พ่อเพื่อนบำเรอรัก /24
คำสัพยอกเย้าหยอกช่วยให้เธอเกิดความฮึกเหิม มายาวดีสอดมือเข้ากลางระหว่างสองร่าง แล้วลูบไล้พงขนดำหนาของเขา ชายหนุ่มเป่าปากหวือกับการกระทำแสนเซ็กซี่ยั่วยวน เขาปล่อยให้เธอลูบคลำจนพอใจก็ดึงมือเล็กออก
“อย่าซนนัก เดี๋ยวเสร็จเร็ว”
ก่อนที่เด็กซนจะทำอะไรมากไปกว่านี้ เดโชก็จับร่างขาวพลิกคว่ำก้มโค้งสะโพกลอยเด่น ส่วนเขาก็ดึงตัวขึ้นนั่งอยู่ด้านหลัง ท่อนเนื้อจุ่มพรวดเข้าสู่กลีบกุหลาบแล้วเร่งเครื่องเดินหน้าจนห้องทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นกามา
สะพานสายรุ้งทอดลงมาหา มายาวดีกุมมือเดโชข้ามสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
“กรี๊ดดดด”
“อาห์”
"ยะหยา...ทำไมถึงกินข้าวเป็นเด็กๆ ทุกครั้งเลยฮึ แบบนี้ก็แย่สิ"
มายาวดีที่ยังเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยยังไม่เข้าใจความหมายของเขา จนกระทั่งใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามชะโงกข้ามโต๊ะมาจนชิด แล้วกดริมฝีปากลงบนมุมปากดูดข้าวที่ติดอยู่หายไป ไอร้อนปะทะผิวหน้าจนอุ่นจัดก่อนจะชาวาบ พอกวาดตามองไปรอบๆ จึงรู้สึกตัวค่อยผงะห่างแต่ไม่ทันที่เดโชถอยออกไปก่อนแล้ว เธอได้แต่หน้าแดง คอแดง หูแดง เพราะตรงนี้คือในโรงอาหารของพนักงาน แน่นอนสายตาทุกคู่พุ่งตรงมาที่เธอเป็นตาเดียว
"คุณเดย์!" พอตั้งสติได้ก็ถลึงตาใส่
"ฉันจะทำอย่างนี้จนกว่าเธอจะเลิกกินข้าวเหมือนเด็ก" อีกฝ่ายตอบหน้าตาย เลิกคิ้วยียวน แล้วยังผิวปากอารมณ์ดี
"หยาอาย"
"รู้"
"แล้วยังทำ? คุณเดย์ไม่อายพนักงานบ้างหรือคะ"
"ไม่นะ ทำแล้วมีความสุข ทำไมต้องอายล่ะ คราวหน้าเราควรต้องนั่งข้างกันนะ ฉันจะได้ไม่ต้องชะโงกหน้าจนเป็นที่สนใจของคนอื่น"
แล้วมันต่างกันตรงหนายยยย
มายาวดีได้แต่ร้องครางอยู่ในอก ถ้าขยันปั่นหัวใจเธอแบบนี้ ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า
วันนี้เดโชไม่มีธุระจะไปไหน เขาจึงทำงานอยู่กับเธอทั้งวัน มายาวดีก็เลยรู้สึกแปลกๆ หรือเขาจะจับโจรด้วยตัวเอง แต่ถ้าลองอยู่ทั้งวันแบบนี้คงจับได้หรอกมั้งเมื่อไม่เปิดโอกาสให้โจรฉ้อโกงเลยแบบนี้
ยิ่งเห็นสายตาหลายคู่จับจ้องเธอเป็นตาเดียวแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่างานง่ายจะกลายเป็นยากขึ้นมา
“คุณเดย์ต้องยั้งมือ ยั้งปากบ้างนะคะ” พอเดินเคียงกันออกมาจากโรงอาหาร เธอก็กระซิบบอก
“ยั้ง?”
“ใช่ค่ะยั้ง ยิ่งคุณทำให้หยาเป็นคนพิเศษแบบนี้ โจรที่อยากจับคงไหวตัวทันเสียก่อน”
“เกี่ยวอะไรกันล่ะ”
“ก็ต่อไปถ้าหยาจะแอบทำอะไรที่เป็นความลับ อีกฝ่ายก็จะระวังตัวมากขึ้นน่ะสิคะ”
“อ้อ...งั้นเหรอ”
มายาวดีมองเรียวปากที่กำลังแย้มยิ้มอารมณ์แล้วนึกหมั่นไส้
“ตามใจก็แล้วกันค่ะ หยาไม่ยุ่งแล้ว”
เดโชมองคนงอนตุ๊บป่องเดินห่างไป สายตาของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปจากกรุ้มกริ่มแวววาว กลายมาเป็นจริงจังครุ่นคิด
“เมื่อกี้เห็นปะ นายหัวจูจุ๊บคุณหยาด้วย”
“เห็นสิเธอ แค่นายหัวเดินเข้าโรงอาหารก็มากแล้วนะ นี่ยังจะมีฉากจุ๊บกันอีกอะ”
“อิจฉาคุณหยาเนอะ นายหัวดีจะตาย ถึงบางทีจะดุไปนิด”
บทสนทนานั้นอยู่ในความสนใจของชัยชิดไม่แพ้ฉากรักเมื่อครู่นี้ มันหันไปมองวลัยกรเห็นเธอกวักมือเรียกก็ลุกเดินไปหา
“นังนั่นจะทำให้งานของฉันสะดุด”
“แล้วจะให้ทำยังไง นายหัวอยู่ด้วยตลอด”
“ไอ้พี่ชิดงี่เง่า! ก็ทำอะไรสักอย่างสิวะ ดีไม่ดีนายหัวระแคะระคายแล้วก็เป็นได้”
“ทำไมวะ ทำไมเอ็งคิดอย่างนั้น”
“สำนักงานบัญชีมันไม่ติดต่อฉันเลย ฉันโทร.ไปก็ไม่ยอมรับ นี่ฉันสังหรณ์ใจอย่างบอกไม่ถูก”
“นี่มันชิ่งเราหรือวะ”
“ไม่รู้สิพี่ ฉันว่าเราควรจะหนีก่อนที่เรื่องมันจะแดง”
“หนี?” ไอ้ชิดครุ่นคิด “เงินก้อนสุดท้ายข้าเอาไปแทงบอลหมดแล้ว เราจะหนีไปไหนได้วะ”
“หา!! พี่ชิดไม่เก็บไว้แต่งงานเหรอ ไหนพี่บอกจะจัดงานแต่งให้สมเกียรติฉันไง”
“เอ่อ...ก็นี่ไง ข้าถึงต้องเอาเงินไปลงทุนจะได้ผลิดอกออกผลอยู่นี่ไง”
“ไม่มีเงินก็หนีไม่ได้ แล้วเราจะทำยังไงดีพี่”
ชัยชิดใช้สมองที่มีรอยหยักเพียงน้อยนิดครุ่นคิดอยู่สักพัก ก่อนจะดีดนิ้วเปราะ
“เราต้องหาเงินสักก้อน” แล้วมันก็เล่าแผนการให้วลัยกรฟัง หญิงสาวเปิดยิ้มอย่างพอใจ วาดฝันไว้ว่าจะได้หนีไปแต่งงานกับชัยชิดในที่ไกลๆ สักที
หลายวันต่อมาในช่วงบ่าย มายาวดีกำลังตรวจเช็กห้องพักแต่ละห้องเพื่อช่วยน้าละม่อมซึ่งปวดท้องหนักขาลาไปหาหมอในตอนเที่ยง เธอออกมาจากห้องเบอร์ 8 กำลังเดินไปยังห้องเบอร์ 9 ก็สวนทางกับวลัยกร
“ฮือๆ ฮึกๆ”
ได้ยินเสียงครวญดังแผ่วๆ พอมองให้ชัดๆ ก็เห็นน้ำตาวลัยกรไหลเป็นทาง
“คุณแหวน! เป็นอะไรไปคะ ร้องไห้ทำไม”
วลัยกรเงยหน้าทั้งน้ำตา พอเห็นว่าเจอใครก็ทำเป็นหลบสายตาวูบ มายาวดีเดินดักหน้าพร้อมกับดึงมือบางของวลัยกรลง เพื่อสบตาเธอได้ชัดๆ
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“มะ...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แหวนขอตัวก่อนนะคะ”
วลัยกรดึงมือออก แล้วเบี่ยงตัวเพื่อจะเดินหนี
“เดี๋ยวค่ะ ถ้าคุณแหวนไม่บอกหยา ก็ไม่ต้องหนีไปไหนค่ะ เพราะหยาไม่ให้คุณแหวนไปแน่ๆ”
“อย่ามายุ่งกับแหวนเลยค่ะ แหวนเคยพูดจาไม่ดีกับคุณหยาเอาไว้ แหวนไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากคุณหยาแน่ๆ”
“หยาไม่เคยถือโทษโกรธคุณแหวนหรอกค่ะ แต่หยาเป็นห่วงถ้าคุณแหวนไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงต้องร้องห่มร้องไห้ขนาดนี้ บอกหยาเถอะนะคะ ถ้าหยาช่วยได้ก็จะช่วย”
เพราะเห็นขอบตาแดงช้ำจนบวมเป่งวลัยกรน่าจะผ่านการร้องไห้มายาวนาน นั่นทำให้มายาวดีไม่ติดใจเรื่องอื่น เวลานี้เธอเป็นห่วงหญิงสาวตรงหน้าเหลือเกิน อะไรที่ทำให้วลัยกรต้องเสียน้ำตามากมายเป็นกระบุงขนาดที่ทำให้ดวงหน้าเศร้าหมองเป็นคนอมทุกข์ได้แบบนี้
“พี่ชิดค่ะ พี่ชิดติดหนี้พนันบอล”
“ชิด?” มายาวดีพยายามนึกหน้าเจ้าของชื่อนี้
“พี่ชิดเป็นสามีแหวน พวกโต๊ะบอลก็มาทวงหนี้กับแหวน วันนี้พี่ชิดมาทำงานไม่ได้เพราะพวกมันขู่ว่าจะตามมาทวงถึงที่ทำงาน ถ้านายหัวรู้เข้าพี่ชิดต้องถูกไล่ออก และถ้าพี่ชิดตกงานแหวนกับลูกในท้องจะอยู่กันยังไง ฮือๆ”
