บทที่ 1 ตกลงเราเป็นอะไรกัน?
“คุณเป็นคนบอกผมเองว่าเราไม่ควรเป็นอะไรกัน แล้วทำไมตอนนี้ถึงพูดว่าเลิกกันล่ะ?” คำถามของชายหนุ่มพร้อมกับใบหน้าคมคายที่ซุกไซ้อยู่บริเวณเนินอกอวบอิ่ม
แม้เธอจะปัดป้องแต่ก็ทำได้มากสุดแค่นั้นเพราะสุดท้ายก็กลายเป็นว่าโดนอุ้มมาทิ้งที่เตียงนอนดังเดิม ร่างบอบบางหยัดกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ท่อนขาทั้งสองข้างก็โดนดึงกระชากให้มาอยู่ใต้ร่างเขาอยู่ดี
“อย่าทำแบบนี้ชนา!” เอมม่ากรีดร้องออกมาพร้อมสะอื้นไห้ เมื่อข้อขาข้างหนึ่งถูกพันธนาการด้วยเนกไทเส้นเดิมที่ผูกไว้ที่เสาเตียง
“ใครเป็นคนต้องการความสัมพันธ์เฮงซวยนี่” ริมฝีปากหยักแค่นยิ้มก่อนจะมอบจุมพิตดูดดื่มให้กับเธอ
“ปากบอกอยากจะไป...แต่ร่างกายคุณมันขาดผมได้หรือไงเอมม่า” แววตาเย้ยหยันสบตามองเธอก่อนจะขบริมฝีปากกัดลงที่หัวไหล่กลมกลึงอย่างแรง เอมม่าพยายามกลั้นสะอื้นแต่น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลรินลงมาไม่มีหยุด
“ใครที่มันเป็นคนเดินเข้ามาทั้งที่ผมไม่ได้อยากจะอะไรกับคุณแล้ว” เอมม่าหันหน้าหนีโดนจับล็อกใบหน้าให้กลับมาสบตากันอีกครั้ง
“คุณเป็นคนต้องการความสัมพันธ์เฮงซวยนี่เองแล้วจะร้องไห้เพื่ออะไร?” ร่างหนาที่เข้าปกคลุมทาบทับเธอไว้เพียงไม่ว่าทางไหนหญิงสาวไม่สามารถหลีกหนีได้พ้นเลย
“ลองย้อนกลับไปคิดดูว่าใครมันเป็นคนต้องการ ผมหรือว่าคุณ!” ชนาใช่มือข้างหนึ่งบีบใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามือเขาสุดแรงก่อนจะแสยะยิ้มร้ายใส่
“คุณมันผู้ชายเฮงซวย!” แววตาตัดพ้อมองมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลริน ชนาหัวเราะและพยักหน้ายอมรับ
“แล้วต้องดีแค่ไหนถึงจะถึงใจคุณเอมม่า” เพียงแค่พริบตาเดียวความอุ่นร้อนของเขาก็สอดใส่เข้ามาในร่างกายโดยไม่ทันได้ตัว
“อ๊ะ! ฉันเกลียดคุณ! ได้ยินไหมว่าเกลียด! ไอ้สารเลว!!”
ชนาระเบิดหัวเราะก่อนจะดึงทึ้งชุดคลุมอาบน้ำออกจากเรือนร่างเย้ายวนตรงหน้า ทั้งที่ความเป็นเขายังคงสอดใส่เข้าออกในร่างกายเธออย่างบ้าคลั่ง
ริมฝีปากหยักกดจูบตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา ไล้ลงมายังปลายจมูกก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กลีบปากบาง ลมหายใจอุ่นร้อนที่ปะปนกับกลิ่นบุหรี่และกลิ่นน้ำหอม เรียวลิ้นอุ่นชื้นสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างอุกอาจ
มือหนายกท่อนขาเรียวข้างหนึ่งขึ้นเหน็บเอวสอบและกดกระแทกแก่นกายแข็งขึงเข้าใส่ร่างเล็กนั่น ดวงตาคมเข้มที่จ้องมองเธอราวกับคาดโทษ ชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อที่ตัวเองสวมใส่ทั้งที่ยังกระแทกกระทั้นเอวสอบใส่ร่างกายเธอเพื่อให้โทษ
“ฮึก” ร่างหนาเข้าปกคลุมโอบกอดรัดร่างที่สั่นเทาเพราะร้องไห้อย่างหนัก ชนาเหยียดยิ้มเมื่อเห็นท่าทีพยศของเอมม่าทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้มีแรงจะสู้กับเขาแล้ว
“พอผมใจร้ายคุณก็ตัวสั่นแบบนี้...และไอ้กิริยาโยนกระดาษก่อนหน้านี้คุณควรโดนอะไร?” มือหนาบีบเคล้นเนินอกอวบอิ่มราวกับจะให้แหลกลาญคามือ
“คุณมันสารเลว!”
“คุณรู้ดีว่าผมเลวได้มากกว่านี้...มากกว่าที่คุณคิดซะอีก”