ตอนที่ 6
นี่ถ้าไม่พาผู้หญิงมาค้างเมื่อคืนเธอต้องคิดว่าเขาเป็นเกย์แน่ๆ
ก็เห็นผู้หญิงเปลือยกายอาบน้ำต่อหน้ายังทำท่าเฉยเหมือนไม่มีความรู้สึก แถมดูโกรธๆ เอาด้วยซ้ำที่เธอบังอาจเข้ามาใช้ห้องน้ำแสนหวงของเขา
เอ๊ะ! หรือเพราะรูปร่างหน้าตาเธอไม่ยั่วใจพอจะทำให้เขาเกิดอารมณ์ได้?
ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านเตลิดเปิดเปิง จึงต้องรีบยุติความคิดของตนเองลงที่ว่า จะลองอยู่ดูสถานการณ์ไปสักหน่อยก่อน ถ้าไม่เข้าทียังไงค่อยเผ่น
หลังจากทำการบ้านที่อาจารย์ให้มา และทบทวนตำราอีกเล็กน้อยก็ได้เวลาที่จะต้องไปเรียน
แต่ป่านนี้เจ้าของห้องก็ยังไม่กลับมา ทั้งทีเวลานี้ของเมื่อวานเขามาถึงบ้านแล้ว
พุธิตาไม่อยู่รอ พอได้เวลาก็ออก เรื่องเรียนต้องมาก่อนเป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
แต่เมื่อเลิกเรียนและกลับถึงที่พัก พบว่าในบ้านยังว่างเปล่าไม่มีเงานายฝรั่งของป้าเตือน
เที่ยวเก่งเหมือนกันแฮะ ตาคนนี้ ออกไปติดๆ กันตั้งสองคืน เอ...หรือจะทุกคืนเสียก็ไม่รู้ ท่าจะฉลองความเป็นโสดให้กับตัวเองจนฉ่ำ
แต่แล้วกลางดึกพุธิตาก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะเสียงที่ได้ยินอีหรอบเดียวกับที่ได้ยินเมื่อคืนก่อน
เสียงครางของผู้หญิงอีกแล้ว!
คราวนี้ไม่ถี่มากเหมือนคราวก่อน แต่ก็กระสันรัญจวนใจไม่แพ้กัน ฟังดูก็รู้ว่าเป็นคนละคน
เธอเอานิ้วอุดหูทั้งสองเสียโดยเร็ว ไม่อยากได้ยินเสียงที่ทำให้หัวใจสั่นหวิว ทุกปลายประสาทเขม็งตึง เพราะคอยแต่จะนึกเห็นภาพที่กำลังเกิดขึ้นที่ห้องข้างๆ มีแค่ฝาผนังบางๆ กั้น
ตาบ้า! พาผู้หญิงมานอนได้ทุกคืน เซ็กส์จัดชะมัด!
ผลก็คือเธอไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปสองคืน เพราะประสาทที่เครียดเขม็งกับเสียงกระเส่าเขย่าอารมณ์กลางดึก
เช่นเดียวกับวันก่อน ผู้หญิงที่เขาพามากลับออกไปเมื่อตอนเช้า คนละคนกับเมื่อวานจริงๆ แต่ผมยาวและผิวคล้ำเหมือนกัน สงสัยสเปกที่เขาชอบจะแบบนี้
พุธิตาลืมนึกถึงตัวเองไปว่าเธอก็ตาโต ผมยาว ผิวเข้ม เช่นเดียวกับผู้หญิงที่คิดว่าเป็นสเปกของนายจ้างชั่วคราวเหมือนกัน
หญิงสาวเสิร์ฟอาหารเช้าเป็นข้าวต้มกุ้งโดยไม่พูดไม่จา
เจ้านายชั่วคราวของเธอเองก็ดูว่าจะกลัวดอกพิกุลร่วง เพราะไม่พูดอะไรนอกจากตั้งหน้าตั้งตาอ่านข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ และจัดการกับอาหารเช้าจนเสร็จแล้วก็ออกไปเลย
หญิงสาวแอบย่นจมูกตามหลังไปอย่างหมั่นไส้
งานบ้านวันนี้ไม่มีอะไรมาก เพราะสองวันที่ผ่านมาทำไปมากแล้ว พุธิตาจึงแอบงีบเสียครึ่งวันเพราะความอดหลับอดนอนมาสองคืนติด เผื่อยังไงคืนนี้มีรายการที่ว่าอีก
อย่างกับหนังเรื่องเดิมที่ฉายซ้ำอีกรอบ หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องใหม่ก็ได้ แต่ผู้แสดงนำฝ่ายชายคนเก่า เมื่อเสียงอย่างเคยแว่วมากระทบประสาทหูของคนที่นอนเบิกตาโพลงรอคอยเวลาที่มันจะเกิดขึ้น
คืนนี้เธอไม่ได้เผลอหลับไปก่อนที่เขาจะกลับมาเหมือนทุกครั้ง แต่เธอตั้งตารอทีเดียวไม่ใช่เพราะอยากฟังเสียงสุดแสนเร้าอารมณ์นั่นหรอก แต่เพราะประสาทมันตื่นตัว และเครียดรอล่วงหน้าเสียแล้วเมื่อคิดว่าเดี๋ยวเขาต้องกลับเข้ามา และกิจกรรมอย่างว่าก็จะเกิดขึ้นอีกพร้อมกับเสียงครวญครางพิศวาสบาดจิตของน้องนางงามเมือง
เฮ้อ...นี่ผู้หญิงทุกคนจะต้องร้องเสียงอย่างนี้เวลาที่กำลังทำ...อย่างว่ารึไงนะ?
หลังจากเสียงนั้นเริ่มบรรเลงไปได้สองนาที พุธิตาก็ทนไม่ไหวคว้าผ้าห่มกับหมอนออกจากห้อง โดยแกล้งกระแทกประตูปิดดังปัง
นอนห้องรับแขกก็ได้วะ!
แต่ถึงแม้ว่าจะย้ายตัวเองหนีออกมาห่างจากเสียงนั้น เธอก็ยังตัวแข็งกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาอยู่บนโซฟา คอยมองไปที่ประตูห้องนอนแขกที่ปิดสนิทบ่อยครั้งอย่างอาฆาตมาดร้าย
ขอให้เขาเป็นเอดส์ตาย!
ขณะเธอจ้องเป๋งไปที่ประตูห้องที่มีเสียงรบกวนทุกคืน ครึ่งชั่วโมงต่อมาประตูห้องนั้นก็เปิดออก
ร่างสูงในเสื้อคลุมเดินผ่านออกมาแล้วก็ต้องหยุดกึก เมื่อสบเขากับสายตาของคนที่นอนมองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้วจากโซฟาในพื้นที่ส่วนที่เป็นห้องรับแขก
คิ้วเข้มบนใบหน้าคมสันขมวดมุ่นเมื่อเอ่ยปากถาม ขณะที่เธอดีดตัวขึ้นนั่งมองเขาหูตาขวาง
“มานอนอยู่ตรงนี้ทำไม ทำไมไม่นอนในห้อง?”
พุธิตาเชิดหน้า ตอบเสียงแค่นๆ
“หนีเสียงเปรต”
“หือ? ว่าไงนะ”
คิ้วเข้มขมวดมุ่นมากเข้าไปอีกจนหน้าผากย่นเป็นริ้ว
“ฉันว่าฉันหนีเสียงเปรต มันร้องโหยหวนเหลือเกิน อะฮ้า..อะฮื้อ..อูย..ซี้ด...” เธอเลียนแบบเสียงจงใจกระแหนะกระแหน หดไหล่หดคอทำท่าขนลุก“รำคาญรูหูดีเหลือเกิน”
“เสียงเป็ด?”
รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นบนเรียวปากเหมือนจะขัน เป็นยิ้มแรกจริงๆ ที่เธอเห็นจากเขา
“เป็ดอะไรทำไมร้องเสียงอย่างนั้น”
พุธิตาทำหน้างง แล้วก็เกือบจะหลุดเสียงหัวเราะออกมา เมื่อนึกขึ้นได้ ตาทอมนี่คงไม่รู้จักคำว่า เปรต กลายเป็นเป็ด
“ไม่ใช่ดั๊กค์ โกสท์น่ะ ผีที่คอยาวๆ อาร์ยูโนว์?”
พุธิตาอธิบายไทยปนอังกฤษมั่วไปหมด ลืมไปสนิทเลยว่าตาฝรั่งคนนี้พูดไทย “แข็งแรง” ทีเดียว ไม่จำเป็นต้องเอาภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ มาประกอบให้มันฟังน่าขบขันก็ได้
เขายักไหล่พลางสั่นศีรษะ
“ผีที่ว่ามันร้องเสียงเซ็กซี่แบบที่คุณทำจริงๆ อ่ะ?”
