1.1
หลี่หลิงฟางมีโอกาสย้อนมาก่อนที่นางจะออกเรือนไปกับซุนเหวินเชา นับจากวันจัดงานแต่งในความทรงจำของนางนั้น วันนี้น่าจะห่างไปร่วมหนึ่งเดือนกว่าได้
ช่วงนี้ซุนเหวินเชาคงกำลังเดินทางกลับมาเมืองหลวงหลังจากตีข้าศึกฝั่งชายแดนทิศประจิมพ่ายไปนั่นล่ะ
นางฟื้นขึ้นมาในร่างคุ้นเคยแต่ไม่ใช่ช่วงที่นางเป็นนักโทษรอประหารอยู่ในคุก แต่เป็นสตรีอายุสิบเจ็ดปีร่างกายผอมบางต่างหาก
ทว่าสวรรค์ก็ไม่ได้เข้าข้างนางไปเสียทั้งหมด!
หลิงฟางได้โอกาสมาเกิดอีกคราทั้งที ดันเป็นวันที่นางกำลังนอนซมเพราะพิษไข้หนาวอย่างหนักเสียอย่างนั้น
สาเหตุของไข้หนาวสั่นนี้มาจากการตกลงไปในสระน้ำเมื่อวานนี้เอง จวบจนตอนนี้ก็ยังมีไข้ หากมาจับตัวของนางแล้วก็จะรู้ได้ทันทีจากความร้อนของผิวกายที่สูงจนเหมือนจับหม้อข้าวที่กำลังเดือด
ยังดีที่เช้านี้ไข้ลดลงบ้างแล้ว ต้องขอบคุณความอุตสาหะของเหม่ยฮวาบ่าวคนสนิท นางคอยเช็ดตัวลดความร้อนของผิวกายให้ตลอดทั้งคืน บ่าวอายุยี่สิบปลายนางนี้เป็นคนเลี้ยงดูหลิงฟางตั้งแต่ที่มารดาแท้ ๆ ยังไม่ถึงแก่กรรมนู่นเลยล่ะ
ชาติที่แล้วเหม่ยฮวาตายไปก็เพราะช่วยรับโทษแทนหลิงฟางตอนที่นางมุ่งมั่นแต่จะทำตามคำสั่งของคนผู้นั้นจนถูกบ้านฝ่ายสามีจับได้คราแรก
ชีวิตของผู้บริสุทธิ์ถูกแลกเพราะความหลงมัวเมาของนางครั้งแล้วครั้งเล่า มาวันนี้นางได้โอกาสครั้งใหม่แล้วต้องตอบแทนความหวังดีไม่หลงเดินทางที่ผิดอย่างหน้ามืดตามัวอีก!!!
นางไข้ลดได้โดยปราศจากความช่วยเหลือใดจากคนตระกูลหลี่อีกเช่นเคย...
ไร้วี่แววยาต้มใดใด ไม่ใช่ไม่ขอ แต่ขอแล้วไม่ได้ต่างหาก
ขนาดข้าวปลาของคนป่วยยังเป็นเพียงเศษเสี้ยวข้าวผสมน้ำกับผักดองเลย
ก็คงไม่แปลกที่ร่างกายนี้จะมีบุตรยาก ยามออกเรือนไป ชาติก่อนนั้น นางเป็นภรรยาของซุนเหวินเชามาเกือบปีก็ยังไม่เห็นวี่แววเจ้าก้อนแป้งเลย
น่าจะเป็นโรคที่สะสมมาจากที่นางไม่ได้รับสารอาหารอย่างที่เด็กคนหนึ่งควรจะได้แต่เล็ก ร่างกายป่วยง่ายทั้งยังเปาะบาง จนใครมองมาล้วนไม่รื่นรมย์ทางสายตา แต่ชาตินี้หลี่หลิงฟางคนนี้จะไม่นั่งงอมืองอเท้ารอรับเศษอาหารจากพวกคนใจร้ายอีกต่อไปแล้ว
ทำตัวดีแล้วไม่ได้รับสิ่งดีดีตอบแทนใช่ไหม เดี๋ยวหลิงฟางคนนี้จะทำให้พวกนั้นกล้ำกลืนยอมทำทั้งน้ำตาเลยล่ะ!
ก่อนอื่นนางขอนอนหลับพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายได้ต่อสู้กับโรคร้ายก่อน เรื่องอื่นพอร่างกายปรกติสมองปลอดโปร่งค่อยคิดวางแผนต่อไปแล้วกัน...
หลิงฟางปิดเปลือกตาไปยังไม่ถึงหนึ่งก้านธูป ประตูห้องที่เก่าจนแทบหลุดออกมาก็เปิดออกพร้อมเสียงเรียกจากบ่าวรับใช้หนึ่งเดียวในเรือนแห่งนี้
“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ องค์ชายรองเสร็จมาพบ ท่านประทับรอที่สวนดอกไม้เจ้าค่ะ”
เหม่ยฮวารายการด้วยสุ้มเสียงแสนแผ่วเบา ไม่ได้มีความตื้นเต้นหรือแปลกใจอันใด เพราะครานี้ไม่ใช่คราแรกที่องค์ชายรองมาพบคุณหนูของนางเสียหน่อย ทว่าสิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจสุดซึ้งนั้นกลับเป็นคำตอบของผู้เป็นเจ้านายเสียมากกว่า!
“ไปเรียนองค์ชายรองทีว่าข้าไม่สบายขอบังอาจรบกวนเขามาคราหลัง”
ฟังอาจจะดูอาจหาญเกินใคร แต่นางไม่พร้อมปะทะกับคนผู้นี้ในตอนที่ร่างกายไม่พร้อมจริง ๆ อีกทั้งจิตใจนางก็เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น ออกไปพบเขาทั้งที่ยังไม่จัดการตนเองเยี่ยงนี้มีแต่ผลเสีย
อีกทั้งบุรุษปากหวานก้นเปรียว ผู้นี้ไม่คิดเอาเรื่องยิบย่อยนี้มาลงโทษนางหรอก เพราะเขายังหวังใช้ประโยชน์กับนางอีกในอนาคต ซึ่งเหตุที่เขามาพบนางในวันนี้ก็คือหนึ่งในแผนการของเขานั่นล่ะ
ชาติก่อนหลิงฟางฝืนอาการป่วยออกไปพบเขา และก็ถูกองค์ชายรองซ้ำเติมทำร้ายจิตใจกลับมาจนอาการซุดหนักไปอีก เขามาขอให้นางออกเรือนไปกับบุรุษอื่น ทั้งที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่านางรักเขาหมดทั้งใจ
จะบอกว่าขอก็ไม่ถูกนัก เรียกว่ามาแจ้งให้ทราบเพื่อให้แผนการของเขาดำเนินไปอย่างง่ายดายเสียมากกว่า
ครานี้นางรู้อยู่แล้วว่าเขามาด้วยจุดประสงค์ใด ก็ขอเล่นตัวเสียหน่อยให้บุรุษผู้นั้นขุ่นใจเล่นก็น่าสนุกไม่หยอก!
“เอ่อ แต่ว่า คุณหนูเจ้าคะ ทำแบบนั้นจะดีหรือเจ้าคะ”
“พี่เหม่ยฮวาไปทำตามที่ข้าบอกเถิด เรื่องหลังจากนั้นข้ารับผิดชอบเอง”
หลิงฟางยืนกรานโดยการหลับตาลงทันที และหมุนกายนอนหันหลัง การทำเยี่ยงนี้อาจทำให้คนผู้นั้นขุ่นข้องหมองใจไปไม่นานก็หาย แต่กลับได้ผลดีตามมาแน่นอน
เขาอาจเดาได้ว่านางต้องป่วยหนักมาก และหากนางป่วยจนตายย่อมทำแผนที่เขาวางไว้พังแน่ ทำให้หลังจากองค์ชายรองกลับไปอีกไม่เกินกลางวันนี้นางต้องได้รับเทียบยาและอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์มาแน่
เขารู้ดีกว่าใครว่าความเป็นอยู่ของคุณหนูใหญ่แห่งจวนตระกูลหลี่นั้นแย่เพียงใด ดูเอาเถอะ ขนาดบุรุษข้างนอกแอบเข้ามาหาคุณหนูที่ยังไม่ออกเรือนยังไม่ถูกใครจับได้เลย
....คุณหนูใหญ่ หลี่หลิงฟางผู้อยู่ในเรือนท้ายจวนก็ไม่ต่างอันใดกับคุณหนูที่ถูกคนในตระกูลทอดทิ้ง
...ส่วนองค์ชายรอง จ้าวรุ่นเหยียน บุรุษหล่อเหลานิสัยดี ก็เปรียบดั่งแสงสว่าง ที่คอยมอบความช่วยเหลือและคือคนเดียวที่คอยเคียงข้างคุณหนูใหญ่ผู้น่าเวทนา
เอาจริงนะ บุคคลมากอำนาจเพียงนั้นหากต้องการช่วยนางออกไปจากขุมนรกแห่งนี้ก็ง่ายดายดั่งพลิกฝ่ามือ ไยต้องทำเรื่องเล็กน้อยให้ใหญ่โตจนเสียเวลาด้วย
เหตุผลเพราะมิได้คิดจะช่วยนางตั้งแต่แรกอย่างไรเล่า เขาคิดสร้างบุญคุณ สร้างความผูกพันธ์ให้นางผู้ไร้ที่พึ่งเชื่อใจและหลอกใช้ประโยชน์จนหมด จากนั้นก็รื้อสะพานทิ้งทันที!
ชาติก่อนนางอาจหลงมัวเมาจนเห็นสิ่งผิดเป็นถูก แต่ชาตินี้หลี่หลิงฟางคนนี้ขอเลือกทางเดินสายใหม่
ชาติก่อนนางเชื่อคนอื่นมามากพอแล้ว ชาตินี้นางขอเลือกเชื่อตนเองบ้าง!
ใครดีมานางขอดีตอบ ใครทำเรื่องร้ายไว้ย่อมขอให้หวนคืนกลับไปมากกว่าที่กระทำแก่นางเมื่อชาติที่แล้ว!!!
หลังจากที่จ้าวรุ่นเหยียนกลับไปไม่เกินหนึ่งชั่วยาม ก็มีคนของเขานำทั้งห่อยาและเนื้อสัตว์พร้อมผักต่าง ๆ มาให้ถุงใหญ่ หลิงฟางตื่นขึ้นมาอีกทีเหม่ยฮวาก็ต้มซุปเสร็จ อุ่นมาจนร้อนพร้อมให้นางทานได้แล้ว
“พี่เหม่ยฮวาตักกินได้เลยนะ ในอนาคตเดี๋ยวเราก็มีให้กินอีกแน่นอน ไม่ต้องเก็บไว้มากหรอก”
หลิงฟางรู้นิสัยของบ่าวคนสนิทหนึ่งเดียวดีจึงเอ่ยไปอย่างนั้น อีกทั้งที่นางพูดก็ไม่เกินจริงอันใด เพราะหลิงฟางอุตส่าห์ได้เกิดใหม่อีกคราทั้งทีนางไม่คิดทนอด ๆ ยาก ๆ เหมือนเก่าก่อนแล้ว อีกทั้งงานใช้กำลังล้วนได้เหม่ยฮวาทำทั้งสิ้นย่อมต้องบำรุงเนื้อมากกว่านางที่นั่ง ๆ นอน ๆ ด้วยซ้ำ
