3
“พี่มิรา เขาเห็นนาวเป็นแค่เครื่องแก้แค้นของพี่ใช่ไหมคะ หรือเป็นอย่างผู้หญิงคนอื่น ได้แล้วก็เขี่ยทิ้ง นาวไม่น่าโง่เลย” หทัยรัตน์น้ำตาไหล สมเพชตนเองที่โดนถอนหมั้นมาตั้งนานแต่ยังไม่รู้ตัว แม่เองก็คงไม่มีเงิน ได้ของจากการหมั้นหมายคราวนั้นจำยอมรับเพื่อประทังชีวิตส่งให้เธอได้เรียนต่อ ให้เธอได้มีชีวิตสู้กับโลกที่โหดร้ายกับเธอต่อไป อย่างน้อยความสุขสบายทำให้เธอไม่เจ็บมากเกินไปกว่าเดิมกับเรื่องราวมากมายที่เกิดกับชีวิต
ถ้าพ่อเลี้ยงเธอไม่เข้ามาในชีวิตแม่อีกเมื่อพ่อจากไป และไม่ทิ้งภาระหนักหน่วงไว้ให้ มะนาวอยากรู้จริงๆ ชีวิตเธอจะเป็นอย่างนี้ไหมนะ
จากคุณหนูผู้ร่ำรวยกลายเป็นนักศึกษาติดดินธรรมดา แม้ก่อนหน้าเธอไม่ใช่คนเรื่องมาก ใช้ชีวิตหรูหราแต่ก็อดอาย สมเพชตนเองไม่ได้เมื่อเพื่อนบางคนเริ่มหายไปจากชีวิต และคนที่หวังพึ่งพาต่อจากนี้ก็คงไม่มีอีกต่อไปแล้ว หทัยรัตน์เดินมายืนริมหน้าต่างมองสนามหญ้าหน้าบ้านหลังใหญ่ซึ่งต้องจากไปอีกไม่นาน
มะนาว…การรอคอยสิ้นสุดลงแล้วตอนนี้ ต้องตัดใจจริงหรือนี่ แต่การรอคอยที่แสนทรมาน คงไม่ง่ายกับการตัดใจจาก
ผู้ชายที่เคยหลงรักหมดหัวใจ ต่อจากนี้ชีวิตเธอต้องยอมรับให้ได้ใช่ไหม ว่าเธอและเขาจะมีแต่ความห่างเหิน เสมือนไม่เคยรู้จัก ที่แล้วมาให้จมหายในอกที่กลัดหนอง แล้วเมื่อไหร่แผลนั้นจะแห้งสนิท หญิงสาวน้ำตาไหลกับรักที่รอคอยและได้มาเพียงสายตาว่างเปล่าและการเดินหนีจากกันไปยังกับเธอเป็นโรคร้ายแรงที่สามารถติดต่อกันเพียงการพูดจา แต่ก่อนจากกันหัวใจกลับอยากขอพบพูดจากับเขาอีกสักครั้ง อย่างน้อยขอได้ยินจากปากเขาอีกครั้ง วันก่อนเธอยังมึนงง มะนาวรู้ว่าเธออยากหลอกให้ตนเองหวังลมๆ แล้งๆ แต่ทำอย่างไรได้ รักไปแล้วให้ตัดให้ขาดเพียงชั่วคืนมันยากยิ่งนัก
หทัยรัตน์มายืนรอรถศศินกุลหน้าประตูบ้านเขา คนขับรถออกมารับจดหมายเห็นหญิงสาวคู่หมั้นเก่าเจ้านายหนุ่ม รีบเดินหลบหน้า แต่หทัยรัตน์รีบเรียก “นายธรณ์ใช่ไหม คุณศินกลับมาแล้ว ฉันขอไปรอในบ้านได้ไหม มีใครอยู่หรือเปล่า”
ธรณ์ตกใจ รู้สึกสงสารแต่รีบปฏิเสธ “เข้าไม่ได้ครับ ขอโทษ ถ้ายังไงรอคุณศินที่นี่นะครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ”
ธรณ์รีบเข้าในบ้านมะนาวเกือบถอดใจหันหลังให้บ้านหลังใหญ่เพื่อกลับบ้านแต่ก่อนจะได้ทำรถคันหรูที่เคยเจอหน้ามหาวิทยาลัยมาเทียบหน้าประตู เธอดีใจเดินเข้าไปเคาะประตูระหว่างเขารอประตูเปิด
“เธอมาทำไมอีก” คนในรถลดกระจกหน้าตาเย็นชา มะนาวใบหน้าถอดสี คงไม่ต้องถามอะไรอีกแล้ว ยิ่งเห็นผู้หญิงข้างๆ เกาะแขนชายหนุ่มแจ มองเธออย่างไม่พอใจมะนาวรีบถอยห่างจากรถ “รบกวนเวลาแล้วขอโทษ” หญิงสาวถอยหลังจ้องหน้าหล่อเหลาให้เต็มตาเป็นครั้งสุดท้าย กระจกรถปิดลงรถหรูวิ่งเข้าในบ้าน หทัยรัตน์ตาแดงก่ำ อายที่จะร้องไห้ต่อหน้ายามที่มองเธออยู่ หันหลังหารถเพื่อกลับบ้าน
จบแล้วจริงๆ อย่าหน้าด้านอีกเลย มะนาว ตอนนี้ นายศศินกุลก็เหมือนดวงจันทร์ เหมือนความหมายในชื่อนั้น เขาอยู่สูง เยือกเย็นเหน็บหนาวหากไปใกล้หรือแตะต้อง คราวก่อนได้ใกล้เพราะจันทร์โน้มมาหาแต่เมื่อจันทร์ในตอนนี้มีแค่ความหนาวเหน็บเย็นชาเมื่อใกล้ ดื้อด้านไปก็เหมือนผู้หญิงงี่เง่าให้อับอายต่อคนรอบข้าง มะนาวสะอื้นเบาๆ ปิดปากไม่ให้แท็กซี่ได้ยิน
หลายวันต่อมา
ศศินกุลกลับเข้าบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึง ธรณ์เดินมารับเจ้านาย “คุณแม่กลับมาแล้วหรือวะ”
“ยังครับนาย”
“ไปเอาเหล้ามาหน่อย”
ธรณ์เดินไปยังเคาเตอร์บาร์ ศศินกุลกรอกบรั่นดีเข้าปากสู่ลำคอ อารมณ์เสียที่การท่องราตรีคืนนี้มีเหตุให้ต้องกลับก่อน
มิรา ผู้หญิงคนนั้นมากับคนรัก ผู้หญิงที่เคยเห็นเขาเป็นตัวตลก เธอช่างส่ำส่อนไม่คู่ควรเลยที่เขาจะมอบหัวใจให้ในตอนนั้น ผ่านมากี่ปีเขายังลืมไม่ได้ หล่อนสวมเขาให้ตนกับเพื่อนอีกคน คิดภาพในอดีตแล้วศศินกุลก็อ๊วกออกมา
อ๊วกๆๆๆ
“นายครับ”
“ไม่เป็นไร นายรอก่อนดื่มด้วยกันเดี๋ยวมา” ศศินกุลตรงไปห้องน้ำ
“ไม่ละครับคุณนายรู้โดนด่าเปิง”
“น่าคุณแม่ไม่อยู่ หงอไปได้”
“ครับ ครับ”
ศศินกุลอยากรู้ความเป็นไปของพวกเดชะพิทักษ์ อยากรู้ว่ากลายเป็นเศรษฐีล้มละลายอย่างที่มารดาบอกไปจริงเท็จแค่ไหน ถามจากธรณ์คงรู้ดี ศศินกุลยิ้มเยาะ แม้เมื่อครู่เห็นมิราทำตัวเชิด สวย ไม่เปลี่ยน แต่แค่คิดว่าข้างในหญิงสาวไม่ได้มีความสุขนัก เขาก็ยิ้มออกมาได้อย่างผู้ชนะ
แม้เคยรักมากแต่ก็เกลียดมาก ชายหนุ่มเลือดร้อนเช่นเขาทำลายคนบ้านนั้นได้ทุกคน ดูอย่างน้องสาวายายมิรา แม่เด็กน้อย เขายังเคยได้ลิ้มลอง แม้เธอจะไม่เป็นสับปะรดเอาเสียเลยแต่มันก็สะใจเขาจริงๆ
หลังจากนั้นแม้โดนจับให้หมั้นกับเด็กสาวคนนั้นแต่เขาก็หาทางออกโดยการไปเรียนเมืองนอกเสีย โชคเข้าข้างเมื่อสุดท้ายมารดาก็ไม่บังคับแถมยอมเสียเงิน เพชรนิลจินดา ที่เคยใช้หมั้นหมายฝ่ายนั้นเมื่อไม่อยากเกี่ยวดองกับคนมีแต่ตัว
“อ้าวดื่ม” ศศินกุลสะใจรินบรั่นดีให้ธรณ์เมื่อกลับมาจากห้องน้ำ ฝ่ายนั้นคออ่อนแต่ขัดนายไม่ได้ เมื่อน้ำเมาเข้าท้องก็เล่าเรื่องราวบ้านเดชะพิทักษ์เป็นฉากๆ เท่าที่รู้
เดชะพิทักษ์แตกแยกเพราะพ่อเลี้ยงติดการพนันหรือ น้ำเน่าจริงๆ ศศินกุลยิ้มร้าย สนุกสะใจกับเรื่องราวที่ได้ยิน
