงหนี มือรั้งเอวและลำตัว แรงบดขยี้หนักแน่นราวกับเขากำลังโหยหาในรสหวานของเธอ เรียวปากบางเผยอยื่นรับทั้งที่ใจอยากจะผลักให้เขาออกห่าง“อืม...คุณปราการ” เสียงแผ่วเบาเรียกชื่อเขาเหมือนจะห้ามแต่เธอไม่ต่อสู้ขัดขืน ปราการเอนร่างบางลงกับโซฟาที่เขาเคยนั่ง
บทที่ 1.1 อาซาเลียแสนงาม
เมื่อก้าวพ้นรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว ร่างสูงเพรียวบางถือโอกาสเดินชมนกชมไม้ตามที่ใจเธอชอบ ธรรมชาติของประเทศเกาหลีน่าหลงใหลไม่แพ้ประเทศไทยเลยซักนิดเดียว หญิงสาวอดคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้อยากจะกลับไปหาบิดามารดาเต็มแก่ แต่ด้วยเพื่อนร่วมสถาบันก็ขอร้องให้อยู่ต่ออีกนิด เพื่อพักผ่อนและสังสรรค์ฉลองการเรียนจบปริญญาโทที่กว่าจะได้มาแสนยากลำบาก
กุลนรี จิระโชติ หญิงสาววัย 25 ปี เดินทางมาศึกษาต่อด้านการท่องเที่ยว เพราะเธอเป็นคนที่ชอบไปไหนมาไหนอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ หญิงสาวมักถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศความสวยงามเอาไปฝากเพื่อนๆ และพี่สาว ครั้งนี้ก็เช่นเคย ดอกไม้กำลังเบ่งบานสวยงามทำให้เธออดใจไม่ไหวที่จะตามเก็บภาพสีสันที่งดงามพร้อมหมู่ภมรที่บินรายล้อมดอมดมดอกไม้เหล่านั้น
อาซาเลียสีหวานชมพูม่วงเบ่งบานเต็มต้น ชวนให้แมลงบินโฉบเฉี่ยวเหลียวมอง กลีบล่วงหล่นลู่สายลมกวัดเกลียวสวยงาม เท้าเล็กหยุดเดินชื่นชมดอกไม้ที่ผลิดอกสะพรั่ง ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองบรรยากาศและธรรมชาติรอบตัวทุกอย่างที่เห็นน่าหลงใหลยิ่งนัก หญิงสาวก้มตัวลงเก็บดอกอาซาเลียที่ล่วงขึ้นมาเชยชม ถึงจะเหี่ยวเฉาแต่มันยังคงความสวยงามและอ่อนโอน
“สวยจังเลย” เธอมองดอกไม้พรางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วกวาดสวยตาไปจนทั่วบริเวณ
“อุ๊ย มีสีขาวด้วยเหรอ” หญิงสาวเดินเร็วๆ ไปยังต้นไม้ต้นถัดไป ชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปกดลงสองครั้งติดเพื่อบันทึกความตระการตาเอาไว้ มือเรียวค่อยๆ เอื้อมแตะดอกไม้ที่สวยงาม
“อย่าเด็ดนะ” เสียงทุ้มร้องห้าม คนตัวเล็กสะดุ้งก่อนจะหันไปมองใบหน้านั้น ความคมเข้ม หล่อเหลาสะดุดตา ดวงตากลมจ้องมองเขาอย่างลืมตัว
“อะ แฮ่ม” เสียงกระแอมเตือนสติให้หญิงสาวรีบเบนหน้าไปทางอื่น
“ปล่อยให้มันอยู่บนต้นไม้ดีแล้วครับ ถ้าเด็ดลงมามีแต่จะเหี่ยวแห้ง” คนถูกเตือนมุ่ยหน้าเล็กน้อย ภาษาที่เขาใช้ฟังยังไงก็เพี้ยนไม่เข้าหู สำเนียงไม่เหมือนคนเกาหลีเอาเสียเลย
“ถ้าให้มันอยู่บนต้นไม้แมลงก็จะอาศัยดูดน้ำหวานได้ แถมคนอื่นก็สามารถชื่นชมความงามของมันพร้อมกับคุณด้วย” เจตนาของชายหนุ่มนิรนามทำให้หญิงสาวคลี่รอยยิ้มบางๆ ให้เขา
“ฉันไม่ได้อยากจะเด็ดมันนะคะ แค่จะสัมผัสความนุ่มนวลต่างหาก”
“ถ้าอย่างนั้นผมต้องขอโทษด้วยครับที่เข้าใจคุณผิด” ยิ่งฟังเขาพูดเธอก็รู้ว่าเขาคงไม่ใช่ชาวเกาหลีอย่างแน่นอน แต่หญิงสาวก็ไม่กล้าเอ่ยถามเพราะเกรงว่าเขาจะไม่ใช่คนดี ชายหนุ่มเดินเข้ามายืนข้างหญิงสาว ความสูงของเขาเกือบจะเทียบเท่าต้นไม้หลายต้นในสวนสาธารณะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าคุณก็รักษาความงามของธรรมชาติ”
“ครับผมชอบธรรมชาติ”
“ดีใจกับดอกพวกนี้ด้วยค่ะ...ฉันขอตัวก่อน” หญิงสาวเดินผ่านหน้าเขาไป โดยที่แอบหันมองใบหน้าคมนั้นอีกครั้ง ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ รอยยิ้มของเธอก็หุบไม่ได้ ยิ่งเขายิ้มตอบกลับมาหัวใจก็เต้นแรงเสียงดังจนตัวเองคิดว่าเขาคงจะได้ยินเสียงมันด้วย
กุลนรีถือโอกาสก่อนกลับเมืองไทยเที่ยวพักผ่อน ท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ เพราะตอนที่เรียนเวลาทั้งหมดเธอทุ่มเทให้กับการเรียน สถานที่ที่เธออยากจะไปล้วนแล้วแต่มีธรรมชาติรายล้อม กุลนรี ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติมากกว่าการปรุงแต่งขึ้นมาใหม่ หญิงสาวเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยเปื่อย เมียงมองคู่รักเมืองกิมจิที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเหมือนกันออกมายืนถ่ายรูปโพสท่าน่ารัก จนเธอเผลอหัวเราะเบาๆ หญิงสาวแอบนึกอิจฉาหนุ่มสาวพวกนี้ตั้งแต่เลิกรากับแฟนเก่าเมื่อสามปีที่แล้ว เธอก็ไม่เคยคบใครอีกเลย เพราะคิดว่าความรักคงไม่เหมาะกับผู้หญิงที่รักอิสระอย่างเธอแน่ๆ
“น่ารักดีนะครับ” กุลนรีต้องสะดุ้งเป็นครั้งที่สองในระยะเวลาไม่ห่างกันมากนัก เสียงคุ้นหูทำให้เธอต้องหันไปมองดู
“คุณ” ชายหนุ่มคนเดิมที่เจอในสวนสาธารณะ นี่เขาแอบเดินตามเธอมาหรือเปล่าหญิงสาวแอบตั้งคำถามในใจ
“อะไรคะ” ประโยคที่เขาเอ่ยทักไม่มีกรรมมารองรับ หญิงสาวจึงถามด้วยความสงสัย
“ก็คู่รักพวกนี้ไง...ใส่เสื้อเหมือนกัน แสดงความรักให้อีกฝ่ายหนึ่งรับรู้ ผมว่าน่ารักดี”
“อ่อค่ะ” กุลนรีตอบแบบเก้อๆ เธอเกือบจะคิดว่าเขาชมเธอเสียอีก กุลนรีแอบชำเลืองมองชายหนุ่มเมื่อเขาแสร้งหันเหไปสนใจอย่างอื่นนอกจากใบหน้าของเธอ ไรเคราที่คางแหลมยิ่งทำให้เขาดูดีมีเสน่ห์ หญิงสาวเริ่มรู้สึกว่าเธอมีปฏิกิริยาบางอย่างภายในร่างกายหัวใจเต้นครึกโครม ใบหน้าร้อนวูบวาบราวกับคนมีไข้สูง
“ไปเดินเล่นกันมั้ยครับ” ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มโตขึ้นทันที เธอมองคนถามอย่างประเมินเขา เรียวปากสีหวานอ้าเล็กน้อยเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง
“ว่ายังไงครับ...ไปเดินเล่นกับผมมั้ย” ถึงภาษาเกาหลีของเขาจะเพี้ยนๆ แต่เขาก็พูดย้ำจนเธอมั่นใจว่าเขาชวนเธอจริงๆ
“ก็ได้ค่ะ” ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนที่ก้าวเดินนำไปเพียงก้าว แล้วขายาวของอีกคนก็ก้าวตามมาติดๆ กุลนรีเดินก้มหน้ามองปลายตัวเองและปลายเท้าชายหนุ่ม จนเกือบจะกลายเป็นนับทุกย่างก้าวของเขา
“ไม่ชอบที่นี่เหรอครับ”
“อยากรู้ไปทำไมคะ...ที่นี่ก็สวยดี”
“เห็นคุณเอาแต่มองพื้นคิดว่าไม่ชอบซะอีก” แก้มเนียนแดงระเรื่อ ที่เธอก้มมองแต่พื้นเพราะไม่กล้ามองหน้าเขาต่างหาก ยิ่งเห็นรอยยิ้มของเขาแล้ว หัวใจมันก็เต้นไม่เป็นจังหวะเอาเสียเลย
“หรือว่าคุณจะเป็นลม...ให้ผมช่วยนะครับ” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ด้วยความห่วงใย หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องอีกครั้ง เมื่อใบหน้าคมยื่นเขามาใกล้ๆ ปลายจมูกที่โด่งเป็นสันเชิดสง่า ปากเรียวคล้ายสตรีแดงระเรื่อ กุลนรีเชื่อว่าผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่สิงห์อมควันเหมือนหนุ่มหลายคน เพราะสีสันที่ปากเขายังสวยสด เวลาที่เขายิ้มชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติเสน่ห์ในตัวเขายิ่งมากขึ้นจนคนแอบมองอดที่จะอมยิ้มตามไม่ได้
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ...ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ”
