ตอนที่ 7
21.00 น.
คืนวันงานเลี้ยงแสนรื้นรมณ์ ทุกคนมารวมตัวภายในที่จัดงายเลี้ยงทั้งทหารสาวใช้ขุนนางหรือคนสำคัญของประเทศ เวลาสามทุ่มผู้คนเริ่มพลุกพล่านมีเสียงคนตรีเปิดคลอไปเบาๆทั่วงาน
ฝั่งซันนี่กับนาร่ายังคนอยู่ภายในห้องแต่งตัว โดยมีแม่นมเซร่าเป็นผู้ดูแล
ฟานนี่และฟิโอน่าเดินพูดคุยผูกมิตรกัทุกคนในงาน
พระราชานั่งเสวนากัเหล่าทหารอาวุโสที่เคยเป็นสหายกันเมื่อสมัยยังหนุ่ม
ทหารองครักษ์ก็อยู่กันทั่วบริเวณ
21.02 น.
แตรถูกเป่าขึ้นมา ทุกคนหันไปมองพร้อมด้วยรถสุดหรูนับสิบคันขับเข้ามาริเวณงาน ทั้งหมดยืนขึ้นเพื่อแสดงความเคารพเจ้าชายที่นั่งอยู่ในรถคันสีแดงเพลิง เมื่อเสียงแตรเงียบประตูก็ถูกเปิดออก เจ้าชายอเล็กซานเดอร์เดินลงมาพร้อมชุดเต็มยศเจ้าชายมีเครื่องราชประดับเต็มบ่าและอก ไม่นานเจ้าชายอีกพระองค์ก็ทรงลงตามมา ด้วยชุดที่ค่อนข้างเต็มยศเหมือนกันแต่ที่ต่างไปคือเจ้าชายองค์หลังดูจะเป็นผู้นำด้านแฟชั่นมากไปหน่อยดูได้จากหน้ากากขนนกที่ดูพิการนิดๆ
ทั้งสองเดินตรงเข้าไปหาพระราชาโดยขณะเดินผ่านผู้คนก็มีคนทำความเคารพตลอดทาง ทั้งสองโค้งให้พระเจ้าสเตฟาน แล้วก็คุยกันอย่างถูกคอ
ไม่นานเสียงแตรก็ดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้ทุกคนมองขึ้นไปทางบันไดทางยาวสีทองอร่าม ทุกคนเห็นหญิงสาวสองคนในชุดเต็มยศขอเจ้าหญิงจะต่างกันก็ตรงที่ซันนี่เป็นชุดที่มีเครื่องราชสีทอง
ทั้งคู่เดินลงมาอย่างสง่างาม เมื่อเสียงแตรหยุดทั้งคู่ก้มายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าชายทั้งสองพระองค์ข้างๆก็มีท็อบกับซูททหารองครักษ์ประจำตัวยืนอยู่ไม่ห่าง
พระราชาแนะนำทั้งสองฝั่งให้ได้รู้จักกัน อเล็กซานเดอร์กันาร่าแยกไปทางน้ำผุหน้างานเพื่อทความรู้จักกัน ส่วนซันนี่กัคีย์ยังคงมองหน้ากันอย่างตกใจ
'เจ้า!!!'
'กรี๊ดดดด'
ทั้งคู่ทักทายกันอย่างน่ากลัว
'อ่าวรู้จักกันเหรอ'
'นิดหน่อยพะยะค่ะ'
'ไอ่'
'ที่แท้ผู้หญิงที่กล้าสาปแช่งลูกชายที่รักข้าก็คือเจ้าหญิงซันนี่คู่หมั้นข้านี่เอง'
=[]= ตกใจ
'ที่แท้คู่หมั้นฉันก็เป็นตุ๊ดโรคจิตนี่เอง ม่ายยยย'
'ฉันไม่ได้เป็นตุ๊ดเว้ย'
'ตุ๊ด'
'ไม่ช่ายยยย'
'T^T'
'T^TT'
โลกจะกลมอะไรขนาดนั้นผู้หญิงผมทองกับแมวของเธอก็กลายมาเป็นองค์รัชทายาทคีย์บอมกับแมวทรงเลี้ยงคุณสฟริ้งนี่เอง!!!
งานเลี้ยงที่น่ารื่นรมณ์เมื่อคืนจบไปตอนเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ แขกในงานแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย
1.00 น.
5.00 น.
10.00! น.
'ว๊ายยยยยย'
ซันนี่ส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นจนทหารองครักษ์หน้าประตูรีบวิ่งกรู่กันเข้ามาอย่างตกใจสุดขีดแทบกรี๊ด(?)
'มีอะไรเกิดขึ้น'
ท็อบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องนอนของซันนี่
'ป่าวววววววว ก็แค่...'
'......' ทุกคนหยุดฟัง
'ฉันตื่นสาย' '=_=' ท็อบ
'-0-' เหล่าทหาร
'ไม่มีอะไรแล้วๆ แยกย้ายกันไปได้แล้ววว'
ทุกคนแยกย้ายกันออกไปให้เจ้าหญิงได้อาบน้ำแต่งตัว เธอเดินออกมาจากห้องด้วยกลิ่นน้ำหอมตลบอบอวน
'กลิ่นหอมดีนะแต่ตื่นสายมันจะดีเหรอเจ้าหญิง'
เจ้าชายคีย์เดินผ่านไปอย่างหน้าตาเฉยแต่ทิ้งคำพูดน่าคิดไว้ให้ซันนี่
'นายว่าใคร'
'ป๊าววว ฉันต้องรีบไปแล้วไว้ว่างๆจะมาชวนทะเลาะนะ เจ้าหญิงนิทรา'
พูดเสร็จคีย์ก็แลบลิ้นแล้วรีบวิ่งไปอีกทางนึง
'เจ้าบ้านี่นิ จริงๆเลยนะ'
ซันนี่สถบเบาๆคนเดียว แล้วเดินไปทางเดียวกับที่คีย์ได้วิ่งหนีไปเมื่อสักครู่ กลิ่นของอาหารหอมๆลอยอยู่ทั่วบริเวณห้องโถง ซันนี่แปลกใจเพราะปกติจะไม่มีเลยที่จะได้กลิ่นอาหารที่ห้องนี้ เธอเดินออกไปเรื่อยๆและก็พบความจริง นั่นคือ
เจ้าชายรูปงานผู้มีใบหน้าสวยราวกับหญิงสาวกำลังฮัมเพลงและลงมือทำอาหารอย่างชำนาน
'นี่! นายทำอะไร'
'อาหารไงไม่รู้จักเหรอ'
'=_='
'ฮิฮิ'
'ฉันหมายถึงว่าอาหารอะไรทำนองนั้น'
'อ่อออออ เธอไม่พูดให้ชัดเจนเอง'
'ขอโทษ'
'ฮ่ะๆๆๆ อาหารที่ฉันจะทำมันคืออาหารชั้นเลิศเธอเคยกินรึป่าว'
'ให้เลิศแค่ไหนก็เคยย่ะ'
คีย์เริ่มอธิบายสูตรอาหารของเขาอย่างมีความสุขออกนอกหน้าซันนี่ไม่ได้ว่าอะไรกลับยังตั้งใจฟังอย่างจดจ่อกับคำพูดต่างๆของคีย์ ทั้งคู่หัวเเระมีความสุขเพราะมีอาหารเป็นสื่อมิตรภาพ ทั้งสองคนต่างชื่นชอบในเรื่องอาหารเลยคุยกันถูกคออาจมีเถียงกันบ้างแต่ก็จะจบด้วยรอยยิ้มเสมอไป
'ฉันเคยรู้มาว่าไอ่นี่ต้องหมักด้วยไอ่นี่นะ'
'ไม่จริง มันเป็นความเชื่อที่ผิด!'
'อย่ามาเถียงน่า'
'!@#$%^'
ทั้งสองคนเถียงกันอย่างน่ารักและจบด้วยรอยยิ้มเหมือนเช่นเคย
'เธอก็ชอบทำอาหารเหรอ'
'อือ ก็ชอบนะแต่ไม่ค่อยได้ทำแล้ว'
'เธอชอบมันเพราะอะไร'
'เพราะว่าเวลาฉันทำอาหารมันจะทำให้ฉันมีความสุขลืมความเศร้าได้บ้างและอีกอย่างแม่ของฉันก็ชอบทำด้วยเวลาฉันทำอาหารจะรู้สึกเหมือนแม่อยู่ใกล้ๆ'
'เหมือนกันเลย'
'นายก็เป็นเหรอ'
'อือ'
'...'
'555555555555555'
'555555555555'
'หัวเราะบ้าไรเล่า!!'
'แล้วนายหัวเราะไรล่ะ'
'5555555555555'
'555555555555'
จบด้วยเสียงหัวเราะ ทั้งสองไม่รู้เลยว่ามีสายตาหลายคู่กำลังต้องมองจากหลายทิศทางและหลากหลายอารมณ์
ด้านของพระราชาที่ทรงมองลูกสาวกับพระคู่หมั้นหัวเราะกันอย่างมีความสุขทำให้พระองค์ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ในใจก็คิดถึงสหายเก่าและพูดลอยๆไปกับลมที่พัดผ่าน
'คำสัญญาของเรามันจะเป็นจริงแล้วสินะ ฉันดีใจจริงๆ'
ทางด้านของพระสนมกับฟานนี่ก็จ้องมองอย่างเป็นเดือดเป็นร้อนอยู่ภายในใจยิ่งเห็นรอยยิ้มของพระราชาก็ยิ่งร้อนใจทวีคูณ
'มิยอง'
'ฟานนี่ค่ะแม่ - -'
'อ่านั่นแหละจ๊ะ เราต้องทำอะไรซักอย่างนะลู้ก'
'อะไรล่ะค่ะ'
'นั่นสิอะไร'
ด้านสุดท้ายองครักษ์คนสนิทของซันนี่ ท็อบ กำลังยืนมองเจ้าชายและเจ้าหญิงหนอกล้อกันอย่างสนุกสนานภายนอกเขาควบคุมตัวเองให้เข้มแข็งแต่ภายในจิตใจเหมือนทำลังอยู่ท่ามกลางพายุหิมะที่จู่ๆก็ตกลงมาทำให้เขารู้สึกเหงาใจ เขาทำได้เพียงพูดกับตัวเองในใจเท่านั้นไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้แม้จะอยากพูดมากเท่าไหนก็ตาม
'ฝ่าบาทคงไม่เหงาอีกต่อไปแล้วเพราะฝ่าบาทมีเขามาคอยอยู่เป็นเพื่อนแทนหม่อมฉัน หากแต่หม่อมฉันยังคงรอวันที่ฝ่าบาทจะกลับมาเล่นกันเหมือนตอนที่เรายังเป็นเด็ก หม่อมฉันยังรอสักวันให้ฝ่าบาทหันกลับมามองที่หม่อมฉันถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ'
