บท
ตั้งค่า

บทนำ... ความเจ็บปวดที่เกาะกินใจ

เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของมารดา ทำให้เด็กหญิงร่างผอมบางทั้งสองกอดกันแน่นอย่างหวาดกลัว ทั้งอยากออกไปห้ามปรามไม่ให้เขาทำร้ายมารดาก็กลัวว่าจะยิ่งเพิ่มโทสะให้ผู้ชายซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิดที่กำลังติดการพนันงอมแงมและติดพันผู้หญิงในวงพนันด้วย กัน ทุกๆ ครั้งที่ เขา กลับมาก็จะลงมือทำร้ายทุบตีด่าทอ ศจีพรรณ ผู้เป็นมารดาของพวกเธอด้วยคำหยาบคายเสมอ และบางครั้งก็ทุบตีพวกเธอเพื่อระบายความกราดเกรี้ยวหากเห็นว่าพวกตนเข้าไปกอดร่างผอมบางขี้โรคของมารดา แม้พวกจะอ้อนวอนไม่ให้ผู้เป็นพ่อทำร้ายพวกตนแต่ทุกๆ ครั้งพวกเธอก็จะถูกทุบตีจนเนื้อบางๆ เขียวเป็นจ้ำๆ จนศจีพรรณทนเห็นลูกๆ ถูกทำร้ายไม่ได้จึงสั่งห้ามไม่ให้ทั้งสองพี่น้องฝาแฝดออกมาจากห้องยามที่บิดาเมากลับมาหรือกำลังด่าทอทุบตีตน

“นี่พี่รันยังไม่ไล่นังเมียขี้โรคพี่ออกไปจากบ้านอีกเหรอคะ จะให้หลินมาเป็นเมียน้อยอยู่ร่วมบ้านกับนังแก่นี่ หลินไม่ยอมนะคะ เพื่อนๆ หลินรู้อายเขาแย่เลย แล้วน้องแคทลูกสาวหลินอีกเขาจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเข้ามาอยู่ในบ้านนี้แล้วรู้ว่าแม่ของแกเป็นเมียน้อย” เสียงแหลมบาดหูของผู้คนหนึ่งดังขึ้นอย่างมีจริต ซึ่งมันทำให้ เด็กหญิงชนกวนันท์ และเด็กหญิงศรัญภัทรา ในวัยย่างสิบขวบผละออกจากกันแล้วค่อยๆ ย่องไปแง้มประตูมองเหตุการณ์ด้านนอก

“โธ่ หลินจ๋า มันดื้อด้าน ดูสิพี่ด่ามันเหมือนหมูเหมือนหมา มันยังไม่ไปเลย หลินช่วยพี่ทีสิจ๊ะ” นายชรันทร์ เข้าไปกอดร่างระหงของหญิงสาวซึ่งนะจะอายุน้อยกว่าตนหลายปี ผู้หญิงที่ชื่อหลินนั้นมีใบหน้างดงามแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางฉูดฉาด ดวงตาเรียวเล็กนั้นมองศจีพรรณอย่างเย้ยหยันพร้อมด้วยคำพูดที่ทำให้เด็กทั้งสองรู้สึกเจ็บปวดแทนมารดา...

“นับตั้งแต่พรุ่งนี้แกต้องออกไปจากบ้านหลังนี้ และพาลูกๆ ของแกไปด้วย เพราะนับจากนี้ฉันคือเมียพี่รันเพียงคนเดียว เข้าใจมั้ย”

“ได้ยินชัดแล้วใช่มั้ยศจี อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำอีกนะ” ชรันทร์เสริมคำพูดของผู้หญิงคนใหม่ ศจีพรรณเงยหน้ามองสามีด้วยความร้าวราน ความรักความดีที่เขาเคยมีบัดนี้มันถูกผีพนันเข้าสิงจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน อีกตัณหาราคะที่ครอบงำทำให้ชรันทร์ไม่ได้คิดใยดีภรรยาคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันกว่าสิบปีเลยสักนิด

“พี่ไม่รักเราแล้วใช่ไหม ไม่รักลูกๆ ของเราแล้วใช่ไหม” ศจีพรรณเอ่ยน้ำเสียงสะอื้น ใบหน้าบวมช้ำเพระถูกตบตีนั้นซีดเซียว พยายามลุกขึ้นจากพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบ หากแต่ความเย็นของกระเบื้องไม่เย็นชาเท่าสายตาของผู้เป็นสามี

“นี่แกโง่จนฟังไม่รู้เรื่องเลยใช่มั้ยนังแก่ พี่รันเขาไล่แกกับลูกแล้วแกอย่ามาออเซาะสำออย ไสหัวไปได้แล้ว ไป๊” หลินตวาดลั่นแล้วปรี่เข้ามาเหมือนจะทำร้ายหญิงสาวซึ่งทรุดนั่งอยู่กับพื้นศจีพรรณก้มหน้าลงเหมือนจำยอม

“ฉัน... ฉันขอเวลาสักนิด ลูกๆ ของฉันกำลังเรียนอยู่ หากเธอจะเข้ามาอยู่ที่นี่ขอฉันหาที่หาทางอยู่ใหม่ก่อนได้ไหม” ศจีพรรณกล่าวเสียงแผ่วขอร้อง ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นเจ้าของบ้าน ทุกอย่างในบ้านหลังงามนี้ก็ล้วนแต่เป็นของเธอที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง

“ก็ได้ แต่ฉันให้เวลาแกแค่สามวันนะ หากพ้นสามวันนี้ไปพวกแกสามคนแม่ลูกยังเสนอหน้าอยู่ที่นี่อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” พูดจบหญิงสาวก็ควงแขนผู้เป็นสามีของเธอเข้าไปในห้องนอนใหญ่ซึ่งครั้งหนึ่งมันคือห้องหอที่หวานชื่นเต็มไปด้วยความสุขสม

“คุณแม่ขา...” เด็กหญิงทั้งสองวิ่งเข้ามากอดร่างบอบบางของมารดาที่ทรุดนั่งร้องไห้กับพื้นอีกครั้ง สามคนแม่ลูกกอดกันร่ำไห้อยู่ตรงนั้นไม่นานเสียงตวาดด้วยความรำคาญของผู้เป็นบิดาก็ดังออกมาตามด้วยคำพูดหยาบคาย ที่ศจีพรรณไม่อยากให้ลูกๆ ได้ยินจึงพาลูกน้อยทั้งสองเข้าห้องนอนเล็กแสนคับแคบไปด้วยความหวาดกลัวว่าพวกตนจะถูกทำร้าย...

“คุณแม่ขา เราจะไม่ได้อยู่ที่บ้านของเราแล้วใช่ไหมคะ”

“แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกันคะคุณแม่” ลูกสาวฝาแฝดของเธอเอ่ยถามทั้งน้ำตา เด็กทั้งสองเป็นเด็กฉลาดและรู้เกินวัยแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอหนักใจเพราะลูกๆ ของเธอเป็นเด็กดีขยันและตั้งใจเรียน

“ใช่จ้ะลูก ไว้คุณแม่หาบ้านใหม่ได้เราค่อยย้ายกันนะลูก”

“แต่บ้านนี้เป็นของเรา ทำไมคุณแม่ต้องยอมผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นด้วยล่ะคะ น้องพราว เกลียดยายผู้หญิงหน้าวอกคนนั้น” ศรัญภัทราแฝดผู้น้องซึ่งค่อนข้างเป็นเด็กที่มั่นใจในตนเองโผงผางและไม่ยอมคนพูดขึ้นทั้งน้ำตา ดวงตาเด็กหญิงกร้าวกระด้างจนผู้เป็นมารดานึกหวั่นใจ

“การที่เราถอยไปใช่ว่าเราจะกลัวหรือไม่เสียดายสมบัติที่มี แต่มันดีกว่าที่เราจะต้องมาทนอยู่อย่างทุกข์ทรมานใจ ให้เขาทำร้ายโขลกสับไม่ใช่หรือลูก สมบัติข้าวของนอกกายหากคุณแม่ไม่ตาย คุณแม่ก็หาก็หาให้ลูกใหม่ได้”

“แต่มันเป็นของเรา บ้านของเรา” เด็กหญิงศรัญภัทรายังไม่ยินยอมเห็นด้วย เธอเกลียดผู้หญิงคนนั้นและเกลียด พ่อ ของตน เด็กหญิงมองประตูห้องที่บิดาเดินเข้าไปกับผู้หญิงคนนั้นด้วยความเกลียดชัง

“ศรัญภัทรา ไม่เชื่อฟังคุณแม่แล้วหรือลูก...” เมื่อมารดาเรียกด้วยชื่อเต็มเช่นนี้ศรัญภัทรารู้ดีว่า นั่นคือประกาศิตและคุณแม่ของเธอไม่ต้องการให้ใครขัด...

“คุณแม่ขา น้องแพรกับน้องพราวเห็นด้วย เราไปอยู่ที่อื่นกันนะคะ...” ชนกวนันท์แฝดผู้พี่เอ่ยขึ้นเมือเห็นว่าน้องสาวกำลังจะทำให้มารดาเครียดกว่าเดิม ศจีพรรณพยักหน้าแล้วโอบกออดบุตรสาวทั้งสองแน่น ดวงตาเคยงดงามสดใสบัดนี้แห้งผาก ฉายเพียงแววความร้าวรานตรอมตรมในใจเท่านั้น...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel