บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1: การพบกันครั้งแรกกับบอสประจำเซิร์ฟเวอร์

แสงแดดอ่อนๆ ของต้นเทอมสาดส่องลงมากระทบกับกลุ่มนักศึกษาใหม่ที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่ในลานกิจกรรมขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัย เสียงจอแจดังอื้ออึงราวกับตลาดนัดขนาดใหญ่ที่รวมเอาความตื่นเต้น ความฝัน และความประหม่าของเด็กหนุ่มสาวนับพันคนมาไว้ในที่เดียว บูธจากคณะต่างๆ ถูกตั้งขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บ้างก็ตกแต่งอย่างสวยงามตามธีม บ้างก็เปิดเพลงดังกระหึ่มเพื่อเรียกร้องความสนใจ

และท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ‘กวิน’ เฟรชชี่ปีหนึ่งจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ กำลังยืนกะพริบตาปริบๆ ราวกับลูกแมวที่เพิ่งหลุดเข้ามาในโลกกว้างเป็นครั้งแรก ในหัวของเขามีฟิลเตอร์สีรุ้งฟรุ้งฟริ้งเคลือบทุกอย่างที่มองเห็นเอาไว้ มหาวิทยาลัยในฝันที่เขาเห็นแต่ในซีรีส์ บัดนี้เขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมันแล้วจริงๆ

“โอ้โห...มึงดูบูธนิเทศฯ ดิ อย่างกับหลุดมาจากบรอดเวย์”

‘ต้า’ เพื่อนสนิทร่างท้วมที่ยืนอยู่ข้างๆ ชี้ชวนให้ดูด้วยแววตาตื่นตะลึง ที่บูธนั้นมีรุ่นพี่แต่งตัวเป็นตัวละครแปลกๆ เต้นกันอย่างหลุดโลก

“แล้วดูทางนู้น...บูธบริหารฯ อย่างกับประชุมบอร์ดผู้บริหาร”

‘โอม’ เพื่อนอีกคนที่สุขุมกว่าเสริมขึ้น พยักพเยิดไปยังกลุ่มรุ่นพี่ในชุดสูทที่ยืนแจกแผ่นพับด้วยมาดนักธุรกิจอนาคตไกล

“สุดยอดไปเลยเนอะ...เหมือนคนละโลกกับโรงเรียนมัธยมเลย” กวินยิ้มกว้าง

‘ชีวิตมหา’ลัยต้องดีมากแน่ๆ’

เด็กหนุ่มคิดในใจ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ กลิ่นหญ้า กลิ่นหนังสือใหม่ และกลิ่นสายไหมจากบูธคหกรรมลอยมาปะปนกันจนเกิดเป็นกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของ ‘อิสรภาพ’ ที่เขาใฝ่ฝัน

“แล้วคณะเราล่ะวะ” ต้าถามขึ้น

“อยู่ไหนเนี่ย”

“ทางนู้นมั้ง เห็นมีคนถือเฟรมผ้าใบเดินไป” โอมชี้ไปยังอีกฟากของลาน

“เออ แต่ก่อนไปคณะเรา กูได้ยินเขาเล่าลือกันว่าคณะที่น่ากลัวสุดคือวิศวะฯ ว่ะ”

ต้าลดเสียงลงเหมือนกำลังเล่าเรื่องผี

“เขาว่าพี่ว้ากโหดเหมือนโกรธกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ใครทำตัวไม่ดีโดนสั่งวิ่งรอบสนามจนขาลาก

“เว่อร์ไปน่าต้า มันคงเป็นแค่ตำนานแหละมั้ง” กวินหัวเราะเบาๆ

“เออ กูว่าก็คงงั้นแหละ ยุคนี้แล้วใครจะมาโหดอะไรขนาดนั้น” โอมสรุปอย่างมีเหตุผล

ใช่...ยุคนี้แล้ว...กวินคิดอย่างเห็นด้วย โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ทุกอย่างต้องขับเคลื่อนด้วยเหตุผลและความเข้าใจซึ่งกันและกัน...

แต่แล้ว ในวินาทีถัดมา จักรวาลก็เหมือนจะอยากสั่งสอนเด็กหนุ่มผู้มองโลกในแง่ดีคนนี้ว่า...เขาคิดผิดถนัด

ฟิลเตอร์สีรุ้งฟรุ้งฟริ้งที่เคลือบโลกของกวินไว้ พลันแตกสลายดัง ‘เพล้ง!’ ไม่เหลือชิ้นดี...

“พวกมึงจะยืนอออะไรกันตรงนี้วะ ไม่เห็นเหรอว่าคนอื่นเขาจะเดิน!”

เสียงทุ้มต่ำที่ห้าวและเกรี้ยวกราดดังขึ้นจนกลบเสียงเพลงจากทุกบูธ มันทรงอำนาจพอที่จะทำให้ทุกคนในรัศมีห้าสิบเมตรต้องหยุดกิจกรรมทุกอย่างแล้วหันไปมองเป็นตาเดียว กวินและเพื่อนๆ ก็เช่นกัน

และภาพที่เขาเห็น ก็ทำให้ตำนานที่เพิ่งบอกว่า ‘คงไม่มีจริง’ มันปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า...

ณ ใจกลางวงล้อมที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในเสื้อช็อปวิศวกรรมศาสตร์สีเลือดหมูยืนเด่นเป็นสง่า ใบหน้าของเขาหล่อเหลาราวกับเทพเจ้ากรีกที่ถูกปั้นมาอย่างประณีตทุกสัดส่วน จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้มพาดเฉียงรับกับดวงตาคมกริบ ริมฝีปากหยักได้รูปที่น่าจะดูดีเวลาที่ยิ้ม แต่ ณ วินาทีนี้มันกำลังเม้มเป็นเส้นตรงอย่างไม่สบอารมณ์

กวินเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

‘โอ้โห...คะแนนหน้าตาเต็มสิบไม่หัก แต่คะแนนออร่าความน่าเข้าใกล้นี่ติดลบทะลุปรอทไปเลย’

เป้าหมายของออร่าสังหารระดับสิบแมกนิจูดคือกลุ่มนักศึกษาใหม่สามสี่คนที่ยืนออกันอยู่กลางทางเดิน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทางเข้าหลักของตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์พอดี

“ขอ...ขอโทษครับพี่” รุ่นน้องชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวโจกของกลุ่ม ยกมือไหว้ด้วยสีหน้าซีดเผือด

“ขอโทษแล้วมันหายเกะกะไหมวะ!” เจ้าของร่างสูงตวาดกลับ รังสีอำมหิตแผ่ซ่านรุนแรงขึ้นอีกระดับ

“พวกกูสร้างทางเดินไว้ให้เดิน ไม่ได้ให้พวกมึงมายืนอวดรองเท้าใหม่กัน เข้าใจไหม!”

‘โห...แรงมาก...’

กวินคิดในใจพลางหดคอโดยอัตโนมัติ

‘รองเท้าเขาอาจจะใหม่จริงๆ ก็ได้นะพี่’

“นี่วันแรกนะเว้ย! ยังทำตัววุ่นวายกันขนาดนี้ แล้วอีกสี่ปีข้างหน้าพวกมึงจะสร้างความเดือดร้อนอะไรให้คณะอีก” เขายังคงเทศนาต่อด้วยวาจาที่เชือดเฉือนราวกับใบมีด

“ถ้าไม่มีสมองพอที่จะคิดว่าตรงไหนควรยืนตรงไหนควรเดิน ก็กลับไปเรียนอนุบาลใหม่ไป!”

กวินรู้สึกเหมือนค่า HP และ MP ของตัวเองลดลงฮวบฮาบทั้งที่ยืนอยู่ไกลๆ นี่มันไม่ใช่พี่ว้ากแล้ว นี่มันลาสบอสประจำเซิร์ฟเวอร์ชัดๆ

เพื่อนที่มากับร่างสูงสองสามคนยืนกอดอกมองดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ คนหนึ่งทำหน้าเบื่อหน่ายเหมือนเห็นภาพนี้จนชิน อีกคนกลับมีรอยยิ้มสะใจประดับอยู่มุมปาก

‘ทีมงานคุณภาพจริงๆ’

กวินอดประชดในใจไม่ได้

หลังจากจัดการสั่งสอนและเคลียร์เส้นทางจนโล่งเตียนแล้ว ร่างสูงของ ‘ภาคิน’ ก็หันหลังเดินเข้าตึกไป ทิ้งให้บรรยากาศมาคุและความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณนั้นอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ทุกคนจะค่อยๆ กลับไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับกวินแล้ว...โลกทั้งใบของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“เมื่อกี้...ของจริงว่ะ” ต้าเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย

“ตำนาน...มีอยู่จริง” โอมพยักหน้าช้าๆ

“กูว่า...เราควรไปคณะเรากันได้แล้ว และก็...อย่าเดินเฉียดไปทางนั้นอีกเลยจะดีกว่า”

กวินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่งยวด เขารู้สึกเหมือนเพิ่งรอดชีวิตจากการเผชิญหน้ากับก็อตซิลล่ามาหมาดๆ สมองของเขาประมวลผลอย่างรวดเร็วก่อนจะสรุปออกมาเป็นแผนการเอาตัวรอดข้อแรกในรั้วมหาวิทยาลัย

หนึ่ง: ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ถูกปรับสถานะเป็น ‘เขตอันตรายระดับสูงสุด’ ห้ามเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรโดยไม่มีเหตุจำเป็นถึงชีวิต

สอง: บุคคลอันตรายอันดับหนึ่ง คือ ‘พี่ชายหน้าหล่อแต่เหมือนกินรังแตนเป็นอาหารเช้า’ เจ้าของเสียงพิฆาตเมื่อครู่นี้ สเตตัสของเขาน่าจะประมาณนี้...

พลังโจมตี: 999+

พลังป้องกัน: ไม่ทราบค่า

ความเร็ว: สูง

ความเมตตา: 0

จุดอ่อน: ยังไม่ถูกค้นพบ

“กวิน...มึงโอเคปะ” ต้าเห็นเพื่อนเงียบไปนานจึงถามขึ้น

กวินหันมามองหน้าเพื่อนช้าๆ ด้วยสีหน้าที่ยังคงซีดเซียว

“กูว่า...กูต้องวาดแผนที่...แผนที่เอาตัวรอด”

ปฐมบทชีวิตในมหาวิทยาลัยที่เขาเคยจินตนาการไว้ว่าสวยงามราวกับทุ่งลาเวนเดอร์ บัดนี้ได้ถูกบอสประจำเซิร์ฟเวอร์คนนี้กระทืบทำลายจนไม่เหลือซาก และแทนที่ด้วยภารกิจสำคัญข้อใหม่...

‘ต้องเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยนี้ไปให้ได้ โดยไม่ตกเป็นเป้าหมายของบอสตัวนั้นเด็ดขาด!’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel