มิติมหัศจรรย์
ติ๋ง!
ก่อนที่เลือดจากนิ้วมือจะไหลหยดลงบนผิวน้ำในลำธารอย่างไม่ตั้งใจ ทันใดนั้นน้ำเย็นใสข้างล่างก็เริ่มเคลื่อนไหวผิดปกติ ราวกับว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างเข้ามา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
หลินอวี้เหนียนกะพริบตาแรง ๆ หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความประหลาดใจ น้ำรอบตัวเริ่มสั่นไหวเหมือนถูกดูดเข้าไปในช่องว่างมืดมิดที่เปิดกว้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ตาของเธอและลูกสาวเบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างที่สุด
“มะ ไม่จริง”
หลินอวี้เหนียนพูดพลางคว้าตัวลูกสาวมากอดไว้แล้วเดินถอยหลัง แต่ความรู้สึกเหมือนถูกแรงดึงดูดดึงให้ก้าวเข้าไปในช่องมิติที่ลึกลับอย่างหนีไม่พ้น
“แม่! นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
“มะ แม่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”
หลินอวี้เหนียนพยายามตั้งสติ เธอกลั้นใจก้าวเท้าข้างหนึ่งลงไปในช่องว่างนั้น และความมืดก็เข้าปกคลุมรอบด้าน เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ น้ำรอบตัวเปลี่ยนเป็นเหมือนกระจกสะท้อนแสงประหลาด
ทันใดนั้นแสงสว่างแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้น และปลาที่ใหญ่โตว่ายอยู่ในน้ำก็ส่องแสงเจิดจ้าอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
“เฮือก!”
เสียงของหลินอวี้เหนียนสะดุ้งเฮือก รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพลิกกลับ ลูกสาวยังคงนิ่งอยู่ข้าง ๆ แม่ด้วยความตกตะลึงเช่นกัน
“ทะ ทำไมถึงมีปลาตัวใหญ่เยอะจัง”
เสียงสั่นพร่าของเด็กหญิงดังขึ้น ผู้เป็นแม่ยิ่งต้องพยายามรวบรวมสติมากขึ้น กลิ่นของปลาที่ยังสดใหม่คละคลุ้ง ความรู้สึกตื่นเต้นปนหวาดหวั่นในใจ หล่อนหันไปมามองลูกสาวที่ยืนตาโตมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตื่นเต้นเกินห้ามใจ
“แม่ไม่รู้ว่าที่นี่คืออะไร แต่สิ่งที่แม่รู้ก็คือพวกเราจะไม่อดตายกันแล้ว จากนี้ไปแม่จะไม่ยอมให้ใครรังแกครอบครัวของเราอีก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แม่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพวกเรา ให้พวกเราได้อยู่รอดและมีชีวิตที่ดีกว่านี้”
ความหวังตรงหน้าทำให้หลินอวี้เหนียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและมั่นคง ทำเอาลูกสาวยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นแม่อีกครั้งทันที
“หนูเชื่อแม่”
คำพูดของลูกสาวทำให้หลินอวี้เหนียนยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ก่อนที่หล่อนจะพาลูกเดินเข้าไปในอุโมงค์ของแสงประหลาดที่ลึกกว่าเดิมด้วยกัน
ข้างในนี้นอกจากปลาตัวใหญ่แล้ว ยังมียอดผักป่าหวาน ๆ งอกงามหลายต้น ก้านผักอ่อนพริ้วไหวตามลมเล็ก ๆ และยังมีเห็ดหลากหลายพันธุ์ขึ้นแทรกตัวอยู่ตามโคนไม้และใต้กอหญ้า
“ว้าว…มีผักกับเห็ดเต็มเลย”
หลินอวี้เหนียนตื่นตาตื่นใจ รีบวิ่งไปเด็ดยอดผักป่ามาหนึ่งกำมือใหญ่ ๆ ซ่งอวี้เสียนหันไปมองเห็ดสีขาวกลม ๆ ที่พึ่งโผล่พ้นดินก่อนจะหันไปถามแม่เสียงสดใส
“แล้วเห็ดพวกนี้กินได้ไหมแม่”
“กินได้สิ แม่เชื่อว่าทุกอย่างในนี้ต้องกินได้อย่างแน่นอน”
ใบหน้าเล็กยิ้มแล้วพยักอย่างเชื่อฟัง ก่อนจะเดินไปเลือกเก็บเห็ดบางส่วนอย่างระมัดระวัง และระหว่างที่เก็บผักป่าอยู่นั้น น้ำในมิติก็ยังเคลื่อนเหมือนน้ำตกพลิ้วไหว มีแสงสีฟ้าอ่อนเรืองรองสวยงามด้วย
“นี่คือที่ที่พวกเราจะมาเก็บของกินกัน มิตินี้อุดมสมบูรณ์และมีของกินมากมาย”
“แล้วเราจะเอาของพวกนี้กลับบ้านได้หมดไหมคะแม่”
“เอาไปเท่าที่พวกเราเอาไปได้ก่อน เพราะอย่างไรพวกเราก็จะมาที่นี่กันทุกวันอยู่แล้ว”
หลินอวี้เหนียนพูดด้วยรอยยิ้ม และลูกสาวก็พยักหน้าอย่างเชื่อมั่นในตัวของมารดาเช่นเคย หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินออกจากมิติพร้อมกับตะกร้าผักเต็มมือและปลาสดหลายตัว ก่อนจะพากันออกจากป่าแล้วกลับบ้านไปด้วยความหวังที่สดใสในใจ
พอเข้าใกล้บ้านหลังใหม่ของพวกเขา หลินอวี้เหนียนก็เห็นสามพ่อลูก กำลังช่วยกันซ่อมแซมหลังคาบ้านที่รั่วและโครงไม้ที่ผุพังอย่างขะมักเขม้น
หลินอวี้เหนียนยิ้มอ่อน ๆ รู้สึกอบอุ่นในใจ ถึงแม้ว่าบ้านจะเก่าแค่ไหน แต่ยังมีความรักและความอบอุ่นในครอบครัวคอยเติมเต็มให้อิ่มเอมใจอยู่เสมอ ทำให้เธอมีแรงใจที่จะอยู่ในโลกของนิยายนี้ต่อไปได้
