บท
ตั้งค่า

Chapter 3 เสือจ้องขย้ำเหยื่อ

แพรนรีรีบก้าวออกไปให้พ้นเนื้อที่ถนน ไปยืนรวมอยู่กับกลุ่มผู้คนที่ยืนหลบฝนไม่ต่างจากเธอ หญิงสาวล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบกระดาษทิชชูออกมาซับน้ำออกจากใบหน้าและลำตัว ยังดีที่ฝนเพิ่งตกไม่นาน ทำให้เสื้อผ้าของเธอไม่ทันได้เปียกถึงขั้นยับเยิน

คิดแล้วช่างน่าขัน...เธอสมควรที่จะขอบคุณละอองฝนพวกนี้มากกว่า เพราะถ้าไม่มีมัน เธอก็คงเป็นผู้หญิงโง่ๆ ที่โดนคู่หมั้นกับเพื่อนสาวรวมหัวกันหลอกสวมเขาให้เธอต่อไป แต่เธอก็ยอมแพ้ไม่ได้ พวกเขาต้องได้รู้รสของการถูกทรยศหักหลังเหมือนอย่างเธอ

หญิงสาวเดินเข้าไปในอาคาร เวลาในตอนนี้งานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดกว่าสิ่งใด ขอดีของแพรนรีอีกข้อ เธอจะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนให้เสียงานเด็ดขาด ความรับผิดชอบเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด ในขณะเม็ดฝนข้างนอกเริ่มซาลง เหมือนเมื่อครู่มันแค่จงใจบอกอะไรบางอย่างกับเธอเท่านั้น

ชายหนุ่มเจ้าของรถคันหรูสบถเสียงดังหลังพวงมาลัย “วันอะไรนักหนาวะ” ไม่เพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวสำหรับเขาวันนี้ แต่เรียกได้ว่ามหกรรมสิ่งไม่คาดคิดตบเท้าเข้าหาเขาแทบทุกชั่วโมงตลอดหนึ่งวันมานี้ ทั้งมารดายื่นคำขาดให้เขาปิดบริษัทส่งออกที่เขารัก ทั้งลียาสาวทรงโตบอกว่าท้องกับเขาเพื่อบีบให้เขายอมแต่งงาน

ความเป็นสุภาพบุรุษที่มีในตัวของเขาก็ทำให้ไม่สามารถบอกตรงๆ ทั้งที่เขาอยากบอกในแทบขาดว่าเขาไม่เคยพลาดการป้องกันกับใครสักครั้ง เพราะเขาเกลียดที่จะลงเอยกับใคร เกลียดการผู้ติด เกลียดทุกสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของเขา

หญิงสาวก้าวเข้าไปในงานเลี้ยงหรูหรา งานที่รวมเหล่าเอเจนซี่โฆษณาและคนในวงการบันเทิง เธอก้มสำรวจมองชุดของตัวเองก่อนเข้างานอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินเฉิดฉายเข้าไปในงาน

“เธอมาสายสิบนาที” เสียงแปร๋นของสาวปากแดงวัยสี่สิบปีเศษร้องทักหญิงสาว ก่อนที่ขาของเธอจะก้าวผ่านประตู

“มีอุบัติเหตุนิดหน่อย” หญิงสาวตอบอ้อมแอ้ม แม้มันจะไม่ใช่วิธีของคนรับผิดชอบที่จะอ้างเหตุผล แต่มันก็คงเป็นทางออกเดียวที่เธอมี

“ข้ออ้าง” ผู้หญิงคนนั้นบอกเสียงห้วนจัด ระเบียบเคร่งครัดเป็นสิ่งที่นางถือปฏิบัติมาตลอด ไม่อย่างนั้นคงไม่คร่ำหวอดอยู่ในวงการนี้มานาน แม้กระทั่งฮาริส มหาเศรษฐีนักการเงินทายาทเจ้าของธนาคารชื่อดังของสวิส พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้าพ่อธุรกิจโฆษณายังวางใจใช้บริการนางทุกครั้ง

“ฉันพูดเรื่องจริง ขอตัวไปทำงานก่อนนะ” หญิงสาวบอกพร้อมกับเดินเลี่ยงออกไป

“ฉันหักเงินเธอ 100 ยูโร” เสียงของหญิงปากแดงร้องตามหลังเธอ

หญิงสาวอ่าปากหวอ หันกลับทันที แม้ว่าที่นี่จะเป็นที่เดียวที่ยอมจ่ายค่าจ้างนักเรียนไทยอย่างเธอสูงลิ่ว แต่ขบวนการเขี้ยวลากดินคงไม่มีใครเกินนางไปได้

“100 ยูโร” หญิงสาวทวนคำเสียงสูง “มันสามสิบเปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างที่ฉันได้รับเลยนะ”

“ใช่ ถ้าเธอยอมรับไม่ได้ ฉันก็ไม่ว่าอะไร ออกไปได้เลย” สาวปากแดงบอกอย่างไม่ยีหระ รู้ดีว่าค่าจ้างที่นางจ่ายมีค่าต่อนักเรียนทุนอย่างแพรนรีมากแค่ไหน

แพรนรีพยักหน้าอย่างจำยอม เธอต้องทำงานพิเศษหาเงินอีกหลายปี ทางที่ดีอย่าตัดช่องทางของตัวเองด้วยเรื่องแค่นี้เลย ในเมื่อเธอเองก็ยอมรับได้อย่างเต็มปากว่าตัวเองผิดที่มาสายกว่าเวลานัด แม้จะยังไม่เริ่มงาน แต่เวลาก็สำคัญที่สุดสำหรับคนต่างชาติ

“ฉันไปทำงาน” หญิงสาวบอกเสียงเบา ชี้มือเข้าไปข้างใน

งานของเธอคือผู้ช่วยจัดเครื่องดื่มหลังเคาร์เตอร์บาร์ หรือบางครั้งต้องยายไปอยู่ในครัว หรือออกมาเสิร์ฟ แล้วแต่ว่างานเลี้ยงนั้นๆ ตำแหน่งไหนจะขาด

“วันนี้เธออยู่หลังบาร์” สาวปากแดงสั่ง

แพรนรีหันมามองผู้ว่าจ้างอย่างแปลกใจ ที่เธอลงทุนงัดชุดสวยราคาแพงที่สุดของตัวเองออกมาจากตู้ก็เพราะว่าเธอต้องออกมาเดินเฉิดฉายอวดสายตา กับตำแหน่งงานที่นางเพิ่งสั่งไปเมื่อวาน

แน่นอนว่าตำแหน่งที่เธอได้รับคำสั่งเมื่อวานค่าจ้างสูงกว่าตำแหน่งใหม่ที่เธอเพิ่งได้รับเมื่อครู่ และสำหรับตำแหน่งวันนี้ถ้าถูกหักไปหนึ่งร้อยยูโร ก็เท่ากับว่าค่าจ้างของเธอหายไปเกือบครึ่งของปกติ

หญิงปากสีเพลิงคนนั้นไล้สายตามองสภาพมอมแมมของหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นางเบ้ปากเล็กน้อยอย่างเหยียดๆ

“สภาพของเธอคงไม่เหมาะที่จะออกมาเสิร์ฟ”

“แต่คุณ...” หญิงสาวกำลังจะอธิบาย ทว่าก็โดนเบรกเอาไว้เสียก่อน

“ความพร้อมของเธอไม่เพียงพอ แล้วฉันเป็นมืออาชีพมากพอ ถ้าเธอยืนยันที่จะไม่ทำ ฉันก็ไม่ห้าม” สาวปากแดงไล่อีกรอบ เพราะรู้ว่ายังไงหญิงสาวก็ต้องทำ

หญิงสาวยกมือขึ้นเหมือนต้องการเบรกทุกอย่าง พยักหน้าเบาๆ “โอเคๆ...ทำ!” เธอคงไม่มีทางเลือกมากไปกว่านี้

ในเมื่อเธอคำนวณเวลากับรายได้เข้าไปในบันทึกของวันไปแล้ว แต่คงต้องกลับไปแก้ยอดเงินเสียใหม่ ซึ่งมันก็ยังดีกว่ากลับไปลบยอดนั้นออกแต่ก็ยังเสียเวลาไปอยู่ดี ทำอย่างนี้เหมือนการบังคับตังเองไปในตัว

หลังจากที่ก้าวพ้นแม่สาวปากสีเพลิงไปแล้ว แพรนรีสบถกับตัวเองเบาๆ กึ่งประชด

“นี่มันวันอะไรของฉันเนี่ย...ซวยตั้งแต่ลืมตาตื่นเลยมั้ง”

“สวยเป็นบ้า” ชายหนุ่มเจ้าของเสียงพูดห่อปาก มองไปที่หญิงสาวหลังบาร์

แพรนรีกำลังวุ่นอยู่กับการจัดเตรียมของตรงหน้า เธอไม่ได้สนใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างไปมากกว่างานตรงหน้า เธอต้องทำงานตรงหน้าให้เสร็จทันเวลาที่ยังเหลืออยู่อีกน้อยนิดก่อนที่แม่สาวปากสีเพลิงจะมาหักค่าจ้างเธออีก ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เธอ

“คนนี้ฉันจอง” แมทริวสะกิดให้เพื่อนมอง สายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มของจ้องอยู่ที่ร่างเพรียว แพรนรีกลายเป็นเป้าหมายของเสือหนุ่มสามตัวในทันที

นัยน์ตาสีสนิมของฮาริสที่ยืนหันหลังวาดไปตามทิศทางที่เพื่อนบอก สะดุดที่ใบหน้าหวาน ร่างโปร่งอ้อนแอ้นเข้าเต็มเปา หากแต่เขาก็ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้า เพราะเธอคนนั้นกำลังสนใจทำงานของเธอ รวมไปถึงแขกหนุ่มๆ ที่ยืนรายรอบกับร้อยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยไม่ต่างกัน

“อยู่ตรงนี้ รอดูฝีมือฉัน” แมทริวบอกเพื่อนสองอย่างนึกสนุก เดินตรงไปที่สาวน้อยนางนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel