บทที่ 3 เข้ามาอยู่ในสายตา❤️ประทับในดวงใจ [2.3]
ธาราหาวพร้อมกับชี้มือไปอีกด้าน มันไม่ใช่ด้านที่มีฟูกนอนตอนนี้ “ห้องของนายถูกตกแต่งใหม่เพราะการมาของฉันอย่างงั้นเหรอ”
“นายเริ่มเกรงใจแล้วใช่มั้ยละ เพราะงั้นช่วยตอบแทนโดยการอยู่ให้มีความสุขและยิ้มให้กับน้องสาวฉันเท่านั้น ห้ามทำหน้าคิ้วขมวดเหมือนคนแบกโลกทั้งโลกไว้อยู่คนเดียว น้องสาวฉันเป็นเด็กอ่อนไหวง่ายขี้ตกใจและกลัวคนแปลกหน้า”
เฮ้ย! “นี่นายทำทั้งหมดเพื่อน้องสาว”
“พูดถูกแค่ครึ่งเดียว” ธาราพูดจบก็ผละขอตัวไปอาบน้ำ ทิ้งให้หัสวีร์ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดนั้น แต่ให้คิดยังไงก็คิดไม่ออก เขาจึงเปลี่ยนมาสนใจห้องนอนที่แสนจะธรรมดาอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มออกมา ยิ้มและก็ยิ้มสองเดือนที่ผ่านมาจำนวนรอยยิ้มของเขามากกว่าสิบห้าปีที่ผ่านมาเสียอีก
?????? ??????
“พี่ชาย” ธาราอ้าแขนรับร่างน้อยๆ ของน้องสาว
“เป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่มั้ย” เด็กน้อยส่ายหน้า “เก่งจริงๆ น้องสาวพี่...ไหนมาดูการบ้านของน้องกันดีกว่า” พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ เด็กน้อยก็หาวขึ้นมาทันที ธารารู้ทันแต่ก็ไม่บังคับฝืนใจ “โอเค ง่วงนั้นก็นอนซะ” เขาพูดพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยไปวางลงบนเตียงช่วยเธอห่มผ้า
ธารากล่อมจนลำธารหลับไป แม่ก็กลับเข้ามาในห้องนอนพอดี “น้องหลับแล้วเหรอ”
“ครับ...แม่เหนื่อยหรือเปล่าครับ”
“เกิดเป็นคนก็ต้องเหนื่อย แต่ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเลย หัสเขานอนได้มั้ย”
“นอนได้สบายครับแม่ ฟูกหนากว่าที่โรงเรียนเสียอีก...ขอบคุณนะครับแม่” ธาราพูดพร้อมกับกอดแม่และหอมแก้มแม่ และต้องแวะไปหอมแก้มน้องสาวที่หลับปุ๋ยไปแล้ว
?????? ??????
พรึ่บ! ทับทิมต้องก้มไปมองขาตัวเองที่จู่ๆ ก็ถูกวงแขนเล็กกอดรัดไว้พร้อมกับร่างน้อยๆ ของบุตรสาวที่พยายามแทรกตัวหลบ เมื่อมองตามสายตาของบุตรสาวตัวจ้อย ทับทิมก็ยิ้มออกมา “พอนอนได้มั้ยจ๊ะ” เธอทักทายหัสวีร์ที่เดินลงมาและกำลังเดินมาทางนี้
“สวัสดีครับคุณน้า...ขอบคุณมากครับ นอนสบายมากๆ ครับ”
“ที่แท้นายก็ปากหวานเป็นกับเขาด้วย” คุณทับทิมยังไม่ทันตอบ เสียงธาราที่เดินตามหลังมาก็เอ่ยแทรกเสียก่อน
“เจ้าลูกคนนี้นิ” ธาราเดินเลยหัสวีร์และเข้าไปหาน้องสาวตัวจ้อยที่พยายามหลบตัวเองจากสายตาผู้คน
“เป็นอะไรไปยายน้อง” ธาราคุกเข่าตรงหน้าเด็กน้อย หัสวีร์ทอดตาลงต่ำมองตัวผลุบๆ โผล่ๆ เขาเคยเห็นแต่ในรูป พึ่งจะได้เห็นตัวจริงเจ้าของงานฝีมือพวงมาลัยก้อนขยุ้มตอนนี้นี่เอง เด็กสาวดวงตากลม จมูกเล็กแหลม ริมฝีปากบางจิ้มลิ้ม ผิวขาวดั่งหยก “ไปทักทายเพื่อนพี่หน่อย” เด็กสาวส่ายหน้าปฎิเสธพร้อมเม้มปากแน่น
ทับทิมเห็นอากัปปริยาลูกสาวแล้วก็อดขำไม่ได้ เด็กตัวเท่านี้รู้จักอายเสียแล้ว “ไปสวัสดีพี่เขาหน่อย...” เมื่อมีคำสั่งของแม่สัมทับอีกรอบ เด็กสาวก็จำต้องค่อยๆ ขยับออกมาจากด้านหลังขาของแม่ เธอก้มลงต่ำปากเม้มปิดสนิท หัสวีร์มองกริยาท่าทางนั้นอย่างไม่เข้าใจนักแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความเอ็นดู
ธาราเริ่มเข้าใจสาเหตุอากัปกริยาของน้องสาวจึงเดินไปกระซิบบอกเพื่อนว่า “ฟันน้ำนมซี่หน้าหลุดนะ” หัสวีร์ถึงกับบางอ้อ และเขาก็เผลอยิ้มเห็นฟันขาวเรียงตัวออกมาทันที การมาครั้งนี้ค่อนข้างกระชั้นและเขาที่อยู่โรงเรียนตลอดจึงไม่สะดวกที่จะหาของขวัญรับขวัญน้องสาวของเพื่อน
“ฉันควรมีของขวัญให้น้องสาวแกสักหน่อยนะ”
“ไม่ต้องหรอก”
