บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ข่าวดี 

 

 

 

“กรี๊ดดดดด........” 

เสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงโวยวายดังออกมาจากภายในคฤหาสน์หลังหรูสไตล์ยุโรป ราเชนทร์ก้าวขาลงจากรถก่อนจะรีบเดินเข้าไปภายในด้วย แววตาดุดัน  

“หยุดเดี๋ยวนี้นะธันการ” 

 สิ้นเสียงหนาทุกคนในบ้านต่างพากันหันมามองราเชนทร์ รวมถึงเด็กชายอายุ9ปี ที่กำลังยกแจกันชูขึ้นเหนือหัวเพื่อจะปาลงพื้น ครั้นเห็นสีหน้าดุของราเชนทร์เขาก็รีบวางแจกันลงพลางกอดอกชักสีหน้าหงุดหงิด  

“อา บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าอาละวาดแบบนี้”  

ผมมองดูเจ้าหลานชายหัวดื้อ ที่สอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ ตั้งแต่ที่พี่ราชิพี่สาวของผมเป็นโรคประสาท  

ผมก็ต้องรับภาระดูแลหลานชายที่มีอาการคลุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าผมจะหาพี่เลี้ยงหรือพยาบาลมาดูแลเขากี่คนก็ถูกเขาสั่งสอนจนต้องลาออกกันหมด  

“ผมไม่ต้องการเธอ”  

ธันการชี้ไปที่พี่เลี้ยงคนที่19ของเดือนนี้ พลางกอดอกแสดงสีหน้าหงุดหงิด....จนราเชนทร์ถึงกับปวดขมับเพราะหากจะปล่อยธันการไว้แบบนี้โดยไม่มีพี่เลี้ยงก็เกรงว่าโตไปเขาคงจะมีอาการรุนแรงกว่าเดิมจนไม่มีใครห้ามปรามได้ 

อีกทั้งธันการ ไม่สามารถไปเรียนที่โรงเรียนเหมือนเพื่อนคนอื่นๆได้ดั่งนั้นจึงต้องจ้างครูมาสอนส่วนตัว ทว่าทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเก่งเกินไป อีกทั้งยัง ฉลาดจนน่าแปลกใจ สำหรับเด็กวัยนี้ 

นั้นคือเรื่องเดียวที่ราเชนทร์รู้สึกภูมิใจกับหลานชายคนนี้อย่างมาก 

“มาหาอาซิ” 

น้ำเสียงหนาเอ่ยก่อนที่ธันการจะเดินเข้ามาหาราเชนทร์ด้วยแววตาเศร้าหมอง แม้ภายนอกเขาจะดูก้าวร้าวทว่าลึกๆธันการแล้ว ประสบพบเจอกับเรื่องที่ทำร้ายจิตใจเขามาตั้งแต่ 5 ขวบ  

เด็กชายต้องเห็นพ่อและแม่ของเขาทะเลาะกันอย่างหนัก แม้ตอนนั้นธันการจะเด็กมาก ทว่าเขาก็ได้ซึมซาบความรู้สึกไม่ดีช่วงนั้นเอาไว้ ก่อนจะมารุนแรงขึ้นหลังจากที่พ่อกับแม่เลิกกัน และฝ่ายไปมีภรรยาใหม่ ส่วนแม่ก็เสียใจจนกลายต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลจิตเวช  

ทำให้เด็กคนนี้มีภาวะอารมณ์ไม่คงที่มากกว่าเด็กคนอื่นๆ ราเชนทร์จับมือของธันการ เดินขึ้นไปบนห้องนอนซึ่งมีแค่ราเชนทร์ที่ธันการยอมเชื่อฟังและเกรงกลัวอยู่  

“คืนนี้อาจะเล่านิทานให้ผมฟังก่อนนอนใช่ไหมครับ?” 

“อืม อย่างที่เราชอบไง แต่มีข้อแม้ว่าต่อไปนี้ธันห้ามอาละวาดทำลายข้าวของอีก สัญญากับอาซิ” ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มพลางยกนิ้วขึ้นเกี่ยวก้อยกับหลานชาย...  

“ครับ ธันสัญญาแต่อาห้ามให้พี่คนนั้นมาดูแลธันอีกน่ะครับธันไม่ชอบเธอเลย” 

“ก็ได้ครับ แต่ธันก็ห้ามดื้อนะโอเคไหม  

“ครับ” 

… 

ก็อก ก็อก ก็อก  

ดวงตาคู่สวยเหลียวไปมองที่ประตู ห้อง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิด  

“พ่อ มีอะไรหรือเปล่าคะ” วารินทร์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพราะยังคงน้อยใจที่โดนวัณลพตบหน้าไม่หาย... 

“เอาไปทาสิ” มือหนายื่นยาทารอยแดงให้วารินทร์  

“อะไรคะพ่อ...” 

ดวงตาคู่สวยมองยาตลับเล็กสีขาวในมือพลางหยิบขึ้นมาดู เธอพินิจตลับยาในมือก่อนจะนึกขบขันในใจ 

พ่อคิดว่าเอายามาง้อเเล้วหนูจะหายงอนหรอ?  

ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองบิดาด้วยความขุ่นเคืองก่อนจะปิดประตูห้องใส่วัณลพอย่างไม่ใยดี  

“เห้อ...ยัยเด็กคนนี้นิ” 

วัณลพส่ายหัวเบา ๆ กับพฤติกรรมของลูกสาวก่อนเดินกลับไปที่ห้อง โดยมีโสมระดาแอบมองพวกเขาด้วยความไม่พอใจ  

‘นังวาเพราะแกตารามลูกฉันถึงบาดเจ็บ คิดว่าฉันจะให้แกมีความสุขหรอคอยดูต่อไปเถอะฉันคนนี้แหละจะหาผัวให้แกเอง’ 

ภายในห้องนอนดวงตาคู่สวยมองตลับยาในมือด้วยรอยยิ้มจางๆ   

ตบหนูแล้วคิดจะเอายามาง้อหรอพ่อ เชอะ ไม่มีทางซะหรอก 

แม้ในใจจะแอบขุ่นเคืองพ่อทว่า วารินทร์ไม่เคยเกลียดพ่อเลยสักนิดเพราะตั้งแต่ที่แม่ของเธอหนีไปกับพี่วอร์ พี่สาวของเธอตั้งแต่เธออายุ 4ขวบ พ่อก็คือคนในครอบครัวเพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่มานับตั้งแต่นั้น 

เขาเลี้ยงดูเธอมาจนโตก่อนจะมีโสมระดา  

เพราะแบบนั้นแล้ว...เธอจึงไม่เคยเกลียดฝ่ามือที่อุ้มชูเธอมาเลย 

แม้วันนี้มันจะกลับมาทำร้ายเธอก็ตาม... 

 

(แชทกลุ่ม) 

สี่เสือสาว 

น้ำพริก: เฮนโหล เพื่อนๆ พรุ่งนี้อย่าลืมมาเรียนกันละ  

คลีน: ไม่ไป  

หอม: ต้องไปคะ @คลีน  

คลีน: ขี้เกียจอะ 

น้ำพริก: พอเลย ไม่มา ก็ออกจากแก็งเราไปเลย 

คลีน: ไปก็ได้ ค่า แหม๊....ล้อเล่นเองแล้วนี่ยัยวาไปไหนเนี่ย @วารินทร์  

หอม: นั่นดิโหลๆ ยัยเฉิ่ม เธอหายไปไหนเนี่ย @วารินทน์ 

วารินทร์: ไม่ได้หายไปไหนคะ ยัยต้นเหม็นเพื่อนรัก  

คลีน: 555+ ....จุกๆ  

น้ำพริก: เครๆเจอกัลพรุ่งนี้ จุ๊บบายจ๊ะ แม่เรียกกินข้าวละ  

คลีน: -_____-    

คลีน: หิวอะ แต่ไม่ใช่ข้าว ? 

หอม: หิวไร? ขี้? 55+  

วารินทร์: 555 

น้ำพริก: ???? 

 

มือเรียววางมือถือลงบนเตียงใบหน้าคลี่ยิ้ม แอบขบขันในความช่างแซวของเพื่อนสนิท ก่อนที่เธอจะเดินไปยืนมองตนเองหน้ากระจกบานใส มือเรียวยกขึ้นแตะแก้มขาวนวลซึ่งมีรอยแดงที่พ่อตบอยู่จางๆ  

“เจ็บตัวอีกแล้วนะวา” 

 หญิงสาวเอ่ยกับตนเองด้วยแววตาเศร้าหมอง ครั้นนึกแล้วมันก็น่าเสียใจอยู่ไม่น้อย ที่พ่อทำแบบนี้กับเธอ 

... 

“พี่วัณ ตอนนี้บ้านของเราขัดสนเรื่องเงินมากอยู่แล้วนะพี่ ฉันว่า ยัยวาเรียนไปก็เท่านั้นให้แกออกมาช่วยพี่ทำงานดีกว่าไหม อีกอย่างครูที่โรงเรียนก็ทวงค่าเทอมมาแล้วด้วยนะพี่”  

โสมระดาเป่าหูวัณลพทว่าเมื่อเธอพูดจบวัณลพก็เบี่ยงตัวหันไปอีกฝั่ง  

“ไม่ได้หรอกโสม วา ยังเด็กอีกอย่างพี่ยังทำงานไหวอยู่ โสมไม่ต้องกังวลหรอก” 

“หึ แล้วแต่พี่ละกันฉันก็แค่บอกด้วยความหวังดี จะอดตายกันทั้งบ้านอยู่ละ”  

โสมระดาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงหงุดหงิดพลันหันตัวไปอีกฝั่ง เพราะงอนวัณลพที่ไม่ทำตามเธอพูด  

มือเรียวกำกระชับผ้าห่มแน่นแววตาวาวโรจน์ด้วยความโมโหที่แผนการยั่วยุของเธอไม่สำเร็จ  

 

เช้าตรู่ 

@โรงเรียน 

“ทางนี้วา” เสียงตะโกนเรียก ของสามเพื่อนสนิท โบกมือให้ 

วารินทร์ใต้ตึกเรียน ขนาดใหญ่  

“ทำไมวันนี้มาช้าจังละ”  

น้ำพริกเอ่ยถาม พลางมองสำรวจวารินทร์  

“เอ๊ะ แล้ว..แก้มไปโดนอะไรมา” หญิงสาวยิ้มจางๆเพราะไม่อยากจะบอกเพื่อนสนิทว่าเธอถูกบิดาตบตี 

“เล็กน้อยหนะ รีบไปเรียนกันเหอะเดี๋ยวสายน่ะ” 

หญิงสาว รีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจับมือเพื่อนสนิท เดินขึ้นไปบนห้องเรียน บรรยากาศภายในห้องเรียนเงียบสนิท ครั้นครูสาวเดินถือหนังสือเข้ามาวางลงบนโต๊ะ  

สายตากวาดมองนักเรียนแต่ละคน พลันหยุดชะงักที่วารินทร์ 

“วารินทร์ทิพย์ หมดคาบรอเจอครูหน่อยนะ” 

“ค่ะ ครู” 

“...ครูให้รอเจอเรื่องไรอะวา” 

ต้นหอมกระซิบถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสนิท ทว่าวารินทร์กลับส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมครูถึงเรียกพบเธอ  

หญิงสาวก้มหน้าก้มตาเรียนอย่างตั้งใจ วารินทร์เป็นเด็กเรียนดีคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นดาวโรงเรียนที่เด่นทั้งด้านวิชาการและกิจกรรมจนหาตัวจับได้ยาก  

ตอนนี้เธอเรียนอยู่ม.6กำลังจะจบเต็มทีเหลืออีกเพียงแค่1เทอมเท่านั้น เธอก็จะได้ย่างเข้าสู่ช่วงชีวิตมหาลัย 

ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนหน้าตาผิวพรรณสะสวยทำให้มีหนุ่มๆมาตามจีบเธอแจ แต่วารินทร์กลับไม่สนใจเพราะเธอสนใจแค่การเรียนเท่านั้น แม้ทามหนุ่มหล่อนักบาสประจำโรงเรียนมาตามจีบตามเปย์อยู่ตลอดแต่เธอก็ไม่ได้คิดจะสนใจเขาเหมือนคนอื่นๆ 

กริ่ง!!! 

เสียงกระดิ่งดังเตือนเวลาหมด คาบเรียน  

“เดี๋ยวพวกแกไปกันก่อนเลยก็ได้นะ ฉันขอไปหาครูก่อน” 

วารินทร์บอกกับกลุ่มเพื่อนสนิท พลางรับเร่งเก็บหนังสือลงกระเป๋า  

“ให้พวกเราไปด้วยเหอะยัยวา พวกฉันเป็นห่วงแกอ่ะ” คลีนเอ่ยขึ้นด้วยแววตากังวล วารินทร์จึงต้องยินยอมให้เพื่อนรักทั้งสามตามไปด้วย 

 

(ห้องพักอาจารย์) 

ร่างเล็กในชุดนักเรียนหญิง ผมยาวสลวยรวบตึงติดโบว์ตราประจำโรงเรียนเดินเข้าไปภายในห้องพักครู โดยที่เพื่อนทั้งสามคนรออยู่ด้านนอกอย่างห่วงๆ  

“นั่งซิ วารินทร์”  

คุณครูสาวบอกอนุญาตลูกศิษย์ของเธอด้วยรอยยิ้ม ขณะกำลังก้มหน้าหยิบเอกสารในลิ้นชักออกมายื่นให้วารินทร์  

“อะไรคะครู ...?” 

 หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ดวงตามองกระดาษตรงหน้า ก่อนจะรับมากวาดสายตาอ่านตัวอักษรทีละตัว แก้มขาวนวลปรากฏรอยยิ้มเจือจางๆอย่างยินดี 

“เรื่องจริงใช่ไหมคะอาจารย์ หนูจะได้ทุนไปเรียนมหาลัยจริงๆใช่ไหมคะ” วารินทร์ ดีใจอย่างมาก เพราะมันคือสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอได้เรียนต่อ 

ครูสาวยิ้มพลางพยักหน้ายืนยัน  

“ครูดีใจด้วยนะ” 

“ขอบคุณมากนะคะครู” 

วารินทร์ยกไหว้ลาคุณครูสาวก่อนจะรีบวิ่งออกไปบอกข่าวดีกับเพื่อนสนิททั้งสามคนของเธอ ครั้นพวกเขาได้รู้ก็ดีใจกับวารินทร์เป็นอย่างมาก ทั้งสี่คนกอดคอกันกระโดดดีใจ จนครูสาวที่มองอยู่ภายในห้องยิ้มตามไปด้วยอย่างอดไม่ได้ 

“มีเรื่องดีแบบนี้ต้องฉลอง ไปพวกเราวันนี้ฉันเลี้ยงเอง” น้ำพริกพูดขึ้นก่อนที่พวกเขาทั้งสี่คนจะวิ่งกอดคอกันไปโรงอาหาร  

@โรงอาหาร 

“ยัยน้ำพริก ที่แกบอกจะเลี้ยงก็คือลูกชิ้นปิ้งเนี่ยน่ะ” หอมเอ่ยขึ้นพลางมองลูกชิ้นปิ้งในมือ ที่น้ำพลิกซื้อเลี้ยงคนละไม้  

“เอาน่าก็ฉันมีตังแค่นี้นิ มาชนนน” เด็กสาวสี่คนหัวเราะร่าสนุกสนาน ในระหว่างนั่งกอดคอกันกินลูกชิ้นปิ้งภายในโรงอาหารของโรงเรียน  

“เอาเด็ก ๆ ป้าเลี้ยงเพิ่มอีกคนละสองไม้ จ๊ะ ดีใจกับหนูด้วยนะวารินทร์” 

“ขอบคุณมากนะคะป้าสวย” 

 ทั้งสี่คนขอบคุณคุณป้าเจ้าของร้านลูกชิ้นปิ้งพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพราะพวกเธอคือลูกค้าประจำของป้าสวยมาตั้งแต่ม.ต้น 

“ไหนๆก็ได้ของเพิ่ม งั้นพวกเราชนนน!!!” 

“เออนิ ว่าแต่ใครกันนะคือคนที่มอบทุนให้ยัยวา”  

คำถามของหอมทำให้ทุกคนหยุดชะงักหันมามองหน้ากัน  

“นั้นดิฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน...เพราะหากฉันรู้ว่าเขาคือใครฉันจะได้ตอบแทนบุญคุณเขาให้ดีที่สุดเลย” วารินทร์ครุ่นคิดใน หัวหลังจากที่เริ่มอยากจะเห็นหน้าคนใจดีคนนั้น 

 

 

 

 

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel