บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

คิดแล้วฉันก็คอตก รู้งี้ไม่น่าทำมิชชั่นบ้าๆ บอๆ นั่นเลย ตอบตกลงคบเขาเป็นแฟนไปก็สิ้นเรื่อง

“เฮ้อ...ฝันลมๆ แล้งๆ ใครเขาจะมาชอบหล่อนยะ ยัยตะวัน”

“ขอโทษที่ผมมาช้า” เสียงที่ดังขึ้น ทำให้ฉันสะดุ้ง ก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมองทันที คนตรงหน้าฉันคือเขาไม่ผิดแน่

“เออเนส”

“ผมคิดจนหัวแทบระเบิดว่าของทั้งสิบอย่างที่ตะวันอยากได้คืออะไร สุดท้ายผมก็คิดออก” น้ำเสียงเขาฟังดูหอบๆ นิดหน่อย แต่เขาก็ยังคงส่งยิ้มให้ฉันอยู่ ในมือเขามีช่อดอกไม้ติดมาด้วย

“มีอะไรบ้างคะ” ฉันถามไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงมาก สามในสิบ มันไม่ได้มากมายหากเออเนสจะเอาใจฉัน เพราะเกือบแปดข้อที่ฉันเขียนลงไป มันคือความหมายเดียว

“หนึ่งในของขวัญที่ตะวันอยากได้...คือผม” คำตอบที่ได้ยินจากเออเนส ทำเอาฉันตะลึง ใบหน้าของฉันตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แน่ๆ ฉันอายยามสบตาเขา ซึ่งตอนนี้เออเนสเองก็สบตาฉันอยู่ เขามองฉันด้วยแววตาที่ต่างไปจากผู้ชายคนไหน แววตาแบบนี้ทำให้ฉันสะท้าน

“ใช่ไหมครับ”

“กะ…ก็ใช่ แล้วอีกสองข้อล่ะคะ” ต่อให้ข้อแรกจะใช่ แต่ฉันก็ยังไม่ยอมล้มมิชชั่นนี้ไปง่ายๆ แน่นอน ว่าแต่คืนนี้ฉันจะรำอะไรถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดีนะ

“เอ้…” ฉันอุทานออกมา เมื่อเห็นเออเนสหยิบโบว์มาแปะบนตัวอีกครั้ง

“ข้อแรกที่ตะวันต้องการคือผม ข้อที่สองก็เหมือนกัน”

“เหลือข้อสามค่ะ” ฉันพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ก็ยากเมื่อคนตรงหน้าคือเออเนส นี่ฉันชอบเขามากมายขนาดนี้เลยเหรอ แต่ก็รู้สึกดีจัง

“ข้อสาม ข้อสี่ ข้อห้า สิ่งที่ตะวันต้องการก็ยังคงเป็นผม” เอ่ยจบ เออเนสก็หยิบโบว์จากกระเป๋ากางเกงออกมาติดตามตัว สิ่งที่เขาทำตกเป็นเป้าสายตาของแขกและพนักงานภายในร้านอาหารอยู่ไม่น้อยเลย แต่เวลานี้ฉันไม่สนใจสายตาของคนเหล่านั้นหรอก เพราะคนที่ฉันสนใจคือผู้ชายที่มีโบว์แปะอยู่ตามตัวคนนี้ต่างหาก

“ส่วนข้อท้ายๆ ผมเดาว่าตะวันอยากได้ดอกไม้สวยๆ สักช่อ” เออเนสยื่นช่อดอกไม้แสนสวยมาให้ฉัน และฉันก็ไม่ลังเลที่จะรับมันมาถือไว้ นี่คือคำตอบว่าเขาเดาใจฉันถูก

“ผมทำมิชชั่นผ่านไหมครับ”

“อืมม์….ผ่านค่ะ” ฉันตอบยิ้มๆ ส่วนเออเนสนั้นแสดงสีหน้าว่าโล่งอกแบบสุดๆ นี่เขาเดาใจเธอได้ยังไง ว่าสิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือเขา เพราะฉันเขียนชื่อเออเนสลงในกระดาษไปตั้งแปดใบ ส่วนใบที่เก้าเขียนว่าดอกไม้ และใบสุดท้ายฉันไม่ได้เขียนอะไรลงไป

“ดีใจจังที่ได้ยินแบบนี้”

“แต่คุณมาช้าไปเกือบชั่วโมง ฉันจะปรับแพ้ฟาวล์ดีไหมนะ”

“อย่าใจร้ายกับผมแบบนั้นเลย ผมมีเหตุผลที่มาช้า” เขาเอ่ยแก้ต่างให้ตัวเอง แววตา สีหน้า ช่างดูน่ารัก ขัดกับรูปร่างอันใหญ่โตนัก

“เหตุผลอะไรคะ”

“ผมรอดอกไม้สวยๆ ช่อนี้อยู่ เพราะตอนที่ไปสั่งดอกไม้ที่ร้านหมด ผมต้องนั่งรอพนักงานจากฝั่งเอามาส่งให้ พอได้ก็รีบมาหาตะวันทันที” คำตอบที่ได้ยินยิ่งทำให้ฉันยิ้มแก้มแทบแตก ชักจะเก็บอาการไม่ค่อยจะอยู่แล้วสิ

“เหตุผลฟังขึ้น พอให้อภัยได้”

“แบบนี้ เราก็คบกันได้แล้วใช่ไหม”

“อื้อ” ฉันพยักหน้ารับอายๆ เกิดมาก็เพิ่งเคยถูกคนมาขายขนมจีบอย่างจริงๆ จังๆ แถมเขายังหล่อและโรแมนติกมากด้วย แบบนี้ฉันจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง...กรี๊ดดดด

เออเนสคว้าฉันไปกอดจนฉันแทบหายใจไม่ออก ตอนนี้ฉันได้แต่ซุกใบหน้าอยู่กับแผงอกเขา กลิ่นโคโลญจน์ผู้ชายลอยมาเตะจมูก นั่นทำให้ฉันหวั่นๆ

‘กลิ่นผู้ชายนี่มันช่างหอมชื่นใจดีจังเลยยยย’

ใครจะไปคิดว่าการหนีความเบื่อหน่าย หนีอาการซึมกะทือเพราะอกหักรักคุดจากกรุงเทพฯ มาถึงเกาะพะงัน ฉันจะได้พบกับเออเนสในค่ำคืนของงานฟูลมูนปาร์ตี้ และตอนนี้ฉันก็ตอบตกลงที่จะคบกับเขาไปหยกๆ

“เราไปเดินเล่นกันไหม” ทันทีที่เขาคลายอ้อมกอดออก เสียงทุ้มก็เอ่ยชวนฉัน

“ค่ะ” ฉันเอ่ยรับ รู้สึกดีกับสรรพนามคำว่า ‘เรา’ อย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้โลกของฉันกลายเป็นสีชมพูไปหมดแล้ว

เออเนสกุมมือฉันไว้ตลอดเวลา เขาพาฉันไปเดินเล่นที่ชายหาด บางจังหวะเขาก็เลื่อนมือขึ้นมาโอบเอวฉันไว้ บรรยากาศตอนนี้ก็แสนจะโรแมนติก และจู่ๆ ฉันกับเขาก็จูบกัน

ฉันเสียจูบแรกไปแล้ว...กรี๊ดดดด!!!

ยามที่ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน มันช่างน่าตื่นเต้น ร่างกายฉันคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ วิ่งผ่าน มันวาบหวามเสียวซ่าน สยิวๆ จนต้องจิกปลายเท้า โอ๊ย…ฉันอธิบายความรู้สึกไม่ถูก แต่ถามว่าชอบไหม ฉันตอบได้เลยว่า…มาก

กรี๊ดดดดดด!!!

เสียงกรีดร้องของณิศาที่ดังจนฉันแสบแก้วหูมากถึงมากที่สุด ก็เพราะหลังจากฟังฉันเล่าเรื่องของเออเนสให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อนสาวสุดที่รักก็ส่งเสียงกรีดร้องราวกับผีเข้าออกมา จนฉันต้องยื่นมือไปปิดปากไว้

“ไม่ต้องกรี๊ดแล้ว หูฉันจะแตก” ยัยเพื่อนตัวแสบพยักหน้ารับรู้ ฉันจึงลดมือลง แต่แทนที่จะหยุดกลับกรี๊ดออกมาอีกยก

กรี๊ดดดดด!!!

“พอแกพอ ขืนกรี๊ดอีก เดี๋ยวคนอื่นจะหาว่าไฟไหม้”

“ก็ฉันตกใจนี่ยะ อยู่ๆ แกก็มาบอกว่ากำลังมีแฟน ทั้งๆ ที่วันก่อนหมาหงอยดีๆ นี่เอง” เอ่ยจบณิศาก็ยักคิ้วใส่ฉัน ท่าทางของเพื่อนยิ่งหน้าหมั่นไส้

“ก็มีแบบงงๆ เหมือนกัน”

“ใคร…ใช่คนที่แกนั่งคุยด้วยคืนนั้นหรือเปล่า”

“ก็อื้อ” ฉันพยักหน้ารับ ก่อนที่จะได้ยินเสียงแหลมๆ ดังมาจากเพื่อนตรงหน้าอีก

“เฮ้ย! จริงอ่ะ”

“จริง…ว่าแต่แกรู้ได้ไงว่าเป็นเขา” คิ้วของฉันขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ณิศาได้แต่ยิ้มแห้งๆ อย่างมีเลศนัยให้ ก่อนจะเฉลย

“เอ้า! ก็เมื่อคืนตอนที่แกนั่งคุยอยู่กับหนุ่มหล่อปริศนา ฉันนี่แหละที่นั่งจับตามองแกอยู่ตลอดเวลา” ณิศาชี้นิ้วมาที่ตัวเอง

“มิน่าล่ะ ฉันถึงรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ”

“แกรู้สึกด้วยเหรอยะ เห็นเอาแต่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หัวเราะสนุกสนานเชียว” คำแซวของคนข้างๆ ทำเอาฉันหน้าแดงก่ำ

“อย่าแซวน่า เดี๋ยวตีเลย” เอ่ยจบ ฉันก็เงื้อมือขึ้นสูง พร้อมจะฟาดคนชอบแซวได้ทุกเมื่อ

“ถ้าตีนี่ไม่บอกอะไรดีๆ ให้รู้นะเอา”

“บอกอะไรยะ ว่ามา อย่าลีลา”

“จะบอกว่า แฟนแกน่ะดีกรีไม่ธรรมดา เขา…”

“คุยอะไรกันอยู่ครับสาวๆ” เสียงทักของโจนาสที่ดังขึ้น พลอยทำให้บทสนทนาระหว่างฉันกับณิศาจบลงไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel