บทที่ 5 ความรู้สึกสีดำ
“ทำไมคุณไม่จ้างผู้หญิงคนอื่น ฉันทนอยู่แบบนี้ไม่ได้หรอกนะ ฉันไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้ ต้องให้ฉันทนมองคุณกับคนรักของคุณพรอดรักกัน โดยที่ตัวเองถูกกักขังไว้เพื่อเป็นไม้กันหมางั้นเหรอ คุณเห็นแก่ตัวไปไหม!” น้ำตาไหลอาบแก้ม “ฉันแต่งงานกับคุณ เพราะหวังสร้างครอบครัว ฉันรักคุณ และคิดว่าคุณก็รักฉันเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลย!”
ธนานพน้ำตาคลอ บีบไหล่ภรรยา สีหน้าหม่นหมอง ไม่รู้ตัวเองควรทำเช่นไร ถ้าบอกกับพ่อว่าเลิกกับทิพย์วารี สุดท้ายแล้วท่านต้องตัดหางปล่อยวัด เขาคงไม่เหลืออะไร ทิพย์วารีสนิทกับพ่อมาก ท่านเอ็นดูเธอมากกว่าใคร ในยามที่ท่านเจ็บป่วยอาการหนัก ทิพย์วารีคือคนที่ดูแลท่าน ราวกับเป็นพยาบาลส่วนตัว ไม่มีใครกล้าเก็บของเสีย เช็ดเนื้อเช็ดตัวโดยไม่รังเกียจ เหมือนกับเธอ
“คุณพ่อรักคุณมาก ถ้าผมเลิกกับคุณ พ่อต้องโกรธ ไม่มีวันให้อภัยผมแน่”
เธอกล้ำกลืนน้ำตา “ทำไมคุณไม่พูดความจริงกับท่านไป ทำไมคุณต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ แล้วหลอกให้ฉันหลงรัก แล้วยอมแต่งงานกับคุณด้วยคะ ทำไม”
“ผมไม่กล้า..”
“ฉันไม่ได้เกลียดที่คุณไม่ใช่ผู้ชายแท้ แต่ฉันโกรธที่คุณหลอกลวง ถ้าคุณไม่รักฉัน ก็ไม่ควรทำแบบนี้ คุณปิดโอกาสให้ฉันได้เจอคนที่ใช่ ปิดโอกาสให้ฉันได้พบเจอกับคนที่หัวใจฉันต้องการจริง ๆ”
“ผมรู้ว่า พูดยังไงคุณคงไม่หายโกรธผม แต่ผมขอร้องนะทิพย์ อย่าเพิ่งหย่ากับผมตอนนี้เลย ผมขอเวลาจัดการบางอย่างก่อนได้ไหม” เขาบอกเสียงแผ่วเบา สีหน้าสำนึกผิด
“แล้วฉันต้องทนรอไปถึงเมื่อไหร่?” เธอย้อนถามเสียงแข็ง เหลือบมองชายอีกคน สีหน้าไม่พอใจ
“ไม่นานหรอกทิพย์ ผมสัญญา”
“ไม่นานของคุณน่ะ มันกี่เดือน กี่ปีกัน!”
“นพบอกแล้วไงครับว่าไม่นาน ทำไมคุณต้องเค้นถามเขาขนาดนี้ด้วย แค่นี้นพก็ลำบากใจมากพอแล้ว!” ปวรุตม์พูดแทรกขึ้นมา สีหน้าเครียด
คนสวยตวัดสายตามอง “งั้นคุณก็แต่งกับนพไปเลยไหม ฉันจะไปตอนนี้เลย คุณมาอยู่แทนที่ฉันไหมล่ะ จะได้ทำหน้าที่ทั้งบนเตียง ทั้งเรื่องอื่นไปด้วยเลย!”
“นี่เธอ!”
“รุตม์หยุด!” ธนานพห้าม ก่อนเหลือบมองคนรักสีหน้าไม่พอใจ “เอาแบบนี้ดีกว่า ถ้าคุณยอมอยู่กับผมต่อ ผมสัญญาว่าผมจะจ่ายให้คุณสองล้าน ตอนที่เราหย่ากัน”
“ไม่น้อยไปเหรอคะ คุณเป็นลูกชายประธานบริษัทเคจีกรุ๊ป แต่มีปัญญาจ่ายฉันแค่นี้เนี่ยนะ!”
“คุณต้องการเท่าไหร่?”
เธอหันมองสบตาคนพูด “สิบห้าล้าน”
ธนานพชะงัก สีหน้าเครียดขึ้นทันที
“มันจะมากไปไหม!” ปวรุตม์ตวาดสีหน้าไม่พอใจ
“ห่วงเหรอ อยากเก็บไว้ใช้เองหรือไง ให้ฉันฟ้องก็ได้นะ จะได้แบ่งสมบัติกันไปเลย!” หญิงสาวย้อนเสียงแข็ง “ถ้าฉันฟ้องรับรองว่าฉันจะได้มากกว่านี้แน่!”
“นี่เธออย่าให้มันมากเกินไปนะ เห็นนพใจดีด้วยเลยได้ใจ!” ชายอีกคนยังคงตำหนิน้ำเสียงหนัก
“หยุดรุตม์ ถ้าคุณไม่หยุด ผมจะให้คุณไปอยู่ข้างนอกเดี๋ยวนี้!”
ปวรุตม์ชักสีหน้า กัดฟันแน่น พยายามข่มอารมณ์ด้วยความเดือดดาล ทำไมคนรักต้องง้องอนถึงขนาดนี้ด้วยไม่เข้าใจเลย
“ทิพย์ เรามาตกลงกันดี ๆ ดีกว่าไหม ผมไม่อยากให้คู่เราต้องมีปัญหาเลย”
“สิบห้าล้าน!” เธอยังคงยืนยันคำเดิม “แล้วฉันจะทำตามที่คุณต้องการ หลังจากหย่า ฉันจะหายไปจากชีวิตคุณ ไม่พบเจออีก”
“ผมไม่ได้ต้องการให้คุณทำขนาดนั้น เรายังเป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่เหรอ!”
“แต่ฉันไม่อยากเจอคุณอีกแล้ว คุณเห็นคู่ขาคุณไหม ว่าเขาพูดยังไงกับฉัน แค่มองก็รู้แล้ว ว่าเขาไม่ชอบขี้หน้าฉันสักนิด!”
“นั้นมันความคิดของรุตม์ ไม่ใช่ผม!”
“คุณขัดคนรักคุณได้เหรอ?” เธอย้อนถาม ทำเอาคนฟังชะงัก
“ทำไมคุณคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้น ผมไม่ได้ฟังคนรักตัวเองจนหน้ามืดขนาดนั้น ต่อให้เรารักกัน ผมก็ยังเป็นผมเหมือนเดิม ยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับคุณอยู่”
“มันเป็นไปได้เหรอนพ ที่คุณจะรู้สึกดีกับเพศหญิง ไม่มีทางเป็นไปได้!”
“คนเรารักกัน ถูกใจกันมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงเสมอไป ไม่ใช่เหรอ”
น้ำตาคนฟังค่อย ๆ ไหลรินออกมา สบตาคนพูด เม้มริมฝีปาก ดวงตาไหววูบ
“ฉันอยากถามคุณสักคำ คุณเคยรักฉันบ้างหรือเปล่านพ”
ธนานพนิ่งงัน ทอดสายตามองคนตรงหน้า แล้วพยักหน้าช้า ๆ
“ช่วงเวลาที่ผมตัดสินใจจีบคุณ เพื่อให้พ่อสมหวัง ระหว่างที่เราศึกษาดูใจ แต่งงานจนกระทั่งตอนนี้ ผมมีความรู้สึกรักคุณ ศรัทธาในตัวคุณ จนผมอยากเปิดเผยความจริง เกี่ยวกับเรื่องของผม แต่ผมกลับไม่กล้ามากพอ”
“คุณรักฉัน ในขณะที่ฉัน ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการนะเหรอ”
“ใช่”
เธอยิ้มเยาะ ไม่เชื่อคำพูดของเขาหรอก ถ้ารักกัน คงไม่หลอกลวงกันจนถึงตอนนี้ แถมยังกล้าเอาผู้ชายคนนั้นเข้ามาที่บ้าน ราวกับต้องการเย้ยหยันกัน
“คุณคิดว่าฉันจะเชื่องั้นเหรอ ถ้าคุณรักฉันจริง คุณคงไม่หลอกให้ฉันแต่งงานด้วยหรอกนพ อย่ามาพูดให้ฉันใจอ่อน มองคุณในแง่ดีหน่อยเลย!”
“ทิพย์!”
“คุณแค่ตอบมาว่าจะจ่ายหรือไม่จ่าย ค่าเสียเวลาของฉันสิบห้าล้าน!”
เขาชะงักขบกรามแน่น “ก็ได้ผมยอมจ่าย แต่ผมจะจ่ายก็ต่อเมื่อถึงวันหย่าของเรา”
“ได้ ตกลงตามนี้” เธอสบตาสามีทางนิตินัยอีกครั้ง “แล้วกรุณาไปนอนกันที่อื่น อย่าพาคนของคุณเข้าบ้าน ฉันไม่ชอบ!”
“ผมเข้าใจแล้ว”
“ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก!”
ธนานพลุกยืน สาวเท้าไปหน้าประตู เปิดออกด้านนอก คนในห้องนิ่งเงียบกล้ำกลืนน้ำตา ยกมือปาดมันออก อยากกรีดร้องโวยวาย ทำลายทุกอย่าง ทว่าทำไปก็เท่านั้น เพราะมันคงไม่มีอะไรดีขึ้นมา ต้องหางานทำใหม่ ไม่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่านี้ จนตัวเองต้องทรมานมากขึ้น
อีกอย่าง เธอต้องหาทางใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ไม่ต้องพึ่งพาสามีอีก ต้องหาบ้าน หารถใหม่ ดูแลตัวเองให้ได้มากที่สุด เมื่อถึงวันหย่าขาด จะได้พร้อมรับสถานะสาวโสดเสียที
