บท
ตั้งค่า

๓.๑ วิหคน้อยพลัดถิ่น

“พ่อของลูกสิ้นใจแล้วพระพาย”

ประโยคนั้นผ่านเข้ามาในประสาทการรับรู้ของพระพายแล้วลอยหายไปพร้อมกับหัวใจที่หล่นร่วง ร่างบางตะลึงงันไปชั่วขณะ กระแสบางอย่างวิ่งพล่านไปทั่วร่างส่งผลให้แขนขาชาวาบ อึดใจใหญ่กว่าที่พระพายจะรวบรวมสติที่แตกกระเจิงกลับมาได้ เขารับรู้ถึงวงแขนที่รัดแน่น ร่างอ่อนล้าที่ไหวสะท้าน และเสียงสะอื้นไห้ของมารดา แต่ถึงกระนั้นราชนิกุลหนุ่มก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก หรือเขาแค่หูฝาดและตีความอากัปกิริยาของมารดาผิดเพี้ยนไป

หนุ่มน้อยจึงผละกายออกมาคลี่ยิ้มปลอบใจตัวเองแล้วถามย้ำกับสร้อยฟ้าอีกครั้ง

“คะ คุณแม่ว่าอย่างไรนะครับ?”

แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่ประสาทสัมผัสจากร่างกาย แต่สายตาของเขามองเห็นความปวดร้าวเศร้าโศกเสียใจของมารดาเป็นเครื่องยืนยัน

สร้อยฟ้าเองก็ตั้งรับกับความสูญเสียไม่ทันจนตีบตันไปหมด เพียงเห็นใบหน้าของลูกชาย นางก็เหมือนจะไร้เรี่ยวแรง แสงตะวันยามบ่ายคล้อยสาดเข้ามาในดวงตาเศร้าโศกจนใบหน้าของพระพายขาวโพลน ก่อนจะดับวูบลงในทันที

“คุณแม่!”

สร้อยฟ้าทรุดลงในอ้อมกอดของพระพาย คุณชายรพีที่ยืนระวังอยู่ด้านหลังรีบเข้ามาประคองทั้งสองร่างทันที ท่านชายตุ้มเองก็ตกหทัยรีบรับสั่งให้คนรับใช้ออกมาช่วยกัน

“พวกหล่อนรีบไปเอายาดมยาหอมมา รีบไปสิมัวรีรออะไรอยู่”

หม่อมจอมขวัญที่ปกติเป็นคนที่สำรวมกิริยาที่สุดในวังตุลยาธร ถึงกับควบคุมตัวเองไม่ได้ เผลอตวาดเหล่าคนรับใช้ลั่นห้องโถงหลังทั้งหมดเกิดอาการลนลานทำอะไรไม่ถูก

คุณชายรพีอุ้มสร้อยฟ้ามาวางลงบนโซฟา พระพายรีบเข้าไปประคองด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านคือท่านชายตุ้มที่ทรงมีท่าทีเป็นห่วงสร้อยฟ้ามาก

“สร้อย!” ท่านชายตุ้มประคองศีรษะของสร้อยฟ้ามาวางบนเพลา แล้วรับสั่งคนรับใช้ที่เหลืออยู่สุรเสียงดังลั่น “รีบโทรตามหมอมาให้เร็วที่สุด ให้มาเดี๋ยวนี้!”

คนรับใช้ลนลานจะรีบทำตามรับสั่ง แต่คุณชายรพีส่งสัญญาณว่าเขาจะจัดการเอง เพราะเกรงว่าจะไม่รวดเร็วดังใจท่านพ่อของเขา

ร่างสูงเดินไปคว้าโทรศัพท์แล้วต่อสายหานายแพทย์ประจำราชสกุลตุลยาธรทันที ในขณะที่รอสายสายตาคมก็ทอดมองไปยังผู้เป็นบิดาและสร้อยฟ้าอย่างสงสัย พร้อมทั้งมองเลยไปที่พระพายที่แม้จะตกใจและเสียขวัญทั้งเรื่องของบิดาและอาการของมารดาตรงหน้า แต่ทว่าดูเหมือนเด็กหนุ่มคนนั้นจะตั้งสติได้อย่างรวดเร็วและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี ดีกว่าหม่อมเจ้าตะวันฉายผู้เป็นเพียงเพื่อนของพ่อเสียอีก

“มันเกิดอะไรขึ้นครับ ท่านลุง?”

หลังหมอมาดูอาการสร้อยฟ้าและให้ยาจนมารดาหลับไป หม่อมหลวงพระพายก็ขอเข้าเฝ้าหม่อมเจ้าตะวันฉายและทูลถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

ท่านชายตุ้มเล่าว่าหลังพศุตม์ถูกควบคุมตัวไปอาการโรคหัวใจของเขาก็กำเริบ แต่เพราะสถานการณ์คับขันเขาจึงไม่ยอมบอกใครได้แต่อดทนอยู่ในที่ควบคุมตัวเพื่อรอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ท่านชายพยายามที่จะนำหลักฐานเท่าที่มีไปยืนยันว่าพศุตม์ไม่เกี่ยวข้อง แต่เพราะตำแหน่งหน้าที่การงานของเขาในกระทรวงทำให้ไม่สามารถหนีความรับผิดชอบได้ แม้เงินพวกนั้นจะไม่เคยผ่านเข้ามาในบัญชีของระวิวรรณแม้แต่บาทเดียวก็ตาม วังระวิวรรณซึ่งเป็นมรดกตกทอดของราชสกุลถูกยึด เมื่อพศุตม์รู้เข้าก็อาการทรุดอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นสร้อยฟ้าถูกแยกไปกักตัวอีกที่หนึ่งจึงไม่สามารถติดต่อสามีได้ เมื่อท่านชายตุ้มเข้าไปช่วยเจรจาจนสร้อยฟ้าได้รับการปล่อยตัวเพราะถือว่าไม่ได้เป็นข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งสองขอพบพศุตม์ แต่วินาทีที่ได้พบหน้ากัน ก็เป็นวินาทีสุดท้ายของลมหายใจของพศุตม์เช่นกัน เขาสิ้นใจขณะถูกนำตัวไปส่งโรงพยาบาล ในอ้อมกอดของสร้อยฟ้าและเพื่อนรักอย่างหม่อมเจ้าตะวันฉาย

๙ วันต่อมา

หม่อมหลวงพระพายในชุดไว้ทุกข์นั่งเศร้าอยู่ในศาลาแปดเหลี่ยม หลังสิ้นบุญหม่อมราชวงศ์พศุตม์ก็ดูเหมือนว่าทุกชีวิตในวังระวิวรรณก็สิ้นด้วย สร้อยฟ้านำเงินเก็บส่วนตัวที่ไม่ได้ถูกยึดไปพร้อมกับวังจ่ายให้บรรดาคนรับใช้เก่าแก่ที่ต้องตกงานและไร้ที่ซุกหัวนอนกะทันหันเพื่อนำไปตั้งตัวหาอาชีพใหม่ หลังจากนั้นสองแม่ลูกก็ถูกหม่อมเจ้าตะวันฉายพามาอยู่ที่วังตุลยาธร คราแรกท่านชายจะให้อยู่ในเรือนหลังใหญ่ร่วมกับหม่อมจอมขวัญและหม่อมปรางทิพย์ แต่สร้อยฟ้าปฏิเสธ เธอขออาศัยอยู่ในเรือนริมน้ำหลังเล็กท้ายวังซึ่งเป็นเรือนที่ภรรยาในทะเบียนของท่านชายหรือมารดาของหม่อมราชวงศ์รพีสร้างเอาไว้และอาศัยอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต

ตอนแรกพระพายไม่เห็นด้วยที่สองแม่ลูกต้องมาอาศัยใบบุญท่านชายตุ้มเพราะเกรงใจท่าน เขาชวนสร้อยฟ้าออกไปหาบ้านเช่าหลังเล็ก ๆ แต่สร้อยฟ้าให้เหตุผลว่าต้องเก็บเงินเอาไว้ให้พระพายเรียนหนังสือตามความประสงค์ของพศุตม์ที่ปรารถนาให้ลูกได้ร่ำเรียนและนำความรู้มาพัฒนาประเทศ อีกอย่างหากสองแม่ลูกออกไปอยู่ข้างนอก ท่านชายตุ้มก็คงไม่ยอมแน่

พระพายนั่งทอดอารมณ์เศร้าสร้อยอยู่ในศาลาแปดเหลี่ยมตั้งแต่บ่ายจนบัดนี้พระอาทิตย์ทอแสงสีแสดอยู่ตรงขอบทิฆัมพรอันไกลโพ้น ใกล้ได้เวลาที่จะต้องเข้าไปช่วยงานในครัว สร้อยฟ้าสอนว่าอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ช่วยงานอะไรได้ก็ต้องช่วย เพราะเรามาอยู่ในฐานะผู้อาศัยหาใช่เจ้านาย ท่านอุตส่าห์เมตตาให้ความช่วยเหลือ อย่าทำตัวตีเสมอคุณชายคุณหญิงคนอื่น ๆ ในวังอย่างเด็ดขาด พระพายจึงแทบจะไม่เคยเฉียดเข้าไปในเรือนหลังใหญ่นอกจากท่านชายตุ้มจะเรียกหา

“มาอยู่ตรงนี้นี่เอง ป้าเดินตามหาเสียทั่ว”

“หม่อม”

พระพายเลื่อนสะโพกลงจากม้านั่งภายในศาลาเพื่อจะทรุดกายลงที่พื้น แต่หม่อมจอมขวัญรั้งแขนเอาไว้เสียก่อน ให้นั่งบนม้านั่งเสมอกันเหมือนเดิม

“ทำตัวตามสบายเถิดพระพาย อย่างไรหลานก็ยังเป็นราชนิกุล อย่าได้กดตัวเองให้ต่ำศักดิ์เพียงเพราะพ่อถูกกล่าวหาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง”

“หม่อมเชื่อใช่ไหมครับว่าคุณพ่อบริสุทธิ์”

“การเมืองเป็นเรื่องเข้าใจยาก การรัฐประหารไม่ใช่เป็นตัวชี้วัดว่าใครผิดถูก เพียงแต่เวลานั้นยืนอยู่ข้างไหนเท่านั้นเอง เวทนาก็แต่สร้อยฟ้ากับหลานต้องถูกหางเลขไปด้วย บ้านก็ไม่มีอยู่ ทรัพย์สมบัติมากมายก็ถูกยึดไปเสียหมด”

“สมบัติพวกนั้นไม่สำคัญเท่าเกียรติของคุณพ่อหรอกครับ” พระพายตัดพ้ออย่างขมขื่น พ่อของเขาถูกตราหน้าว่าฉ้อราษฎร์บังหลวงและเสียชีวิตไปโดยที่ไม่ได้แก้ต่างให้ตัวเอง คนบางกลุ่มฉวยโอกาสโยนความผิดให้พศุตม์ทั้งหมด แม้แต่งานศพก็ไม่มีใครมาร่วมไว้อาลัย หากไม่มีบารมีของหม่อมเจ้าตะวันฉายคุ้มครองพระพายกับแม่อาจจะโดนปาไข่ใส่หน้าไปแล้วก็ได้

“อย่าคิดมากไปเลยลูก อีกไม่นานคนก็ลืม”

หม่อมจอมขวัญปลอบ เธอยื่นมือไปลูบไหล่บอบบางที่ซูบผอมลงไปอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่วันอย่างเวทนา แต่ก่อนที่จะถามไถ่เรื่องอาหารการกิน ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดเสียก่อน

“มีคนมาเสริมทัพเพิ่มก็ยิ้มหน้าบานเลยนะคะคุณพี่ ได้ข่าวว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน ไม่รู้ว่าจะเป็นพวกอะไรนะ… อ้อ เพื่อนเราเผาเรือน สำนวนนี้คุณพี่เคยได้ยินไหมคะ”

“หล่อนพูดอะไร?”

“แหม… คุณพี่ไม่ทราบหรอกหรือคะว่าตอนนี้เพื่อนรักของคุณพี่เข้าเฝ้าท่านชายอยู่ เข้าไปอยู่ด้วยกันสองต่อสองตั้งนานสองนานแล้ว ไม่รู้ว่าทำอะไรกัน”

“อย่ามาใส่ไคล้ให้ท่านชายเสื่อมเกียรติ ที่พูดถึงอยู่นั่นก็สามีหล่อนเหมือนกัน”

“ก็เพราะเป็นสามีของเราน่ะสิคะ น้องถึงได้มาบอกให้คุณพี่รู้ไว้ มีหม่อมสองคนในวังตุลยาธรก็อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว หากท่านชายมีหม่อมเพิ่มอีกคนไม่เดินเหยียบกันตายหรือคะ แม่สร้อยฟ้านั่นเป็นคนรักเก่าของท่านชาย คุณพี่อย่าบอกนะคะว่าไม่ทราบ ก่อนมาเป็นหม่อมของท่านคุณพี่ก็ยื้อแย่งกันอยู่สักพักใหญ่เลยไม่ใช่หรือคะน้องได้ข่าว”

“อย่ามาสาระแนสู่รู้ให้มากนักหม่อมปรางทิพย์ ฉันไม่เคยล้ำเส้นหล่อน หล่อนก็อย่ามาล้ำเส้นฉัน!”

“น้องเตือนด้วยความหวังดีนะคะคุณพี่”

“อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่เท่าทันหล่อน”

“น้องก็รู้ทันคุณพี่ค่ะ สงบเสงี่ยมรักษากิริยาชูคอเป็นหม่อมที่ท่านชายเกรงใจ แต่ข้างในก็สั่นคลอนไปถึงไหนต่อไหน กรี๊ดออกมาสิคะคุณพี่ กรี๊ดค่ะกรี๊ด”

“แม่ปรางทิพย์!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel