ย้อนเวลามาแก้ไขชะตาในยุค 80

124.0K · จบแล้ว
BigM00N
60
บท
17.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

หากได้ย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตสิ่งแรกที่ทุกคนอยากจะทำก็คือแก้ไขความผิดพลาดของตนเอง เยี่ยชิงเหมยเองก็เช่นกัน เมื่อมีโอกาสได้แก้ตัวอีกครั้ง เธอจะเชื่อฟังพ่อแม่และจะไม่มีวันแต่งเข้าสกุลเผิงอีกแล้ว เพราะชาติก่อนเธอดื้อรั้นที่จะแต่งเข้าสกุลเผิง ด้วยคิดว่าคนรักของเธอคือคนที่ดีพร้อม สุดท้ายแล้วเขาไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอเลย ทั้งที่เธอทำทุกอย่างเพื่อเขาแต่ผลตอบแทนที่ได้ก็คือการนอกใจ ดังนั้นเมื่อได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง เธอจะไม่มีวันทำให้ตนเองต้องเผชิญกับสถานการณ์อันเจ็บปวดอีกแล้ว

พลิกชีวิตนางเอกเก่งทนายความข้ามมิติเกิดใหม่นิยายย้อนยุคยุค80การแต่งงานคู่หมั้นชาย

บทที่ 1 เสียดายและเสียใจ

เยี่ยชิงเหมยยืนมองแผ่นหลังของเผิงเยี่ยนสามีผู้เป็นคู่ชีวิตที่ในยามนี้กำลังเก็บของออกจากบ้านด้วยสายตาอันเจ็บปวด เธอและเขาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมายาวนานมากกว่าสามสิบปี การจากไปของเขาในคราวนี้น่าจะเป็นการจากลาอย่างเด็ดขาดระหว่างเธอกับเขา

“คุณอยู่คนเดียวได้จริงๆ หรือ” นี่คือคำถามของเขายามที่หันมาถามเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ ถึงอย่างไรเขาและเธอก็ใช้ชีวิตร่วมกันมานานหลายปีแล้ว

“ทำไมฉันจะอยู่คนเดียวไม่ได้ หลายปีมานี้ไม่ใช่ว่าฉันก็อยู่คนเดียวอยู่แล้วหรือ” เยี่ยชิงเหมยพูดพลางเดินไปเปิดประตูบ้านแล้วจึงได้ถอยออกมาเปิดทางให้เขา

“คุณไปเถิดค่ะ ส่วนเรื่องทะเบียนสมรสของพวกเราฉันจะให้ทนายของฉันติดต่อคุณไปอีกครั้ง” คำพูดของเยี่ยชิงเหมยทำให้เขาส่ายหน้า

“อาเหมย ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผมดูแลคุณมาอย่างดี กินอยู่อย่างสุขสบาย ผมนอกใจคุณก็จริงแต่จิ่งหรานเขาไม่เคยล้ำเส้นมาล่วงเกินคุณเลยนะ” คำพูดของเผิงเยี่ยนทำให้เยี่ยชิงเหมยส่ายหน้า

“แม้ว่าจะไม่เคยล้ำเส้นแต่ฉันก็เฝ้าอดทนมาโดยตลอดกับการที่ต้องทนเห็นคุณมีคนอื่นอยู่ข้างนอก ผู้คนต่างก็รับรู้กันไปจนทั่วว่าคุณมีภรรยาอีกคนอยู่ข้างนอก ส่วนฉันเพราะเห็นแก่ลูกจึงสู้อดทนเรื่อยมา แต่ตอนนี้พอได้แล้วพวกเราควรจะจบสิ้นความสัมพันธ์กันได้เสียที” เมื่อเยี่ยชิงเหมยเอ่ยเช่นนี้เผิงเยี่ยนก็ทอดถอนใจออกมา

“แล้วคุณจะอยู่อย่างไร งานการคุณก็ไม่เคยทำเลยสักอย่าง ส่วนลูกเขาก็แยกออกไปมีครอบครัวเป็นของตนเองแล้ว อีกทั้งตอนนี้เขาก็รับเยว่เล่อไปดูแลที่บ้านในฐานะคุณแม่ของเขาแล้ว ส่วนคุณนอกจากบ้านหลังนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่เป็นของคุณเลยสักอย่าง” เผิงเยี่ยนเอ่ยออกมาพลางจ้องเยี่ยชิงเหมยด้วยสายตาดูแคลน

บ้านหลังนี้ใช้เงินมรดกที่พ่อแม่ของเยี่ยชิงเหมยมอบให้ซื้อมา เขาจึงไม่คิดจะแย่งชิงบ้านหลังนี้กับเธอ เพียงแต่หลังจากหย่าขาดกันไปแล้วเขาก็คงไม่สะดวกที่จะต้องมาคอยส่งเสียเลี้ยงดูเธออีก ยามนี้เขาเองก็เกษียณอายุราชการแล้วในฐานะที่เป็นนายทหารนอกราชการเงินบำนาญที่ได้เขาจำเป็นต้องเก็บเอาไว้สำหรับตัวของเขาเองในอนาคต หากเธอยังคงคิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในฐานะสามีภรรยาเขาก็ยังพอจะเลี้ยงดูเธอได้บ้าง แต่ในเมื่อเธอคิดจะตัดขาดกับเขาแล้วเช่นนี้เขาก็ไม่อาจจะใจกว้างแบ่งเงินบำนาญของตนเองมาเลี้ยงดูเธอได้อีก

“คุณวางใจเถิดค่ะ หลังจากนี้ฉันจะไม่ไปรบกวนคุณอีก คุณอยากจะใช้ชีวิตกับภรรยาน้อยของคุณอย่างไรก็เชิญ แต่ฉันจะไม่อดทนใช้คำว่าภรรยาหลวงของคุณอีกต่อไปแล้ว” คำพูดของเยี่ยชิงเหมยทำให้เผิงเยี่ยนจ้องมองเธออีก

“เป็นอย่างที่จิ่งหรานเคยบอกกับผม คุณไม่ได้รักผมอย่างที่ควรจะเป็นเช่นนั้นก็สมควรแล้วที่คุณจะต้องเป็นเช่นนี้” ครั้งคำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก น้อยครั้งนักที่เขาจะพูดถึงผู้หญิงคนนั้นให้เธอได้ยินแต่ยามนี้เธอเข้าใจแล้วว่าผู้หญิงคนนั้นพูดถึงเธอแบบไหน

“แค่หล่อนบอกว่าฉันไม่รักคุณ คุณก็เลยเป็นชู้กับหล่อนได้โดยที่คุณไม่ต้องรู้สึกผิดกับฉันได้เช่นนั้นหรือคะ หลี่จิ่งหรานคนนั้นเป็นคนเก่งมากไม่ใช่หรือ เก่งถึงขนาดทำให้แม่และน้องสาวของคุณยังต้องมาชื่นชมต่อหน้าฉัน แล้วทำไม่หล่อนจึงได้หาสามีที่เป็นของตนเองไม่ได้ล่ะ ทำไมจะต้องมาข้องเกี่ยวกับสามีของคนอื่นเช่นนี้ ถ้าฉันรู้ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องมันจะเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นที่ฉันได้รู้ว่าพวกคุณเป็นชู้กันฉันน่าจะเอาเรื่องพวกคุณให้ถึงที่สุด ไม่น่าเอาแต่คิดกังวลว่าหน้าที่การงานของคุณจะต้องพังทลายเพราะเรื่องชู้สาวเลย” คำพูดของเยี่ยชิงเหมยทำให้เผิงเยี่ยนพลันมีอารมณ์คุกรุ่นขึ้นมา

“อย่ามาทำเป็นพูดดี ถ้าคุณทำอย่างนั้นจริงๆ คุณจะสามารถใช้ชีวิตเป็นคุณนายเผยอย่างมีความสุขมาได้ถึงตอนนี้หรือ คุณอยากจะให้ผมรู้สึกขอบคุณคุณหรือไงที่คุณไม่กล้าฟ้องร้องผม ผมรู้นะว่าสาเหตุที่คุณไม่กล้าโวยวายและยอมทนเงียบมาโดยตลอดมาไม่ใช่เพราะคุณห่วงหน้าที่การงานของผม แต่ที่จริงแล้วเป็นมันเพราะคุณเสียดายสถานะคุณนายผู้พันของผมต่างหาก อาเหมย! หลายปีมานี้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายล้วนเป็นเพราะผมทั้งสิ้น ผมอยากจะรู้นักว่าหลังจากที่คุณหย่าขาดจากผมไปแล้วคุณจะใช้ชีวิตอย่างไร” เมื่อได้ยินคำพูดของเผิงเยี่ยน เยี่ยชิงเหมยก็หัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน

“เผิงเยี่ยน ในเมื่อคุณคิดดูถูกฉันเช่นนี้พวกเราก็ไม่มีสิ่งใดที่จะต้องคุยกันอีก ฉันผิดเองที่คิดว่าการที่ฉันอดทนอดกลั้นเก็บกักความเสียใจเอาไว้แล้วจะทำให้คุณเห็นใจฉัน แต่เปล่าเลยสุดท้ายแล้วการกระทำของฉันมันก็เป็นแค่เพียงการลดทอนคุณค่าของตนเองในสายตาของคุณเพียงเท่านั้น ดังนั้นคุณไปเสียเถิดค่ะ พวกเราสองคนสมควรสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยากันเสียที” เมื่อเยี่ยชิงเหมยเอ่ยเช่นนี้เผิงเยี่ยนก็พยักหน้า

“ในเมื่อคุณต้องการเช่นนี้ผมก็ตามใจคุณ ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเมื่อคุณไม่มีผมแล้วคุณจะเป็นเช่นไร” เมื่อเผิงเยี่ยนเอ่ยจบเขาก็ลากกระเป๋าเดินออกจากบ้านไปในทันที ทิ้งให้เยี่ยชิงเหมยยืนจ้องมองเขาเดินออกจากประตูบ้านเพียงลำพัง

เธอยืนมองเขาขนกระเป๋าขึ้นรถและสตาร์ทรถออกไปจากบ้านด้วยสายตาอันเจ็บช้ำ เป็นอย่างที่เขาพูดพอเธอหย่าขาดกับเขาสิ่งเดียวที่เธอมีก็คงจะเป็นบ้านหลังนี้ หลังจากที่เธอแต่งงานกับเขาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้พ่อกับแม่รู้สึกเสียใจ เพราะต้องการประคับประคองชีวิตคู่กับเขาไว้ทำให้เธอและพ่อแม่ของเธอต้องห่างเหินกัน แม้แต่วาระสุดท้ายของพวกเขาเธอก็ยังไม่ได้อยู่ด้วยเลย กว่าจะรู้พวกเขาก็แค่เพียงทิ้งที่ดินผืนหนึ่งและบ้านเก่าอันทรุดโทรมให้เธอแล้ว เพราะคิดว่าเธอคงจะไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกเธอจึงได้ตัดสินใจขายที่ดินที่เป็นมรดกของเธอและบ้านเก่าของพ่อและแม่ของเธอมาซื้อบ้านหลังนี้ตามคำยุยงของแม่สามี

ส่วนสาเหตุที่พ่อและแม่ของเธอโกรธเคืองเธอจนพูดจาตัดขาดกับเธอก็ล้วนเป็นเรื่องที่พวกเขาเห็นว่าเธอกำลังถูกครอบครัวของสามีเอาเปรียบอยู่เพียงเท่านั้น ไม่ใช่ว่าเธอจะหูหนวกตาบอดจนไม่รู้ว่าตนเองกำลังถูกเอาเปรียบ แต่เพราะว่าเธออยากจะประคับประคองชีวิตคู่ของตนเองเอาไว้เธอจึงได้ยอมทุกอย่าง แม้กระทั่งการรับลูกของน้องสาวของเผิงเยี่ยนมาเลี้ยงเป็นลูกของตนเองเธอก็ทำ แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไรเล่า เมื่อวานนี้ตอนที่เธอและพ่อของเขาทะเลาะกัน เขาบอกกับเธอว่าถ้าเธออย่าขาดกับพ่อของเขาเธอก็คือคนอื่นสำหรับเขา เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าเขาจะเห็นด้วยกับการคิดหย่าขาดกับเผิงเยี่ยนของเธอ

ดังนั้นตอนนี้เธอจึงไม่เหลืออะไรเลยไม่ว่าจะเป็นความกตัญญูในฐานะลูกที่มีต่อพ่อแม่ ความภาคภูมิใจในตนเองในฐานะภรรยาคนหนึ่ง และความสุขใจในการเป็นแม่คน เยี่ยชิงเหมยเหลียวมองรอบกายอันว่างเปล่าแล้วก็ได้แต่หลั่งน้ำตาออกมา เธอได้แต่คิดเสียดายวันเวลาที่ผ่านพ้นไปและคิดเสียใจที่เธอทุ่มเทชีวิตและจิตใจให้กับคนที่ไม่เคยเห็นค่าในตัวของเธอเลย