6/2
เสียงครางเป็นเหมือนเสียงเรียกให้เขาต้องกระชากกางเกงชั้นในออก แล้วเลื่อนตัวลงถลกชายกระโปรงขึ้นสูง ช่วงล่างของเธอกำลังเปลือยเปล่า แม้เสียงในรถจะน้อยนิดแต่ความขาวผ่องเย้ายวนก็สว่างจ้าให้เขาได้เห็น
“สวยที่สุด สวยมากจริงๆ”
ชื่นชมด้วยคำพูดแล้วก็กดหน้าลงหาดอกกุหลาบแรกแย้ม เพียงแค่ปลายลิ้นแตะต้องร่างงามก็กระตุก
“พี่โดม!!!” เธอหวีดร้องอย่างกลั้นไม่อยู่ ไม่นำพาต่อสถานที่และเวลา ดวงตาคู่สวยหลับพริ้ม สมองกำลังจดจ่ออยู่ที่การกระทำของเขา
ชวดลวาดเรียวลิ้นดื่มด่ำความหอมหวานของดอกไม้แรกแย้ม เขานั่งยองๆ อยู่กลางหว่างขา ใบหน้าซุกซบกับความงามเป็นหนึ่งไม่มีสอง ทว่า...ร่างแกร่งกำลังขยับโยกอย่างรุนแรงจนรถทั้งคันเด้งไปมา เรียกให้คนที่มองอยู่ภายนอกต้องยิ้มบนมุมปาก
ลิ้นหนายังคงตวัดซอกซอนกุหลาบหยาดเยิ้ม ดื่มด่ำน้ำหวานแรกแย้มอย่างลุ่มหลง รสกายของเธอช่างหวานแหลมจนยากจะทำให้จาก มือข้างที่ว่างจึงเลื่อนลงรูดซิบและปลดกระดุม ก่อนจะงัดความเป็นตัวตนออกมาสู่โลกภายนอก แล้วกระทำทุกอย่างด้วยอุ้งมือหนาเหมือนที่ปากของเขากำลังทำอยู่ในตอนนี้
“กรี๊ด!” เสียงหวีดร้องดังก้องเมื่อโรฮันน่าพบความสุขสมก็พอดีกับชายหนุ่มที่คำรามลั่นรถเมื่อพาตัวเองแตะสวรรค์ ช่วงเวลานั้นเขาคว้ากางเกงชั้นในของเธอมารองรับกระแสธารอุ่นร้อนที่พวยพุ่งอย่างฉุดไม่อยู่ มันเปรอะเปื้อนอยู่เต็มผ้าผืนน้อยจนล้นออกมาหยดบนพื้นรถ
“บ้าเอ้ย!!!” ชวดลสบถ เขาพานพบความสุขที่ได้มาจากอุ้งมือตัวเองอย่างนึกสมเพช แต่เขาไม่มีทางเลือกที่เหมาะสมกว่านี้
ร่างสูงขยับตัวดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางจนแน่ใจว่าหญิงสาวร่างระทวยจะไม่ยั่วตัณหาอีก ก็ถอดเสื้อของตนออกแล้วคว้าขวดน้ำมาประพรมหยดน้ำไปทั่วอกกว้าง เขาต้องทำให้เหมือนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“อยู่ในนี้นะ เดี๋ยวพี่มา” เขาบอกก่อนจุมพิตหน้าผากชื้นๆ ของเธอหนักๆ แล้วลงจากรถโดยไม่รอฟังคำตอบ
ร่างสูงที่ลงมาจากรถในสภาพเปลือยอก กางเกงยังไม่ติดกระดุมอย่างตั้งใจจะเปิดเผย ร่างชื้นไปด้วยหยดน้ำที่กลายเป็นเหงื่อในชั่ววินาที ใบหน้าคมแดงระเรื่อเหมือนคนที่เพิ่งสุขสม
ชวดลเดินไปหาดั๊กลาสแล้วโยนผ้าชิ้นเล็กในมือลงพื้นต่อหน้านายร่างยักษ์
“นี่คงเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าผมกับเมียร่วมรักกันในรถ”
ดั๊กลาสมองสภาพของหนุ่มหล่อมาดแมนตรงหน้า แล้วหลุบตาลงมองกางเกงชั้นในบนพื้น ความเปียกชื้นสีขาวขุ่นเต็มๆ นั้นทำให้เสียงหัวเราะดังลั่นออกจากปาก
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ดีว่ะ ตัวเบาเลยสิท่า”
“แน่นอนอยู่แล้ว ทีนี้เหลือแค่เรื่องเงิน ผมจะโอนเข้าบัญชีคุณพรุ่งนี้”
“ฮ่ะ ฮ่ะ แกเก่งว่ะโดม ทั้งกล้าหาญชาญชัยและเก่งได้ทุกเรื่อง ฉันชอบนายว่ะ”
“ขอบคุณที่ชม”
“เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ฉันไม่เอาแล้ว”
“ว่าไงนะ”
“ฉันแค่อยากรู้ว่าแม่สาวคนสวยนั่นเป็นเมียแกจริงหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ หล่อนต้องเป็นของฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าแกเป็นเจ้าของ ฉันชอบแกว่ะ ฉันเลยไม่อยากแย่งแฟนแกอีกแล้ว ข้อตกลงของเราเป็นอันยกเลิก”
“ผมต้องขอบคุณคุณมาก แต่เพื่อเป็นน้ำใจเหมือนที่คุณให้มา ผมขอตอบแทนด้วยเงินสักก้อน อย่าปฏิเสธเลยนะ” ชวดลทำเพื่อความแน่ใจ
“โอ๊ะ! อย่างนั้นเหรอเพื่อน ก็ได้ เพื่อความสบายใจของนาย แต่ขอบอกว่าเมื่อกี้สุดยอดว่ะ รถของนายมันเขย่าซะพวกเราเห็นภาพเลยว่ะ สงสัยต้องรีบกลับไปนอนกอดสาวบ้างแล้ว พูดแล้วคึกว่ะ”
ชวดลแค่นยิ้ม ก่อนจะขอตัวกลับเมื่อแน่ใจแล้วว่าเรื่องจะจบ
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมจะจัดการเรื่องเงินให้”
“เออๆ ไปเถอะ โชคดีนะ”
ชายหนุ่มร่างสูงไม่รู้จะบอกกับตัวเองยังไง ก่อนหน้านี้เขาแทบจะบ้าตายกับความคิดล้านตลบ มาตอนนี้เขากลับรู้สึกอยากตะโกนให้ก้องโลก ที่ต้องมาทำอะไรต่อมิอะไรเพียงเพราะต้องการพิสูจน์บางอย่างจากคนกลุ่มหนึ่ง มันไม่น่ายินดีเลยสักนิดที่พวกดั๊กลาสหัวเราะหรือมีรอยยิ้มพอใจ กับการที่เขาต้องเกือบจะเป็นบ้าตายอยู่ในรถ
ใช่...เขาสุข แต่จะสุขกว่านี้ถ้าไม่ได้เกิดจากอุ้งมือของตัวเอง
โรฮันน่าปรายตามองชวดลแทบจะตลอดเวลาที่เขาดูจะตั้งใจขับรถมากเสียจริง เขาไม่พูด ไม่ถาม ไม่บอกอะไรทั้งสิ้นตั้งแต่ขับรถออกมาจากสถานที่แห่งนั้น และเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน เป็นนานนับชั่วโมงกว่าเธอจะกล้าเอ่ยปาก เมื่อรถคันงามเลี้ยวเข้าไปในซอยหนึ่ง และหยุดลงนิ่งสนิทอยู่ที่ลานจอดรถกว้างขวางของคอนโดสูงเสียดฟ้า
“ที่ไหนคะ”
ชวดลไม่หันมามองด้วยซ้ำแม้ในขณะตอบ
“คอนโดของพี่”
เขาลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตู ก่อนจะช้อนร่างนุ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ว้าย! พี่โดมจะทำอะไรคะ ปล่อยฮันน่าเถอะค่ะ ฮันน่าเดินเองได้”
“อยู่เฉยๆ เถอะ เธอคงเดินไม่สะดวกเท่ากับพี่อุ้มไปเองหรอกนะ”
เธอเดินสะดวกกว่าถูกเขาอุ้มเดินลิ่วแบบนี้ต่างหาก ดูสิ ทำอย่างกับเธอตัวเบาราวขนนก เขาอุ้มแล้วพาเดินเข้าไปในตัวตึก ตรงไปยังลิฟต์
“พี่โดมจะกดลิฟต์ได้ไงถ้ายังอุ้มฮันน่าอยู่แบบนี้”
“ฮันน่าก็กดสิ”
ใช่...เธอต้องเป็นคนกด
หญิงสาวเอื้อมมือออกไปกดเรียกลิฟต์ ก่อนจะเงยหน้ามองสบตาคมกริบแวววาวของคนที่กำลังอุ้มเธอไม่วาง มุมปากเขาเหมือนกระตุกเมื่อจู่ๆ ดวงตาเธอก็พร่ามัว ปากอิ่มเผยอรับจุมพิตที่ก้มต่ำลงมาหา มันรวดเร็วว่องไวปานพายุบุแคม เร่าร้อนชนิดที่ว่าเธอตั้งตัวไม่ติด
