รักจำเป็น_EP.4
มาหยา
ฉันวิ่งกระโดดลงจากเรือที่พี่พัดขับมาส่ง ยังไม่ทันจอดเข้าท่าเลยและรีบวิ่งเข้ามาในบ้าน ใครเรียกก็ไม่สนใจ ฉันเดินเร็วเข้ามาในห้องโถง...
ผู้ชายที่ฉันรักและไว้ใจ เขานั่งอยู่ที่พื้นกับผู้หญิงอีกคน ผู้หญิงที่ฉันเรียกว่า ‘พี่สาว’
‘แกจะบอกว่าแกท้องกับแฟนน้องเนี่ยนะ!!’
ฉันกรีดร้องออกมา พ่อและแม่หันมาเจอฉันทุกคนทำหน้าตกใจ ก่อนที่ฉันจะทันพูดอะไรพี่สาวฉันก็พูดขึ้น
‘เรารักกัน! คุณพ่ออย่ามาขัดได้ไหมคะ ตอนนี้หนูก็ท้องแล้ว พ่อจะให้หนูแบกท้องไปมาแบบนี้โดยไม่แต่งงานหรือคะ! พ่อไม่อายเขาเหรอ!’ ฉันนั่งคุกเข่าลงกับพื้นมองด้านหลังผู้หญิงที่ฉันเรียกว่าพี่สาว
‘ผมอยากจะขอโทษคุณพ่อคุณแม่ด้วยที่ผมล่วงเกินมียา...แต่เรารักกันจริง ๆ ครับพ่อ ให้โอกาสเราเถอะครับ’
‘ธัญ...คุณรู้ตัวไหมว่าพะ...พูดอะไรออกมา’ ฉันถามออกไปก่อนจะเช็ดน้ำตา
‘รู้! ผมรู้ตัวดีว่าผมกำลังทำอะไรอยู่! แต่ผมรักมียาคุณเห็นใจเราเถอะนะ ช่วยเลิกยุ่งกับเราสักที’ ฉันแค่นยิ้ม ก่อนคุณพ่อจะพุ่งเข้าไปทำร้ายธัญ ฉันไม่เข้าไปห้ามเพราะไม่มีแรงจะยืน ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น ก่อนพ่อจะควักปืนขึ้นมาจ่อธัญ
‘กรี๊ดด พ่ออย่ามาทำผัวหนูนะ’
‘อย่ายิง!! ถ้าเขาตายหนูจะตายตามเขาไป!! เอาเลยถ้าพ่อจะฆ่าก็ฆ่ามันให้หมดนี่แหละ!!’ ฉันปิดหน้าร้องไห้อยากจะหายไปจากตรงนี้
‘พ่อเลือกคนที่ดีพร้อมอย่าง ‘พัด’ ไว้ให้ แกกลับดื้อดึง อยากจะเอาผู้ชายคนอื่น แต่ฉันก็ไม่ว่าแกหรอกนะ ถ้าแกจะโง่เง่าไม่เอาพัดมันน่ะ แต่ทำไมล่ะมียา ทำไมแกต้องเอาแฟนน้องสาวแกด้วยฮะ! แกไม่สงสาร ไม่รักน้องแกบ้างหรือ?’
พี่มียาคลานเข่ามาหาฉันก่อนจะจับมือฉัน ๆ สบตาเธอผ่านม่านน้ำตา
“พี่ขอได้ไหมมาหยา...ยกธัญให้พี่เถอะ เห็นแก่เด็กตาดำ ๆ ที่เป็นหลานแกเถอะนะ” พี่ฉันร้องไห้ แต่สายตาเขาไม่ได้ร้อง
มือเขาจิกเข้ามาที่แขนฉัน ๆ มองเล็บสีแดงที่กำลังจิกเข้าไปในเนื้อ มันเจ็บนะ...แต่มันเจ็บที่ใจมากกว่า
ฉันเคยสงสัยว่าอาจจะเป็นเพราะพี่เห็นว่าพ่อรักฉันมากกว่า พี่เลยพยายามแสดงออกว่าไม่รักฉัน
แต่วันนี้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ฉันรู้แล้ว ไม่ใช่ว่าเธอรักฉันน้อย...เพราะเราไม่ได้สนิทใกล้ชิดกัน แต่มันเป็นเพราะเธอไม่เคยรักฉันเลยต่างหาก
‘แล้วเรื่องที่พ่อรับปากเกาะนกไว้จะว่ายังไง!’ ฉันหลับตาร้องไห้ออกมา พ่อฉันกำลังร้องไห้...
“พี่มียาอยากได้ผู้ชายคนนี้ก็เอาไปเถอะค่ะ หยายกให้...” เธอยอมปล่อยเล็บที่จิกแขนฉัน
“ส่วนเรื่องเกาะนก...หยาจะไปคุยกับคุณป้าและคุณลุงเอง พ่อไม่ต้องกังวลค่ะ หยาขอตัว” ฉันชันตัวลุกขึ้นเดินออกนอกบ้านทั้งน้ำตา
ฉันเห็นพี่พัดยืนอยู่ข้างประตูที่ข้างในมองมาไม่เห็น ฉันตกใจเล็กน้อย...แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้ ฉันวิ่งมาท้ายไร่เปิดประตูโรงอนุรักษ์เข้าไปก่อนจะวิ่งไปที่อ่างผ้าใบและนั่งลงร้องไห้กับพอลอยู่แบบนั้น
พัด
ผมตกใจที่เธอวิ่งออกมาจากในบ้าน เธอเห็นผมแต่ไม่หยุดวิ่ง เธออาจจะมองว่าผมเสือกไหมก็ไม่รู้ แต่ผมวิ่งเร็ว ๆ ตามเธอมา...เธอมาท้ายไร่ ซึ่งก็คือโรงอะไรสักอย่างเธอเปิดประตูเข้าไป ผมเดินตามไป
มันเป็นโรงอะไรสักอย่างกว้างอยู่ หลังคาสูงเกือบ 3 เมตร แปลงเพาะชำอยู่ด้านซ้าย ด้านขวาจะเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ สูง เกือบเท่าหัว และอ่างที่ทำจากผ้าใบธรรมดาอยู่รอบ ๆ ตรงกลางจะเป็นเหมือนโซนออฟฟิศไว้ใช้งาน
ผมมองไม่เห็นเธอเห็นแต่เต่าที่มองหน้าผมอยู่ในตู้ ผมเดินตามเสียงร้องไห้เข้าไป...ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่อ่างผ้าใบมีลูกปลาพะยูน...น่าจะใช่ อยู่ในนั้น
“ฮือออออออ” ผมมองเธอนั่งร้องไห้อยู่ข้างอ่างผ้าใบและเอามือไปลูบตัวลูกพะยูนอยู่แบบนั้น
ผมหย่อนก้นนั่งลงข้าง ๆ เธอ ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอตกใจที่เห็นผม
“อะ...ออกไปก่อนค่ะ” เธอผลักผมและเอามือเช็ดน้ำตาไม่ยอมรับผ้าเช็ดหน้าของผม
“นี่ตัวอะไร?” ผมเอ่ยถามและชี้ไปในอ่างผ้าใบ
“.........” เธอสะอื้นก่อนจะมองตามมือผม
“นี่พอล...ลูกพะยูนหลงฝูงค่ะ” เธอตอบผมก่อนจะปาดน้ำตาและก้มหน้าร้องไห้ต่อ
