พ่อเลี้ยงบำเรอกาม /2
ปรมัยไปขอกู้เงินจากสุดารัตน์ แต่สิ่งที่เธอต้องการแลกเปลี่ยนไม่ใช่ดอกเบี้ย หากเป็นการแต่งงาน แน่นอนปรมัยปฏิเสธและจากไปทันทีพร้อมกับทิ้งความฝันที่ยังสร้างไม่เสร็จเหมือนมันไร้คุณค่าใดๆ แต่สุดารัตน์ก็ติดต่อไป พร้อมกับอ้อนวอนขอร้องให้เขาแต่งงานกับเธอ เขาจะได้เงิน 10 ล้าน ส่วนเธอจะได้คนดูแล
ชายหนุ่มรู้ว่าสุดารัตน์เป็นโรคร้ายรุมเร้าเธอหลายโรค และเธอก็ยังอยากมีชีวิตต่อเพื่อมองดูความสำเร็จของแสงดาวผู้เป็นลูก แสงดาวในขณะนั้นอยู่ในวัยเพียง 11 ปี ยังไม่สามารถดูแลผู้เป็นแม่ได้ เขาขอเวลาคิด 3 วัน และตอบตกลงหลังจากนั้น
“พ่อ!”
เสียงแหลมเล็กพาให้สะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยิน ปรมัยถอนใจแล้วหันไปตวาดใส่ยัยตัวดีที่ชอบเรียกเขาแบบนี้
“พอเลย ฉันบอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าไม่ให้เรียกพ่อ”
“งั้นเรียกผัวได้ไหมล่ะคะ”
แสงดาวจีบปากจีบคอ แนบแก้มกับท่อนแขนกำยำของเขาอย่างออดอ้อน เธอทำเช่นนี้เป็นประจำเหมือนความเคยชิน
“อยากโดนตบหรือไง” แล้วก็ถูกสะบัดเต็มแรงเหมือนเคย
“ถ้าตบด้วยปาก ดาวก็อยากโดนมานานแล้ว เมื่อไหร่พ่อจะตบดาวเสียทีล่ะคะ”
“แสงดาว!! แค่ฉันให้เธอมาเที่ยวผับตามอำเภอใจก็มากพอแล้ว อย่าสร้างเรื่องปวดหัวเพิ่มให้อีกเลย ขอร้องเถอะ” ปรมัยแกะมือหนวดปลาหมึกออก แกะข้างซ้ายข้างขวาก็คว้าหมับ กว่าเธอจะยอมปล่อยเขาต้องบีบหยิกเนินนางเป็นการตอบแทน
แสงดาวสะดุ้งปล่อยมือแล้วกระดกก้นหนี แต่พอพ่อเลี้ยงรูปงามเดินเข้าห้องทำงาน เธอก็รีบซอยเท้าตามไปติดๆ
“พ่อขา จะหนีดาวไปอีกนานแค่ไหน”
“ต่อเมื่อเธอจะเลิกเรียกฉันว่าพ่อ”
“พี่ปิง” เธอก็เรียกชื่อเล่นของเขาซะเลย “แต่อยากเรียกผัวมากกว่า”
“ฉันไม่ใช่ผัวเธอ อยากได้ผัวมากนักออกไปหาเอาจากข้างนอกโน่น ผู้ชายกลัดมันมีให้เลือกเพียบ หลับตาลากเข้าห้องน้ำสักคนสองคน”
“ดาวไม่ใช่ตัวเงินตัวทองที่จะลากผู้ชายไปกินในห้องน้ำ แต่ถ้าเป็นพี่ปิง อยู่ที่ไหนดาวก็กินได้ ฮิๆๆ”
“แต่ฉันไม่ให้เธอกินง่ายๆ หรอกแสงดาว อย่าพยายามเสียให้ยากเลย ฉันนี่ระดับพ่อเธอเลยนะ”
“ก็แค่พ่อเลี้ยง ผัวแม่ หรือไม่ใช่นะ” แสงดาวเคาะนิ้วชี้กับแก้ม ทำท่าครุ่นคิดที่น่าหมั่นไส้จนอยากจับเด็กบ้าโยนออกไปข้างนอก
“จะพูดจะจาอะไร กรุณาให้เกียรติแม่ตัวเองด้วย”
ปรมัยกระแทกลมหายใจออกมาดังๆ เขาล่ะปวดหัวกับแม่จอมยุ่งนี่มากถึงมากที่สุด แต่ต้องรับปากจะดูแลเพราะไม่อยากให้สุดารัตน์เป็นกังวลใจ แค่นี้ร่างกายของเธอก็ย่ำแย่มากพอแล้วไม่อยากให้สภาพจิตใจเสื่อมโทรมเหมือนร่างกาย
แต่ก็นั่นล่ะ
ถ้าแสงดาวยังทำตัวเหลวไหลขนาดนี้ ก็คงไม่มีแม่คนไหนสบายใจได้
“คุณพ่อขา แม่ใครๆ ก็รักนะคะ แต่ผัวแม่นี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่าคิดว่าดาวไม่รู้นะคะ ว่าห้องแม่มีอีกห้องที่ซ่อนไว้”
“สอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง”
“เรียกว่าหาช่องว่างให้กับตัวเองจะเหมาะกว่านะคะคุณพ่อ”
“แก่แดดแก่ลมนักนะ”
“ก็อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปรมัยอนุญาตให้คนข้างนอกเข้ามา
“เฮียปิงครับ น้ำเพชรโทร.มาบอกว่าไม่สบายมากขึ้นเวทีโชว์วันนี้ไม่ได้ครับ”
“งั้นก็ให้คนอื่นขึ้นแทนไปสิ”
“ไม่มีใครพร้อมเลยครับเฮียปิง ทิพย์เกสรขาเจ็บ แก้วกานดาก็มีประจำเดือน”
“มีเมนแล้วมีปัญหาตรงไหนวะ บอกแก้วกานดาว่าถ้าไม่โชว์ก็ลาออกไป”
ท่าทีของปรมัยดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมากที่โคโยตี้ตัวหลักๆ มาหยุดงานกะทันหัน ส่วนที่เหลือก็มีปัญหาทั้งนั้น แสงดาวมองพ่อเลี้ยงที่มีสีหน้าเป็นกังวลอย่างนึกเห็นใจ
“แต่ชุดที่ต้องใส่ ถ้าใส่แล้วมีอะไรให้สะดุดตาแขกก็จะบ่นเอาได้นะครับ”
“บ่นก็บ่นไปสิวะ กูขายโชว์ ไม่ได้เป็นพ่อเล้า”
“ให้ดาวขึ้นแสดงแทนได้นะคะ” จู่ๆ แสงดาวก็เสนอตัว ปรมัยยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่าน คนไม่เป็นงานอย่างแสงดาวจะช่วยอะไรได้
“หุบปากเถอะน่ะ”
“คุณพ่ออาจจะคิดว่าดาวทำไม่เป็น แต่เดี๋ยวคุณพ่อจะต้องเปลี่ยนความคิด ดาวจะทำให้คุณพ่อเห็นว่า...ดาวก็มีดีเหมือนกัน”
ว่าแล้วแสงดาวก็จับมือปกรณ์ผู้ดูแลผับ ปกรณ์ยอมเดินนำแสงดาวออกไปเพราะไม่เห็นว่าจะมีทางไหนดีกว่าทางนี้ คุณหนูแสงดาวเธอสวย น่ารัก รูปร่างก็น่าฟัดออกขนาดนี้ คงจะเรียกแขกได้มากพอดู ปกรณ์ไม่ยอมให้ปรมัยปิดกั้นโอกาสดีๆ แบบนี้แน่
ปรมัยสบถเสียงขรม เขาปล่อยให้แสงดาวขึ้นเวที และถ้าเธอทำเขาขายหน้างานนี้มีเฮแน่ เขาจะสั่งสอนเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมให้หายซ่า
แสงดาวอยู่ในชุดวาบหวิว เสื้อเอวลอยชายขาดลุ่ยสีขาว กางเกงขาสั้นผ้าแนบเนื้อ มีขอบตะเข็บรั้งเป้าจนเห็นกลีบเนื้อเป็นพูๆ เธอคนใส่ก็ยังขัดเขินและเข้าใจว่าเหตุใดโคโยตี้ที่มีประจำเดือนใส่กางเกงตัวนี้ไม่ได้ มันอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างของคนขี้เกียจที่อาจจะมีรายได้จากทางอื่นเป็นทุนอยู่แล้วจึงไม่แคร์หากถูกไล่ออก แต่นี่คือโอกาสของแสงดาว เธอจะทำให้ปรมัยต้องมองตาค้าง และกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัวในค่ำคืนนี้
