บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

“พี่ว่าแกน่าจะเอาของพวกนี้ไปทิ้งได้แล้วนะบุ๋ม เวลามันก็ผ่านมาเป็นปีแล้วจะมานั่งนึกถึงอยู่ทำไมอีก”

เสียงของภาสกรที่ดังขึ้นทำให้บาริกาต้องวางกรอบรูปและดอกกุหลาบแห้งในมือลงบนโต๊ะขณะนั่งอยู่ในสวนนั่งเล่นข้างบ้าน หญิงสาววัย 24 หันไปมองพี่ชายที่เดินเข้ามาแล้วหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้าม ภาสกรเหลือบมองของที่อยู่บนโต๊ะซึ่งมีกรอบรูปดอกไม้แห้งและการ์ดในกล่องวางเรียงกันอยู่ 2-3 กล่องก่อนที่เขาจะพูดว่า

“แกจะมานั่งนึกถึงอดีตอยู่ทำไมบุ๋ม ทำไมไม่เอาเวลาที่แกมานั่งจมกับเรื่องพวกนี้ออกไปเที่ยวข้างนอกหรือไม่ก็หาแฟนใหม่มันน่าจะดีกว่านะ”

“บุ๋มยังไม่อยากคบใครค่ะ”

“แต่ดู ๆ แล้วมันก็ทำให้แกเสียเวลาชีวิตมากเลยนะที่ต้องมานั่งจมจ่อมคิดถึงคนที่จากไปอยู่แบบนี้”

คนที่จากไปซึ่งภาสกรกำลังพูดถึงก็คือ ราเมศ แฟนเก่าของบาลิกาที่คบกันในช่วงเวลาเกือบหกเดือนหากก็ถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของหญิงสาว เธอยังจดจำราเมศ ชายหนุ่มที่มีความเป็นสุภาพบุรุษทั้งยังหล่อเหลาผู้นั้นได้ดี หากแต่เขากลับจากเธอไปอย่างกระทันหันซึ่งการจากไปของราเมศนั้นก็มีภาสกรพี่ชายของเธอร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยมัน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและคาดไม่ถึงในคืนนั้นที่ราเมศมาหาเธอและภาสกรที่บ้านหลังนี้ จริง ๆ แล้วราเมศเป็นนักธุรกิจและร่วมงานกับพี่ชายของเธอหากก็เป็นเวลาไม่นาน

ช่วงแรก ๆ ทั้งสองร่วมกันทำธุรกิจสินค้าส่งออกและทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เธอคบกับเขาในฐานะแฟนแต่ในระยะหลัง ๆ เธอสังเกตว่าภาสกรเริ่มมีเรื่องขัดแย้งกับราเมศบ่อยครั้ง ภาสกรมักบ่นกับเธอว่าร่วมงานกับราเมธลำบาก ทำงานด้วยกันยาก เธอเองซึ่งเป็นคนที่อยู่ตรงกลางก็ทำใจลำบากเหมือนกัน แต่สิ่งที่เธอมั่นใจอย่างหนึ่งก็คือราเมศเป็นคนที่มีความซื่อตรงซึ่งแตกต่างจากพี่ชายของเธอ ภาสกรชอบเล่นการพนันและทำธุรกิจขัดผลประโยชน์กับเพื่อนร่วมงานบ่อยครั้ง เธอเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเกิดขึ้น

และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในคืนวันนั้น เธอไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกันแน่เพราะจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ในเวลานั้นบาลิกาอยู่ในครัวกำลังจัดขนมกับแม่บ้านพอได้ยินเสียงปืนก็รีบวิ่งออกมาดู มันดังขึ้นในห้องทำงานของภาสกร เมื่อเธอเข้าไปก็เห็นว่าภายในห้องนั้นภาสกรยืนอยู่ข้างโต๊ะทำงานของเขาและภาพที่ทำให้เธอหัวใจสลายก็คือราเมศนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ข้างลำตัวของเขามีปืนตกอยู่ ภาพนั้นยังคงติดลึกอยู่ในความทรงจำของหญิงสาวแม้มันจะผ่านไปเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว

หลังจากเหตุการณ์นั้นภาสกรก็ตกเป็นผู้ต้องหาหากแต่พี่ชายของเธอก็สู้คดีในชั้นศาลและจ้างทนายให้ว่าความจนหลุดพ้นจากคดีโดยให้เหตุผลว่าเขาไม่ได้เป็นคนลงมือทำ พี่ชายของเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่การเสียชีวิตของปรเมศเกิดจากปืนลั่น แม้ทุกอย่างยังคงดำมืดและเป็นปริศนาแต่บาลิกาก็ไม่อยากโทษใคร ๆ ทั้งสิ้นว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนั้น หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ และเอ่ยขึ้น

“พี่ภาสไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ บุ๋มไม่เป็นอะไรหรอกก็แค่คิดถึงคนที่เรารักเขาเท่านั้นเอง ว่าแต่วันนี้พี่ภาสไม่ไปทำงานเหรอคะ”

“พี่เพิ่งกลับมาจากบริษัท มีธุระสำคัญที่จะคุยกับบุ๋มนี่ไง”

“พี่ภาสมีอะไรสำคัญเหรอคะ ที่จริงไม่ต้องกลับมาที่บ้านก็ได้โทรมาหาบุ๋มก็รับสายอยู่แล้ว”

“ไม่ได้หรอกบุ๋ม เรื่องนี้น่ะมันมีความสำคัญมากและพี่คิดว่าพี่ต้องคุยกับบุ๋มไม่อยากจะคุยกันทางโทรศัพท์”

“เรื่องอะไรที่ว่าสำคัญล่ะคะ”

“เรื่องบริษัทของเรายังไงล่ะบุ๋มรู้ไหมว่าตอนนี้ next gen group ของเรากำลังประสบปัญหาอยู่”

“ปัญหาอะไรเหรอคะ บุ๋มก็เห็นบริษัทของเราทำเงินได้และแถมเมื่อปีที่แล้วก็ยังได้รับรางวัลเป็นบริษัทชั้นนำที่มียอดขายและการบริหารงานยอดเยี่ยมด้วย”

“ใช่...บริษัทของเราก็ประสบความสำเร็จในระดับนึง แต่ตอนนี้เรากำลังมีปัญหานะ รู้ไหมว่าบริษัทของเรามีปัญหาทางด้านการเงิน บุ๋มในฐานะรองประธานบริษัทก็ต้องมีส่วนรับรู้เรื่องนี้ด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel