พ่อเพื่อนบำเรอรัก /8
“ฉันจะเชื่อเธอก็ได้”
มายาวดีดีใจจนยิ้มกว้างออกมา แล้วท้องเธอก็ร้องประท้วงให้ต้องขายหน้า “จ๊อก...”
เดโชหันมามองคิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง
“หิวเหรอ”
“แหะๆ นิดหน่อยค่ะ” จะปฏิเสธก็ใช่ที่เล่นประท้วงกันขนาดนี้ ฆ่าให้ตายเลยไม่ดีกว่าเหรอ
“ฉันก็หิวๆ แล้วเหมือนกัน ออกไปหาอะไรกินกันดีมั้ย”
“เอ่อ...” มายาวดีอ้าปากหวอ ควรจะไปดีไหมนะ
“กลัวเหรอ”
เธอส่ายหน้าผมสะบัด
“เปล่าค่ะ ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะคะ ถ้าคุณพ่อหิวก็...ไปค่ะ”
“งั้นรอเดี๋ยวนะ ใส่เสื้อก่อน”
มายาวดีเอาถุงชุดว่ายน้ำที่ประกายแก้วซื้อให้ไปเก็บไว้ในห้อง แล้วออกมายืนกระมิดกระเมี้ยนอยู่หน้าห้อง เดโชใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงชาวเลสีดำสบายๆ ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่น่ามองขนาดนี้
“ไปกันเถอะ”
เธอกะพริบตาแล้วรีบสาวเท้าตามร่างสูงออกไป
“คุณพ่อจะพาหยาไปไหนคะ”
หลังจากที่หยุดมองรถสปอร์ตเปิดประทุนสีขาวราคาแพงลิบอยู่นาน มายาวดีก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ไปกินข้าวไง”
“เอ่อ...” เธอมองรถสลับกับชุดที่เขาสวม มันไม่เข้ากันเลยสักนิด ความสงสัยในเรื่องนี้ถ้าพูดออกไปก็คงไม่เหมาะ “ไม่ชวนกึ้งไปด้วยหรือคะ” เสไปเรื่องอื่น
“ยัยกึ้งกำลังท้องกำลังไส้ ตะลอนๆ พาเธอเที่ยวมาทั้งวันแล้วคงจะเหนื่อย”
เหตุผลของเขาทำให้มายาวดีต้องนับเลขอยู่ในใจ เธอออกไปเที่ยวกับประกายแก้วแค่ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ทั้งวันตรงไหน แต่เรื่องประกายแก้วท้องและควรพักผ่อนเธอไม่เถียง
ทว่า...การที่มากับเขาสองต่อสองมันจะเป็นการดีเหรอ
“ลำบากใจเหรอ”
“เปล่าค่ะ” รีบตอบปฏิเสธทั้งที่ในใจตอบใช่
“งั้นก็ขึ้นรถเถอะ”
มายาวดียอมขึ้นไปนั่งข้างๆ ด้วยอาการกระมิดกระเมี้ยน เกิดมาไม่เคยนั่งรถหรูขนาดนี้ ซ้ำยังเปิดประทุนรับลมเย็นๆ อีกต่างหาก นี่ถ้าเธอทำรถเขาเสียหายต้องแย่แน่ๆ
“ทำตัวตามสบาย ฉันไม่ใช่ฆาตกรที่จะลวงเธอไปข่มขืนแล้วฆ่า”
“แหงล่ะค่ะ ฆาตกรที่ไหนจะขับรถแพงขนาดนี้” หลุดปากเถียงออกไปจนได้
“งั้นจะกังวลอะไร”
มายาวดีเหลียวมองเขาทางหางตา ไม่กล้าสบตาในระยะขนาดนี้กลัวใจจะแกว่งมากกว่าที่เป็นอยู่
“หยากลัวจะทำรถคุณพ่อเปื้อน”
“หึ หึ” เดโชหัวเราะอารมณ์ดีกระปรี้กระเปร่าขึ้นเป็นกอง
“จริงๆ นะคะ ถ้าหยาทำเบาะรถเปื้อน หรือห่วงพวงกุญแจไปเกี่ยวเบาะรถขาดเข้าล่ะแย่เลย”
“เธอนี่คิดมากไปนะยะหยา ไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งนั้น เบาะหนังอย่างดีทั้งนุ่มและหนา สีดำเมี่ยมขนาดนี้คงจะไม่เห็นรอยอะไร แต่ถ้าเธอกังวลนัก เกิดเปื้อนขึ้นมาจริงๆ ก็แค่เช็ดออกทำความสะอาดง่ายจะตาย”
มายาวดีคลายความกังวลลงไปบ้าง มองสองข้างทางมีแต่ป่ารก ดีที่ว่าเป็นเกาะเจริญมีไฟถนนตลอดเส้น ว่าแต่เขาจะพาเธอไปไหน
“เธอเป็นคนเหนือเหรอ” เดโชชวนคุย
“ค่ะ หยาเป็นคนจังหวัดน่าน”
“ยัยกึ้งเคยไปเที่ยวแล้วสินะ”
“ค่ะ กึ้งไป 2 ครั้งแล้ว”
“ฉันไม่ค่อยได้ขึ้นเหนือบ่อยนัก”
“ไปเที่ยวบ้านหยามั้ยล่ะคะ ทิ้งวิวทะเลไปชมวิวภูเขาบ้าง เอ...แต่ถ้าช่วงฝนตกที่นี่ก็คงจะมีหมอกอยู่บ้างใช่มั้ยคะ”
“หลังฝนตกก็คงเหมือนกันทุกที่ล่ะ”
“แต่รับรองว่าสวยสู้บ้านหยาไม่ได้แน่”
เดโชหันมองเธอยิ้มๆ มายาวดีก็หัวเราะคิกคักลืมความกังวลก่อนหน้านี้ไปหมด
“ฉันต้องไปแน่ยะหยา”
เธอสบตาคมที่กำลังทอประกายไหววับ แล้วจู่ๆ แก้มก็ร้อนวาบเมื่อคิดถึงคำพูดของเขาเมื่อครู่
พูดเหมือนจีบ?
คงไม่
เขาคงไม่สนใจเด็กอย่างเธอหรอก
มายาวดีมองออกด้านข้างเพื่อไม่ให้เขาเห็นแก้มร้อนๆ ของเธอ เจอกันไม่กี่ชั่วโมงขยันทำใจเธอสั่นขนาดนี้ น่ากลัวจัง กลัวใจตัวเองจะทนไม่ไหวหลงรักพ่อเพื่อนขึ้นมา
เดโชขับรถพามายาวดีมายังชายหาดอีกฝั่งของเกาะ ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาพักค่อนข้างมาก มีร้านอาหารริมหาด มีการแสดงของคนเล่นไฟที่แม้จะเหม็นกลิ่นน้ำมันไปบ้างก็ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้มาก
เธอกับเขาเลือกนั่งไกลออกมาเพราะกลัวจะเหม็นน้ำมันก๊าดจนเวียนหัวเสียก่อน เดโชสั่งอาหารมาสามอย่าง กับเบียร์เย็นๆ 3 ขวด
“อาหารร้านนี้อร่อยถึงพามาลอง”
“ค่ะ”
มายาวดีกินอาหารได้ค่อนข้างมาก กินเรื่อยๆ ตาก็มองเบียร์ไปด้วย ตามมารยาทเธอควรจะรอให้เขาดื่มเบียร์หมดแล้วค่อยอิ่ม เพราะถ้าเธออิ่มเขาอาจจะเช็คบิลทั้งที่เบียร์ยังไม่หมด หรือไม่เธอก็ต้องนั่งรอจนกว่าเบียร์จะหมด
“กินเก่งเหมือนกันนี่เรา”
“อร่อยค่ะ” เธอยิ้มและเอนหน้าหลบมือใหญ่ที่ยื่นออกมาทันทีด้วยความตกใจ
เดโชใช้ปลายนิ้วเขี่ยข้ามที่ติดมุมปากออกให้ และแม้เม็ดข้าวจะกระเด็นหายไปแล้ว ปลายนิ้วหัวแม่มือเขาก็ยังไม่ยอมถอยห่าง มันกลับวกวนไปมาอยู่บนผิวปากของเธอเหมือนสำรวจ และมายาวดีก็ดูจะถูกตรึงในท่านั้นจนกว่าปลายนิ้วนั้นจะถอยห่างออกมา
พ่อเลี้ยงตัดใจละปลายนิ้วออกห่าง เห็นเธอเป่าปากก็ครึ้มอกครึ้มใจ ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วที่เวลาอยู่ใกล้สาวแล้วอยากทำให้เธออกสั่นขวัญแขวน เห็นเธอสะดุ้งแล้วมีความสุข
