บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 หนูไม่ชอบหน้าคุณ

ติ๊งต่องๆ

เสียงกริ่งหน้าบ้าน ทำให้มนทิชาละสายตาจากหนังสือ ก่อนจะวิ่งลงบันไดไปถอดกลอนประตูอย่างรีบเร่ง ทันทีที่บานประตูเปิดออก ร่างงามระหงในชุดทำงานรัดรูปก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับร่างสูงสง่าของใครอีกคนซึ่งเธอไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

“พี่กลับมาแล้ว...ขอกาแฟร้อนๆ สองแก้วสิจ๊ะทิชา”

หญิงสาววิ่งปรื๋อเข้าไปในครัวเมื่อได้ยินคำขอร้องเสียงหวานของพี่สาว ผู้ชายรูปหล่อมาดเข้มที่มาด้วยคงเป็นแฟนใหม่ของพี่กัณหา พี่สาวคนสวยของเธอ ซึ่งทำงานอยู่บริษัทนำเข้ากระเป๋าแบรนด์ดังจากต่างประเทศ มีตำแหน่งเป็นเลขานุการผู้จัดการใหญ่ ส่วนตำแหน่งในบ้าน กัณหาเป็นพี่สาวแสนดี เป็นทั้งแม่ พี่และเพื่อนของเธอ เพราะมีกันอยู่สองคนพี่น้องเท่านั้น

เธอยกถาดกาแฟออกมา ขาเกือบจะพันกันเมื่อสะดุดกับสายตาคมเข้มของชายหนุ่มในชุดสูทภูมิฐาน ผมดกดำหวีจนเรียบแปล้บ่งบอกถึงความเจ้าระเบียบ จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาออกสีน้ำตาลดูเย็นชา จมูกโด่งคมเหมือนฝรั่ง อ้อ...หน้าตาก็ออกไปทางลูกครึ่งยุโรปเสียด้วย

ไม่รู้ทำไมเธอจึงนึกถึงอัศวินชาวกรีกหรือโรมันที่เคยดูในหนังฝรั่งย้อนยุค ทั้งๆ ที่เขาเองก็ไม่ได้เป็น “ฝรั่งจ๋า” ขนาดนั้น อาจเพราะท่าทีเคร่งขรึมและดวงตาที่กำลังจ้องเธออย่างเอาเป็นเอาตายจึงไม่ค่อยถูกชะตาเอาเสียเลย

“ทิชาจ๊ะ นี่คุณจุลพัธน์เจ้านายพี่ บอสคะ นี่มนทิชา น้องสาวแท้ๆ ของกัณเองค่ะ”

มนทิชาวางถาดกาแฟลงแล้วยกมือไหว้อย่างรวดเร็ว นึกในใจว่าเจ้านายของพี่ชื่อเพราะสมตัวเสียจริง แถมยังดูเป็นผู้ดี๊ผู้ดี ซึ่งก็เหมาะสมกันดีกับพี่ของเธอ ถ้าถึงขั้นที่พี่พาผู้ชายมาบ้านแล้วล่ะก็ คงไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องเป็นแน่

จุลพัธน์รับไหว้เด็กสาวแทบไม่ทัน กระนั้นก็ยังเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนตัวเล็ก ซอยผมสั้นทันสมัย สวมเสื้อกล้ามตัวโคร่งกับกางเกงห้าส่วน ซึ่งไม่ค่อยเห็นเด็กวัยรุ่นสมัยนี้สวมใส่กันเท่าไรนัก กัณหาเคยเกริ่นๆ ว่าน้องสาวของเธอเพิ่งจบมัธยมปลายและกำลังจะเลือกมหาวิทยาลัย ซึ่งก็ทำให้เขาวาดภาพเด็กสาวอายุสิบแปดไว้ใกล้เคียงกับเลขาของเขา แต่เมื่อได้เจอตัวเป็นๆ เธอกลับห่างไกลจากจินตนาการของเขาลิบลับ

“คุณจุลพัธน์มาเคลียร์งานก่อนบินไปต่างประเทศคืนนี้ ทิชาจัดอาหารเย็นสามที่เลยนะจ๊ะ อยู่ทานข้าวด้วยกันนะคะบอส” กัณหาบอกกับน้องสาวแล้วหันไปยิ้มให้กับเจ้านาย

“ยินดีครับ” เขาตอบรับในน้ำใจ เห็นมนทิชาพยักหน้าหงึกหงัก แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ชายหนุ่มจึงมองตามด้วยความสงสัย

“แกเป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะค่ะ อ้อ! บอสเซ็นฉบับนี้ด้วยนะคะ” กัณหายื่นเอกสารให้เจ้านายแบบไม่ให้เสียเวลา

จุลพัธน์ก้มลงเซ็นเอกสารหลังเสียสมาธิไปแวบหนึ่ง เขาเพิ่งมารับตำแหน่งผู้จัดการเมื่อสามเดือนที่แล้ว แทนบิดาที่เกษียณตัวเองออกมาพักผ่อน เขาไม่ได้วางตัวสนิทสนมกับผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดเป็นพิเศษ แต่ก็พอจะรู้ว่ามีคนมาติดพันกัณหาหลายคน ซึ่งหล่อนก็ยิ้มรับไมตรีอัธยาศัยดีกับทุกคนเท่าเทียมกัน ทั้งยังทำงานเก่งหาตัวจับยาก เป็นเลขาที่ทรงประสิทธิภาพ มีทั้งความเฉียบขาดและความอ่อนหวานงดงามอยู่ในตัวเอง เพิ่งจะได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนถึงบ้านก็วันนี้

หลังจากง่วนอยู่กับเอกสารที่ต้องเคลียร์ก่อนไปดูงานที่ต่างประเทศเกือบสามสิบนาที เขาก็เห็นเด็กสาวยกสำรับหอมฉุยออกมาตั้งโต๊ะ จัดแจงตักข้าวใส่จานและนั่งรอตาแป๋วอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“ทานข้าวเย็นก่อนนะคะบอส ขึ้นเครื่องจะได้ไม่หิว ทิชาทำกับข้าวอร่อยนะคะ”

“ครับ” คำพูดของกัณหาทำให้เขาประหลาดใจอีกครั้ง เจ้าเด็กที่เหมือนทอมบอยนั่นหรือเป็นคนทำอาหารทั้งหมดนี่ นอกจากกลิ่นจะหอมชวนน้ำลายสอแล้ว สีสันหน้าตาก็ยังกระตุ้นต่อมหิวได้ดีอีกด้วย

“เป็นไงคะ?” กัณหาถามราวกับเป็นคนทำซะเอง หลังเจ้านายตักอาหารใส่ปากคำแรก

“อร่อยมากครับ ทิชา” เขาชมเด็กสาวจากใจจริง ทั้งยังทึ่งในฝีมือแม่ครัวตัวน้อยที่รูปร่างหน้าตาไม่ได้เข้ากับรสชาติอาหารแม้แต่นิดเดียว เธอมองเขาแวบหนึ่งก่อนจะตั้งอกตั้งใจกิน ไม่พูดอะไรสักคำ ทำเอาเขาเก้อไป

หลังอาหารค่ำผ่านไปแบบไร้ตัวตนของแม่ครัวตัวจ้อย จุลพัธน์นั่งทำงานต่อที่ห้องรับแขก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องทำงานนอกเวลางานกับกัณหา เพราะอยู่ในช่วงเรียนรู้งานต่อจากบิดา แต่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยี่ยมเยียนบ้านของผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะเอกสารสำคัญอยู่ที่นี่และบ้านของเธอก็ใกล้สนามบิน ขับรถไปไม่ถึงสามสิบนาทีเท่านั้น

ยังเหลือเวลาอีกกว่าสามชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่อง เขาเดินยืดเส้นยืดสายออกมาข้างนอก มองแปลงดอกกุหลาบที่กำลังออกดอกรับลมหนาวด้วยอารมณ์ผ่อนคลายและเบิกบาน คงเพราะอาหารอร่อยและบรรยากาศดีๆ และงานที่ต้องสะสางก็เสร็จทันเวลา พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคนกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่ในสวน

“เธอนั่นเอง” เขารำพึงเบาๆ เดินเข้าไปหาเด็กสาวที่นั่งพรวนดินอยู่อีกฝั่งหนึ่งอย่างตั้งใจ นึกชมว่าเด็กคนนี้ช่างเป็นแม่บ้านแม่เรือน นอกจากจะชงกาแฟอร่อย ทำกับข้าวเก่ง ยังรู้จักทำการเกษตรเล็กๆ น้อยๆ ช่วยให้บ้านเล็กๆ หลังนี้มีสีสันขึ้นมา

“เธอนี่มีฝีมือหลายอย่างนะ ทำกับข้าวก็อร่อย ปลูกดอกไม้ก็งาม” ชายหนุ่มเอ่ยชมเป็นการผูกมิตร เพราะตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ เธอยังไม่ได้พูดอะไรกับเขาสักคำ

เขาค่อนข้างตกใจเมื่อเธอยิ้มบางๆ รอยยิ้มนั้นทำเอาหัวใจกระตุก เพราะก่อนนี้ใบหน้าสวยค่อนข้างบึ้งตึงจนเขานึกว่าเธอไปกินรังแตนที่ไหนมา จู่ๆ ก็ส่งยิ้มหวานมาให้แบบไม่ทันตั้งตัว

“โล่งอก...นึกว่าเธอไม่ชอบหน้าฉันซะอีก”เขาส่งยิ้มอบอุ่นกลับไปเมื่อเธอเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับส่งยิ้มหวานจ๋อยก่อนจะพูดกับเขาด้วยประโยคที่ทำให้เขาหุบยิ้มแทบไม่ทัน

“ฉัน...ไม่ชอบคุณ! อย่านึกว่าจะได้เป็นพี่เขย ไม่งั้นเจอดีแน่!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel