5/4
เขาปล่อยมือหญิงสาวแล้วเดินเข้าไปใกล้ดั๊กลาส รูปร่างแม้จะแตกต่างกันตรงที่ขนาดและความสูง แต่ความแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน ชวดลไม่กลัวหากจะต้องวัดกันที่ฝีมือกับมาเฟียร่างยักษ์ แต่ถ้ามีโรฮันน่าเป็นข้อต่อรองเขาไม่อยากเสี่ยง เพราะถ้าพลาดเป็นต้องคอขาดจากการถูกคนที่บ้านเชือด ทั้งบิดามารดา คุณยาย คุณอาทั้งสอง และที่สำคัญ ถ้าพลาดก็เหมือนเอาอวัยวะส่วนที่สำคัญที่สุดในร่างกายไปวางไว้บนเขียง
“ผมจะให้คุณ 10 ล้าน แลกกับโรฮันน่า และถ้าคุณอยากแน่ใจว่าเราเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ผมขอร้องอะไรสักนิดได้มั้ย”
“15 ล้าน สำหรับข้อต่อรอง” ดั๊กลาสว่า
“ตกลง แต่คุณอย่าตุกติกแล้วกัน”
“ว่ามา”
“ผมไม่ชอบเล่นรักกับใครอวดสายตาคนเท่าไหร่ ขอเป็นในรถตัวเองปิดกระจกหมดทุกด้าน”
“แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่านายจะไม่ตุกติก”
“ผมมีวิธีที่ทำให้คุณแน่ใจก็แล้วกัน”
ดั๊กลาสนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก็พยักหน้า ชวดลลอบถอนใจอย่างโล่งอก
“พี่โดมจะทำอะไรคะ!”
ชวดลไม่ตอบ แต่จูงร่างบางแล้วยัดเธอเข้าไปในรถ เขาเลื่อนรถให้พ้นจากสนามโดยมีดั๊กลาสคอยเดินตาม หลังจากล็อกรถเรียบร้อย เขาก็หันมามองหญิงสาวข้างกาย
“เธอจะแต่งงานกับพี่มั้ยฮันน่า พี่จะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
“ทำไมคะ ทำไมถึงมาถามเอาในรถ เวลานี้ฮันน่าอยากกลับบ้านมากกว่า พี่โดมพาฮันน่ากลับบ้านเถอะนะคะ”
“ได้สิ แต่ต้องหลังจากนายดั๊กลาสแน่ใจเรื่องของเราก่อน”
“เอ๊ะ! เรื่องของเรา เรื่องอะไรกันคะ”
“พี่จะถามเธออีกครั้ง ถ้าคราวนี้เธอไม่ตอบ เธออาจจะเสียใจไปตลอดชีวิต”
สีหน้าจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่น ทำให้โรฮันน่ารู้สึกหวาดหวั่นพิลึก อะไรก็ตามที่ชวดลตัดสินใจทำลงไปแล้ว จะต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เขาถึงมีสีหน้าท่าทางแบบนี้ แล้วคำตอบที่เขาต้องการล่ะ เธอจะตอบว่ายังไง
“เมื่อก่อน พี่โดมรังเกียจฮันน่ามากมั้ยคะ” เธอย้อนถาม
“พี่ไม่เคยรังเกียจเธอเลยสักครั้ง” เขาตอบ
“แต่พี่โดมชอบล้อ ชอบรังแกฮันน่า ชอบว่าฮันน่าเป็นหมูตอน”
ดวงตาคมกริบของเขาไม่ได้จับจ้องไปที่เธอ หากแต่กำลังจ้องมองดั๊กลาส เขาแน่ใจว่ารถคันนี้ติดฟิล์มดำมืดจนคนข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็น ส่วนคนข้างในมองเห็นคนข้างนอกชัดเจน
“ก็เธอน่าแกล้ง เร็วเข้าฮันน่า รีบตอบพี่ก่อนจะไม่ได้ตอบ” เขาเร่งเร้า
โรฮันน่าปรายตามองตามสายตาของชายหนุ่ม เธอเห็นในสิ่งที่เขาเห็นและแน่ใจว่าเรื่องที่เขากำลังจะทำต้องเกี่ยวข้องกับนายร่างยักษ์นั่นแน่นอน หญิงสาวยังคงนิ่งจนเขาต้องเร่งอีกครั้ง
“ถ้าเธอไม่ตอบ พี่จะให้เธอลงไปหาดั๊กลาส” มันก็แค่คำขู่ที่ไม่เคยคิดจะทำ แต่นั่นก็ทำเอาหญิงสาวหวาดกลัวได้ไม่ยาก ก็แหม...นายดั๊กลาสอะไรนั่นหน้าตาน่ากลัวจะตายไป แถมยังมีชายฉกรรจ์วางท่าเป็นนักเลงหัวไม้ยืนคุมเชิงอยู่ไม่ห่าง ถ้าพวกมันรุมพี่โดมของเธอ เขาต้องแย่แน่ๆ
“พี่โดมบอกมาก่อนสิคะ ว่าจะถามทำไม ในเมื่อฮันน่าก็ตอบไปแล้ว”
“ฮันน่า...” เขาทำเสียงคล้ายคราง “ไม่มีเวลาแล้ว”
โดยไม่ทันตั้งตัว เบาะที่หญิงสาวนั่งก็ถูกปรับจนเอนราบ ชวดลพลิกตัวขึ้นไปทาบทับแล้วมอบจุมพิตวาบหวาม หญิงสาวได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่าง เขาจะทำอะไรก็น่าจะบอกกันบ้าง เล่นทำแบบนี้เป็นใครก็ตกใจ
โรฮันน่าเตรียมเผยอปากจะเปล่งเสียง หากแต่เสียงของเธอก็ดังอยู่แค่ในลำคอแกร่ง กลีบปากได้รูปร้อนผะผ่าวละเลียดอยู่เหนือกลีบปากอิ่มเป็นกระจับ แผ่วเบาและหนักหน่วงสลับกันไป เขากลืนกินทุกถ้อยคำลงลำคอมอบจุมพิตละเมียดละไมอย่างจับจองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ในเวลานี้ เวลาที่ชวดลรู้ตัวอยู่ฝ่ายเดียวว่าตั้งใจจะทำอะไร เขาก็ยังเกิดอารมณ์อันรุนแรงอยู่ภายในใจ ความหอมหวานที่อยู่ใต้ร่างยั่วยวนให้เกิดกิเลสมากเกินกว่าจะฉุดรั้งตัวเองไว้ หรืออีกทีก็เพราะไม่มีกำลังใจจะห้ามปรามได้เต็มที่
จูบครั้งนี้เป็นเหมือนสเต็ปที่ถูกยกระดับ มันเร่าร้อนกว่าทุกครั้ง เต็มไปด้วยความต้องการอันรุมเร้า เรียวลิ้นที่ทั้งสากและร้อนแทรกเข้าไปดื่มด่ำกับปลายลิ้นเล็กและนุ่มของเธอ ตวัดกวัดไกวไล่ต้อนและยั่วเย้าจนใจสาวกระตุกพรวดพราด
จากที่คิดจะผลักไสก็กลายเป็นการโอบกอด ความวาบหวามปั่นป่วนหัวใจจนอ้อมแขนเรียวบางต้องโอบกระชับร่างแกร่ง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เธอก็คงไม่มีกำลังใจจะต่อต้าน
ลมหายใจระรวยรินถึงกับสะดุด เมื่อเรียวปากร้อนฝังแน่นบนลำคอระหง ทรวงอกสาวกำลังผลิบานอยู่ในอุ้งมือของว่าที่เจ้าบ่าว ใช่...ถ้าวันนี้เธอเป็นของเขา ไม่ว่าจะยินดีหรือไม่ยินดีก็ตาม เขาไม่มีทางปฏิเสธสถานะใหม่ของตนได้ ก็เพราะเขาไม่ใช่เหรอ เธอถึงเป็นแบบนี้
“เดี๋ยวค่ะ พี่โดม...อย่าเพิ่งค่ะ” โรฮันน่าดึงสติเฮือกสุดท้ายเอาไว้ได้ เธอดันใบหน้าคมออกจากซอกคอขาวผ่อง และเขาก็พยายามจะดื้อรั้นไม่ทำตามใจ
“อะไรอีกฮันน่า”
“ฮันน่าตัดสินใจแล้ว ฮันน่าจะเป็นเจ้าสาวของพี่โดม จะหลอกหลอนพี่โดมไปจนตาย”
