6/5
หลังจากพายุสวาทผ่านพ้นไป โรฮันน่าก็จมอยู่ในอ้อมกอด ชวดลกอดเธอแน่นเหมือนไม่ต้องการให้เธอลุกหนี แล้วเธอก็ไม่ต้องการจะหนีเขาไปในตอนนี้
ไม่ต้องการอีกเลย...ทั้งชีวิต
พี่โดมเป็นของฮันน่า!
โรฮันน่ากระดิกนิ้วชี้ไปมาดวงตาก็จับจ้องอยู่กับมันไม่เบือนไปไหน ไม่ใช่เพราะว่านิ้วชี้ของเธอจะสวยขึ้นหรือมีอะไรงอกออกมา แต่เพราะเธอกำลังกังขากับสายตาทุกคู่ที่มองจ้องเธอไม่วางตาต่างหาก ถ้าเธอเงยหน้าขึ้นอีกนิดก็จะปะทะกับสายตาของผู้ที่ผ่านโลกมานาน ทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณป้า และสุดท้ายคุณยาย นี่ยังดีที่ลุงชาร์ลกับป้าจันทร์ไม่อยู่ด้วย ไม่อย่างงั้นเธอก็ต้องนั่งเกร็งมากกว่านี้
“ไหนบอกยายมาซิฮันน่า ว่าหนูกับตาโดมไปรักไปชอบกันตั้งแต่ตอนไหน เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ไปทำงานด้วยกันแค่วันเดียว กลับมาอีกครั้งสถานภาพก็เปลี่ยน ช่วยอธิบายให้ยายเข้าใจหนอ่ยจะได้ไหม”
“คุณย่าครับ ผมผิดเองครับ ผมเอ็นดูฮันน่าจนไม่อาจยับยั้งชั่งใจ”
“โดมพูดอย่างนี้แสดงว่าเกิดอะไรขึ้นมากกว่าที่พวกเรารู้แล้วใช่มั้ย” ชัชรินทร์ถาม
“ไม่ใช่นะคะคุณแม่!” โรฮันน่าปฏิเสธเสียงหลง เธออยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาที่สมควรมากกว่า “ฮันน่ากับพี่โดมยังไม่มีอะไรกันค่ะ”
ชวดลหันมามองหน้าเธอนิ่ง ก่อนจะถอนใจออกมาราวหนักอก
“ถ้างั้นย่าจะถามโดมใหม่ว่า แค่เอ็นดูน้องจะทำให้ต้องแต่งงานกับน้องได้เหรอ คำว่าเอ็นดูมันไม่ได้มีความหมายเดียวกับคำว่ารักหรอกนะ”
สายตาของชวดลประสานกับดวงตาของคนเป็นย่าชั่วครู่ ก่อนจะเบือนไปยังทุกคนและสุดท้ายก็หยุดนิ่งอยู่บนพวงแก้มนวลใสของคนข้างๆ
“ผมคิดว่าเราจะแต่งงานกันได้ เอ่อ...ตอนนี้ยังไม่รัก แต่หลังจากแต่งงานกันไปก็น่าจะรักกันครับ”
หญิงสาวปรายตามามองเขา ก็สบสายตาสีเข้มที่มองอยู่ก่อนแล้ว ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายแปลกๆ ประกายที่เธอไม่รู้ว่ามันสื่อว่าอะไร หากพอจ้องลึกประกายตาชนิดนั้นก็จางหายกลายเป็นความว่างเปล่า
ชิ! บทจะอยากได้ก็ทำตาเชื่อม บทจะหมดความหมายก็นิ่งเฉยเสียอย่างนั้น
ตาพี่โดมบ้า!
“เอางั้นเรอะ” คุณชิดกมลยังไม่หมดข้อกังขา เธอดีใจหากจะได้โรฮันน่าเป็นหลานสะใภ้ แต่ถ้าทั้งคู่ไม่ได้รักกัน เธอก็ไม่อยากผูกมัดใครกับใครด้วยทะเบียนสมรส
ทว่า...ไม่มีใครปฏิเสธ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม หญิงสูงวัยก็เหมือนจะเห็นด้วย
อยู่กันไปก็รักกันเอง
“ผมยังยืนยันคำเดิม ว่าจะแต่งงานกับโรฮันน่าครับคุณย่า ถ้าไม่ว่าอะไร งานแต่งงานของเราจะเกิดขึ้นแบบเรียบง่ายในอีก 1 เดือน”
“ต๊าย! ใจร้อนซะด้วย ถ้าตกลงปลงใจกันแล้วย่าก็ไม่มีปัญหา แต่เดือนเดียวจะเตรียมงานทันหรือเปล่า”
“แค่จัดงานเล็กๆ รู้กันแค่ในหมู่ญาติ ไม่ต้องเชิญแขกเหรื่อให้มากมายหรอกค่ะ” โรฮันน่าออกความเห็น ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของชวดล เขาจึงไม่ปฏิเสธ
“ถ้าใจร้อนอยากอยู่ด้วยกันไวๆ จะเอาอย่างนั้นก็ได้”
ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปของการแต่งงานในครั้งนี้ แต่กว่าจะสรุปและลงเอยกันได้ก็เล่นเอาชวดลและโรฮันน่าทอดถอนใจหลายตลบ
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูห้องทำให้ร่างบางที่กำลังอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์ต้องชะงัก แล้วรีบปิดก๊อกน้ำใช้ผ้าขนหนูพันรอบกายลวกๆ ก่อนจะออกมาในสภาพหมิ่นเหม่
“อุ๊ยว้าย!” เพียงแค่ออกมาจากห้องน้ำ โรฮันน่าก็ถูกรวบไว้ด้วยอ้อมแขนอันทรงพลังของใครบางคน จะหันไปมองว่าเป็นใคร อุ้งปากร้อนวาบก็พุ่งลงมาหาแล้วปิดกลั้นเสียงโวยวายของเธอจนกลายเป็นเสียงอึกอัก
“ก๊อกๆๆ คุณหนูฮันน่าคะ เปิดประตูให้กุหลาบหน่อยค่ะ”
ชวดลจูบเนิ่นนานก่อนจะถอนริมฝีปากออกพร้อมๆ กับถอนฉุน เขากดปลายจมูกแต้มลงบนแก้มนวลเย็น แล้วอมยิ้มเมื่อความซีดเผือดกลายเป็นสีแดงระเรื่อต่อหน้าต่อตา
“จะเปิดประตูทั้งๆ ที่ตัวเองแต่งตัวแบบนี้งั้นเหรอ”
“กุหลาบอาจมีเรื่องสำคัญ ไม่งั้นคงไม่เคาะประตูเรียก” เธอออกแรงผลักร่างหนาหนักให้ขยับห่าง แต่รู้สึกเหมือนกำลังผลักกำแพงหินผาแข็งแกร่งใหญ่โตซะมากกว่า “ปล่อยค่ะ”
“ถามกุหลาบไปสิ ว่าเคาะประตูทำไม” เขาไม่ปล่อยแต่สั่งกระซิบอยู่ข้างหู
โรฮันน่าค้อนประหลับประเหลือก แต่ก็ยอมตะโกนถามสาวใช้ข้ามบานประตูห้องออกไป
“กุหลาบมีอะไรจ๊ะ ฮันน่ากำลังอาบน้ำอยู่”
“กุหลาบเอานมอุ่นๆ มาให้ค่ะ คุณหนูเปิดประตูให้กุหลาบหน่อยสิคะ”
“บอกไปว่าไม่ดื่ม” ชวดลสั่ง
“แต่ฮันน่าชอบดื่มนี่คะ ปล่อยค่ะ แล้วก็ออกไปจากห้องนอนฮันน่าได้แล้ว ฮันน่าจะเปิดประตูให้กุหลาบ”
“งั้นเปิดเลย” ว่าแล้วก็ปล่อยมือจากร่างบาง
โรฮันน่าจะหันไปไล่ซ้ำ เสียงกุหลาบก็ดังขึ้นเตือน “คุณหนูขา” เธอจึงเดินเร็วๆ ไปเปิดประตูก่อนจะหันกลับมามองด้านหลัง ทว่าร่างสูงตระหง่านก็หายไปจากบริเวณนั้นแล้ว
“คุณหนูเพิ่งอาบน้ำจริงๆ ด้วย อาบน้ำนานๆ ระวังเนื้อตัวจะเปื่อยเอานะคะ” กุหลาบเดินเข้ามาวางแก้วนมอุ่นลงบนโต๊ะริมหน้าต่าง “ดื่มนมอุ่นๆ ก่อนนอนจะได้หลับสนิทค่ะ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวได้แล้วนะคะคุณหนู อีกเดือนเดียว แต่คุณหนูคงไม่ต้องเตรียมอะไรมาก เพราะคุณหนูสวยอยู่แล้ว”
“ฮิ...ฮิ กุหลาบล่ะก็ ขอบใจนะจ๊ะสำหรับนมแก้วนี้”
