บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

เสียงฟ้าร้องคะนองดังสนั่นหวั่นไหว สายลมที่พัดพาสายน้ำแห่งความชุ่มชื่นรดสู่ผืนแผ่นดิน ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำเวียนมาบรรจบอีกครั้ง ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ในคืนฝนตกที่แสนเย็นสบายเช่นนี้ หากเป็นคนอื่นทั่วไปคงขดตัวหลับฝันดี หรือไม่ก็อาจจะมีอ้อมแขนของคนข้างกายมาช่วยเพิ่มความอบอุ่นในหัวใจอีกทาง

“ยะ...อย่า”

เสียงแผ่วเบาจากสาวน้อยที่นอนพลิกตัวไปมาบนเตียงใหญ่ ใบหน้าบิดส่ายสะบัดไปมาทั้งที่หลับตา เนื้อตัวเกร็งสั่นสะท้านสองมือเผลอจิกลงที่ผ้าปูที่นอนลายหวาน

“มะ...ไม่”

มโนความฝันของเธอคลับคล้ายคลับคลาว่า มีชายร่างสูงใหญ่ผมสีทองนัยน์ตาสีฟ้า กำลังก้มหน้าลงมาเพื่อสัมผัสกับเรียวปากอิ่มที่เผยอรอรับอย่างโหยหา มือไม้ที่ลูบคลำผิวสาวเนียนทำให้เจ้าตัวรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น

ริมฝีปากที่ฝันหามานานแรมปีเริ่มเคลื่อนมาที่ซอกคอขาวเนียนก่อนจะร่นลงต่ำมาที่เนินอกอิ่ม แน่นอนว่าเป้าหมายคือยอดทับทิมเม็ดงามที่ชูชันล่อตาล่อใจตามแรงสะท้านของลมหายใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ แม่สาวน้อยคล้ายกับจะสะดุ้งเล็กน้อยหากแต่ดวงตาคู่นั้นยังปิดสนิท มีเพียงแค่เรือนกายที่ตอบโต้ตามมโนจิตใต้สำนึก

“จะ...จะ จอห์น”

ริมฝีปากสวยรำพึงชื่อที่เธอไม่มีวันลืมออกมา น้ำเสียงฟังดูคล้ายคิดถึงปานจะขาดใจ

จอห์นในความฝันยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะก้มลงทักทายทับทิมเม็ดงามที่พร้อมจะได้รับการเจียรไนจากริมฝีปากของตนเอง เพียงแค่ปลายลิ้นสัมผัสความงดงามที่หาที่ใดในโลกไม่พบ ก็ให้ความหวานอิ่มเอมใจจนประมาณค่าไม่ได้

แน่นอนว่าเขาไม่หยุดยั้งเพียงแค่นี้เท่านั้น เพราะนี้คือการเริ่มต้น บนกายงามยังมีสิ่งอื่นให้น่าค้นหาอีกมากมาย และผู้เดียวที่ครอบครองได้คือตนเท่านั้น

“สวย งดงามมาก”

คำชมนี้ทำให้เจ้าของเรือนกายแก้มแดงด้วยความเขินอาย ร่างเล็กระทวยอ่อนแรงไร้การต่อต้านกับสัมผัสเสน่หา ที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต

“ฉะ ฉัน มะ ไม่”

เหมือนจะต่อต้านเมื่อเขาโน้มริมฝีปากเจียรไนความงามอีกครั้ง แต่ท้ายสุดกลับทนต่อไฟเสน่หาที่เริ่มเผาผลาญอีกครั้งไม่ได้ และครั้งนี้เป้าหมายไม่ใช่แค่ยอดทับทิมสีหวานที่กำลังเชยชม หากแต่เป็นความงามที่ซ่อนไว้ในเรือนร่างที่กำลังจะเป็นของตน

คนในฝันกระทำทุกอย่างตามความปรารถนา โดยที่เจ้าตัวไม่อาจต่อต้าน ใบหน้าคมเลื่อนต่ำลงจนถึงหน้าท้องเนียน ร่างของสาวน้อยบิดส่ายไปมาคล้ายจะขยับหนี แต่เมื่อเขาคนนั้นเชยชมความงามคล้อยต่ำลง ริมฝีปากกำลังจะทักทายดอกไม้แรกแย้ม

“มะ...ไม่”

เสียงตะโกนพร้อมกับนัยน์ตาคู่สวยที่ลืมขึ้นในความมืด

เจ้าของชุดนอนสีหวานเปิดไฟสว่างรอบห้องยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เหลือบตาไปมองที่ข้างฝาห้องตอนนี้เกือบตีหนึ่ง สายฝนที่พรำลงมาไม่ขาดทำให้กระจกใสมัวจนมองไม่เห็นอะไร

“ฝันอีกแล้วเหรอ” เธอล้มตัวบนที่นอนอันเดิมพลางลืมตามองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย

หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจตนเองว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องราวก็ผ่านมาเกือบสองปีแล้วแต่ทำไมจึงไม่เคยลืมสิ่งที่เขาทำไว้แม้แต่นิดเดียว

ยิ่งพักหลังภาพทุกอย่างแจ่มชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้น จนบางครั้งเองเจ้าตัวก็ไม่แน่ใจว่านี่คือฝันหรือความจริงกันแน่

“ไปหาหมอดีไหมเนี่ย เรา” เจ้าตัวเหลือบมองไปเห็นซองยาบนหัวเตียงที่เขียนชื่อเธอ น้ำทิพย์ จิตละออ ยานอนหลับที่ไปร้องขอให้แพทย์จ่ายยาให้เป็นกรณีพิเศษเมื่อครั้งพาเจ้านายไปหาหมอ

น้ำทิพย์ จิตละออสาวน้อยวัยยี่สิบสามปีกำลังสับสนกับความรู้สึกของตนเองในเวลานี้ เธอรู้ว่าคนเราไม่มีวันลืมเลือนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว แต่เปลี่ยนชีวิตให้เป็นไปในทิศทางที่แตกต่างจากเดิมได้อย่างไม่น่าเชื่อ

สาวน้อยพยายามข่มตาให้หลับและบอกกับตนเองว่า พรุ่งนี้จะไม่ฝันแบบนี้อีกแล้ว แน่นอนว่าเมื่อหลับตาลงครั้งใด ภาพฝันเหล่านั้นก็จะมารบกวนจิตใจเธออีกเป็นแน่

“ยายจ๋า ช่วยทิพย์ด้วย”

น้ำทิพย์ตัดสินใจลุกขึ้นมาสวดมนต์อีกครั้ง โดยครั้งนี้ระลึกถึงญาติเพียงคนเดียวที่จากไปเมื่อสองปีก่อน หวังให้กุศลผลบุญที่อุทิศให้ผู้ล่วงลับนำความร่มเย็นคืนมาสู่ตน

นับว่าคืนนี้ฟ้ายังเมตตาเมื่อกราบหมอนเป็นครั้งที่สาม น้ำทิพย์ก็เข้าสู่นิทราได้อีกคราสมใจปรารถนา แต่ยามที่เจ้าตัวหลับสนิทจิตใต้สำนึกกลับนำพาเธอสู่ห้วงแห่งความสุขอีกครั้ง

สุขเดียวที่พบเจอในชีวิตที่หญิงสาวไม่มีวันลืม และความสุขนั้นจะขาดผู้ชายที่ชื่อจอห์น แมกเทียร์ไม่ได้เสมอ …

ฟาวเลอร์ออฟเลิฟ จังหวัดนนทบุรี

เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่ามีคนกำลังเข้ามาด้านใน เจ็ดนาฬิกาตรงแบบนี้คงเป็นใครไม่ได้นอกจากผู้ช่วยคนเก่งที่ไม่เคยมาทำงานสายแม้แต่นิดเดียว

“ทำไมทำหน้าแบบนั้น เมื่อคืนนอนไม่หลับอีกหรือไง” เสียงทักทายจากด้านในดังมาแต่ไกล

รานี จันทร์ฉายหญิงวัยกลางคนที่ยังคงเค้าความงามไม่สร่างซาเจ้าของร้านฟาวเวอร์ออฟเลิฟ ร้านดอกไม้เล็กๆ แต่เป็นที่รู้จักของลูกค้ามากมาย

“ค่ะ สงสัยทิพย์คงต้องไปหาหมออีกแล้ว ยาหมดแต่ไม่ได้ไปเอา” น้ำทิพย์วางกระเป๋าลงพร้อมกับถุงน้ำเต้าหู้ในมือที่ถือติดมาฝาก

“น้ำเต้าหู้อีกแล้ว” รานีทำหน้าเบื่อเมื่อเห็นถุงน้ำเต้าหู้ที่น้ำทิพย์หิ้วมาฝากทุกเช้า

“ก็เขาบอกว่ามันมีสารอนุมูลิสระต้านมะเร็งนี่คะ พี่นีกินหน่อยก็ดี” หญิงสาวอมยิ้ม รู้ดีว่ายังไงเสียเจ้าของร้านก็ต้องไม่ปฎิเสธความหวังดีนี้แน่นอน

“พี่ไม่ได้เป็นมะเร็งนะ แค่เนื้องอกเท่านั้น”

นางบ่นเสียงเบาแต่ก็ยอมแกะถุงเทใส่แก้วแล้วดื่มรวดเดียวหมด ความห่วงใยที่น้ำทิพย์มีต่อตนไม่เคยเปลี่ยน เป็นสายใยที่ผูกกันเหนียวแน่นของทั้งคู่ที่เกินคำว่าเจ้านายลูกน้องไปเสียแล้ว

น้ำทิพย์ยิ้มอย่างพอใจแล้วเริ่มต้นลงมือทำงานที่คั่งค้างต่อให้เสร็จ หน้าที่ประจำในร้านฟาวเวอร์ออฟเลิฟคือ การจัดแต่งให้ดอกไม้นานาชนิดอยู่ในสภาพที่พร้อมส่งต่อให้กับบุคคลที่ลูกค้าต้องการ

แม้จะเป็นร้านดอกไม้เล็กๆ ที่อยู่ย่านชานเมืองแต่ด้วยฝีมือและความสามารถที่สร้างสมมานานนับปี ก็ทำให้ฟาวเวอร์ออฟเลิฟเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เพราะปากต่อปากที่ลูกค้าประทับใจและบอกต่อกันไปเรื่อย

“เย็นนี้มีงานจัดดอกไม้ที่โรงแรม...ทิพย์ไปกับพี่บุญชอบนะ” รานีเตือนงานสำคัญที่รับไว้ตั้งแต่เดือนก่อน

บุญชอบ จันทร์ฉายหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ สามีสุดที่รักของรานีเปิดประตูเข้ามา พร้อมส่งรอยยิ้มให้กับศรีภรรยาที่เริ่มลงมือประดิษฐ์ดอกไม้เหมือนเคยทุกวัน

“ยาหลังอาหารจ้ะ” เขาส่งถ้วยยาพร้อมแก้วน้ำให้

สายตาที่ทั้งสองมองสบกัน ทำให้น้ำทิพย์รู้สึกมีความสุขเมื่อได้เห็นความรักความเอื้ออาทรที่ไร้ความต่างเรื่องอายุมาเป็นตัวกั้น ไม่มีวันไหนที่หญิงสาวจะไม่เห็นความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันอย่างแนบแน่น นับตั้งแต่ที่มาโชคชะตานำทางให้มารู้จักทั้งสอง

“เย็นนี้ไปช่วยทิพย์นะ ไม่ต้องห่วงร้านเดี๋ยวฉันจัดการเอง” รานีย้ำกับสามีอีกครั้ง

รานีรู้ดีว่าบุญชอบไม่ยอมปล่อยให้ตนคลาดสายตาแม้แต่นิดเดียว นับตั้งแต่ที่แพทย์ตรวจพบว่า ในร่างกายของเธอมีก้อนเนื้อส่วนเกินอยู่ในช่องท้อง

หลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากเข้ารับการผ่าตัดจนหายดีเป็นปกติ สามีสุดที่รักก็ยังไม่เลิกหวาดระแวงในอาการป่วย เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้ง

“ทิพย์ว่าสักบ่ายสองจะไปถึงโรงแรมค่ะ งานเขาเริ่มห้าโมงเย็นใช่ไหมคะ” น้ำทิพย์วางแผน

เธอเองก็ไม่อยากปล่อยให้รานีต้องเหนื่อยเก็บร้านเพียงลำพัง งานจัดดอกไม้ตามโรงแรมส่วนใหญ่แล้วจะทำทุกอย่างไปจากร้านให้พร้อม แล้วเมื่อถึงสถานที่ก็แค่จัดวางให้เข้าที่ หรือมีบางส่วนไปทำที่หน้างานเท่านั้น

“ไปทำงานให้เต็มที่จะได้ไม่เสียชื่อร้าน ลูกค้าอุตส่าห์แนะนำให้นะ เห็นว่าเจ้าของงานเป็นชาวต่างชาติไม่ต่อราคาสักคำ ทิพย์ก็รู้ เพราะฉะนั้นทำให้เต็มที่ดอกไม้สวยงานเขาออกมาดี เราก็อาจจะได้งานต่อ” รานีอยากให้ทุกคนเลิกห่วงและให้ความสำคัญกับงานมากกว่า

“โอเคค่ะ งั้นลุยเลยทำให้เสร็จจากร้านไปถึงทิพย์จะจัดให้สวยเป็นสวรรค์บนดินเลย”

หญิงสาวกุลีกุจอเร่งงานในมือให้เสร็จเรียบร้อย สองแรงแข็งขันช่วยกันสรรสร้างช่อดอกไม้งามตามคอนเซปที่ลูกค้าต้องการ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel