บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 เกม

เสียงดนตรี EDM ดังสนั่นทั่วทั้งผับ ท่ามกลางแสงไฟมืดสลัว มีเพียงแสงจากสปอตไลต์หลากสีสัน แดง เหลือง ขาว เขียว น้ำเงิน ส่องสลับไปมาในห้องโถงกว้าง ๆ สาดสะท้อนบนผิวสัมผัสต่าง ๆ บนเรือนร่างของผู้คนหลากหลายวัยและช่วงอายุ ที่อยู่แน่น แออัด เบียดเสียด จนแทบจะไม่มีที่ยืน ที่พากันโยกย้าย ขยับร่างกายให้เข้ากับจังหวะเสียงดนตรี ที่มีดีเจหนุ่มหล่อคอยเปิดอยู่บนเวที และในมือของแต่ละคนก็จะถือแก้วแอลกอฮอล์หลากหลายชนิด หลากหลายดีกรี แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนไว้ปลุกเร้าอารมณ์สร้างความสุนทรีย์

ในมุมหนึ่งของผับ ณ โต๊ะ ๆ หนึ่ง มีหญิงสาวราว ๆ 4-5 คน กำลังยืนเต้นอย่างสนุกสนาน เมามัน เฮฮาเสียงดังตามประสา วันนี้พวกเธอมาปลดปล่อยความเครียดหลังจากสอบไฟนอลเทอมแรกของการเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกที่จบลงอย่างสวยงาม หลังจากที่ต้องดูหนังสือหามรุ่งหามค่ำมาหลายคืน

ยกเว้น ผู้หญิงอยู่คนหนึ่ง หันมองซ้าย มองขวา สำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวเหมือนกำลังเรียนรู้ประสบการณ์แปลกใหม่ที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตในวัย 18 ปี เธอดูตื่นเต้นและไม่คุ้นชิน ยืนนิ่ง ๆ ดูเพื่อนเต้นและดื่มกันอย่างเต็มที่กับชีวิต

"ช่อแก้ว เหล้าในมือไม่ลดลงเลยนะ"

เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มและเป็นตัวแสบของกลุ่มพูดขึ้น เมื่อเห็นเธอยืนถือแก้วเหล้าไว้เฉย ๆ ไม่ยอมกินสักที ทั้งที่เพื่อนคนอื่น ๆ กินหมดไปหลายแก้วแล้ว

"ก็มันขม แสบคอ ไม่อร่อย" หญิงสาวที่ชื่อว่า ช่อแก้ว ดูจะเป็นคนที่ใสซื่อที่สุดในกลุ่มพูด

"กินไปเหอะ เดี๋ยวก็ชิน" เพื่อนตัวแสบคนเดิมคะยั้นคะยอให้ช่อแก้วดื่ม

"เอ้า หมดแก้ว"

เพื่อนทุกคนพูดพร้อมกับชนแก้วและดื่มจนหมด รวมถึงช่อแก้วด้วยที่พยายามฝืนกินจนหมดจนได้

และแก้วเปล่า ๆ ที่ว่างจากน้ำสีเหลืองอมน้ำตาลไม่ถึง 10 วินาทีถูกเติมให้เต็มทันทีโดยเพื่อนคนดีคนเดิม

เพื่อนในกลุ่มพยายามบิ้วอารมณ์ให้ช่อแก้วรู้สึกสนุกและอินไปกับเสียงดนตรี เคลื่อนไหวร่างกายไปตามเสียงเพลงถึงแม้จะดูเก๊ ๆ กัง ๆ อยู่บ้าง

เวลาผ่านไป หลังดื่มไปหลายแก้ว ร่างกายช่อแก้วค่อย ๆ เริ่มร้อนรุ่ม อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้น หัวใจเต้นแรง สติเริ่มเลือนราง ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำงาน

เธอเริ่มออกลวดลายตามเพื่อนคนอื่น ๆ เต้น กิน ดื่ม สนุกกับเพื่อน ค่อย ๆ เรียนรู้จากสิ่งเร้ารอบตัว

"ไหวไหมแก้ว" เพื่อนคนหนึ่งเดินเข้ามาถามช่อแก้วที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนานตามจังหวะเสียงเพลงและการเอนเตอร์เทนจากดีเจบนเวที

"ไหวสิ กำลังสนุกเลย" เพื่อน ๆ ในกลุ่มพบตากัน

พวกเธอกำลังมีแผนการอะไรบางอย่าง...

"งั้นเหรอ ดีเลย พวกเรามีกิจกรรมสนุก ๆ ให้แก้วเล่นด้วยล่ะ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ต้อนรับแก้วเข้าสู่โลกอีกใบยามค่ำคืน"

"หืมมม อะไรอะ" ช่อแก้วถามเพื่อนในกลุ่มด้วยความสงสัย

"ฮึ ๆ ๆ แก้วมองไปรอบ ๆ ตัวสิ แล้วดูว่าเห็นผู้ชายคนไหน แล้วรู้สึกต้องตาต้องใจ จากนั้นลองเดินเข้าไปขอชนแก้วด้วยให้ได้ 1 คน ถือว่าผ่าน"

"เอ๊ะ! ไม่เอาอะ ทำเพื่ออะไร" ช่อแก้วปฏิเสธ

"โถแก้วก็เพื่อความสนุกไง แก้วยังไม่เคยมาผับถูกไหม นี่ไงมาแล้วก็ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ซะเลย มาแล้วต้องไปให้สุดสิ อีกอย่างใคร ๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ มันไม่ใช่เรื่องน่าอาย ถือว่าเป็นการรู้จักเพื่อนใหม่ไม่ดีเหรอ"

เพื่อนในกลุ่มพยายามยุช่อแก้ว อธิบายเหตุผล ชักแม่น้ำทั้ง5 มาพูด เกลี้ยกล่อมเธอจนกว่าจะใจอ่อนและยอมเล่นเกมที่พวกเธอเสนอ

ช่อแก้วเธอเป็นเด็กบ้านนอกเข้ากรุง ไม่เคยมาสัมผัสชีวิตแสงสีเสียงในเมืองกรุงเกือบ ๆ 18 ปี จนกระทั่งเธอสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ

เธอเกิดและโตอยู่ท่ามกลางสวนผลไม้ ไร่นา วัน ๆ หนึ่งเธอก็แค่เรียนในตัวเมืองกลับมาก็เข้าสวน ช่วยพ่อแม่ทำงานตามประสาลูกชาวสวน เธอช่างใสซื่อบริสุทธิ์ เชื่อคนง่ายเลยมักจะถูกเพื่อนล่อลวงและแกล้งอยู่เสมอ เช่น ให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ อย่างการขึ้นรถเมย์ครั้งแรก ขึ้นรถไฟฟ้าครั้งแรก เดินห้างหรู ๆ ครั้งแรก ดูหนังภาพยนตร์ในโรงหนังครั้งแรก กินชาบูครั้งแรก รวมถึงอาหารหลากหลายเชื้อชาติทั้งจีน ญี่ปุ่น อเมริกา

ทุกอย่างล้วนเป็นประสบการณ์ครั้งแรกและใหม่สำหรับเธอ...

"แล้วจะต้องทำยังไง แก้วทำไม่เป็น จู่ ๆ เดินเข้าไปขอชนแก้วง่าย ๆ ได้เลยเหรอ เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนสักหน่อย" ช่อแก้วเริ่มใจอ่อน

"งั้นเอางี้เดี๋ยวปันจะให้เชอร์รี่ทำให้ดู จำให้ดีนะ เพราะจากนั้นจะเป็นคิวก็แก้ว" ปัน เพื่อนสนิทตัวแสบประจำกลุ่มพูด

"อืม" ช่อแก้วพยักหน้าตอบตกลง

เชอร์รี่มองรอบ ๆ หาหนุ่มในผับที่ต้องตาถูกใจ ก่อนเจะดินเข้าไปทักทาย พูดคุยเป็นกันเองจนจบด้วยการชนแก้วอย่างเป็นธรรมชาติอย่างกับมืออาชีพในระยะเวลาอันรวดเร็ว เชอร์รี่ยักคิ้วมองมาที่ช่อแก้ว เชิงบอกให้รู้ว่าต้องทำแบบนี้ แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะอย่างภูมิใจ

"เป็นไง"

‘อะไรมันจะทำได้ง่าย ๆ แบบไม่เขินอายขนาดนี้’ ช่อแก้วคิดในใจ

"หืม สวยเหลือเกิน สวยเลือกได้จริง ๆ" เพื่อนในกลุ่มพูดแซว

เชอร์รี่เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทที่สุดของช่อแก้วและยังเป็นคนที่เสน่ห์แรงที่สุดด้วย มีคนเข้ามาคุย แวะทักทายไม่ขาดสาย

"ทำได้ไหมแก้ว ง่ายนิดเดียว"

"ไม่สักนิด อยู่ ๆ จะให้เดินไปทักทายใครก็ไม่รู้ ราวกับรู้จักสนิทกันมา 10 ปีแบบนั้นก็เกินไป" ช่อแก้วพูด

"ของเชอร์รี่ เขาเรียกว่าระดับชำนาญการแล้ว แก้วไม่ต้องถึงขั้นนั้นก็ได้ แรก ๆ หน้าแตกบ้างเป็นธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วส่วนใหญ่จะไม่นะจ๊ะ เขาก็ชนหมดแหละ อยู่ที่ว่าจะกล้ารึเปล่า" ปันพูดอธิบาย

ช่อแก้วแสดงสีหน้าไม่สบายใจปนกังวลออกมา

"งั้นเอางี้ เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนแก้วเอง โอเคไหม แต่แก้วต้องเป็นคนชนแก้วด้วยตัวเองนะ"

"ตกลง" ช่อแก้วพยักหน้า

“ก่อนไปขอถามอีกข้อ”

“ว่า...”

"แล้วคือยังไงต่อ ถ้าเขาชนแก้วก็คือผ่านงี้เหรอ"

"ใช่"

"แค่นั้น" ช่อแก้วพูดย้ำ เพื่อให้แน่ใจ

"อืม แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ก็ถือว่าผ่าน นอกเสียจากว่าจะไปต่อกับเขา"

"ไปต่อ? ไปไหน " ช่อแก้วถามเพราะความไม่รู้

ช่อแก้วมองหน้าเพื่อน ๆ ที่กำลังอมยิ้มให้กับความไร้เดียงสาของเธอ

"ไปยิ้ม ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เชอร์รี่พูดเน้นเสียงแล้วหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

"ยิ้ม? ยิ้มอะไร เราก็ยิ้มกันทุกคนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จะให้ชนแก้วทำหน้าบึ้งได้ยังไง" ช่อแก้วพูด

"อุ๊บ" เพื่อนในกลุ่มหยุดหัวเราะดัง เธอช่างไม่รู้อะไรซะเลย

“มันตลกตรงไหน ถึงต้องหัวเราะกันขนาดนี้”

"เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบไปถึงขั้นนั้น"

"ก็ถามเผื่อไง"

"ถ้าถึงตอนนั้นก็แล้วแต่แก้วเลย แต่ก่อนไปไหนบอกเพื่อนนิดนึงนะ เพื่อนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"

"ยิ่งพูดยิ่งงง”

“ช่างเรื่องนั้นไปก่อน แล้วเจอใครสะดุดตาบ้างรึยัง" ปันพูด

“โอเค เข้าใจแล้ว..."

‘เธอยังไม่เข้าใจหรอกช่อแก้ว’ ปันพูดในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel