บทที่ 3 ไม่ยอม
ด้านอวี้จินนั้น เมื่อสุขภาพดีขึ้นมากแล้ว คุณหมอจึงอนุญาตให้เธอกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้ แม่เฒ่าอวี้รีบมารับหลานสาวกลับบ้านด้วยตนเอง อีกทั้งยังตำหนิเจียงลี่กับอวี้หลิงไปหลายคำรบ เรื่องที่สองแม่ลูกเป็นลมไปในวันนั้น
"ให้ตายเถอะ ให้มาดูแลจินจิน แต่พวกเธอกลับทำได้ไม่ดี เป็นแม่เลี้ยงประสาอะไรกัน หลิงหลิงเธอก็อีกคน แทนที่จะช่วยดูแลพี่สาว กลับมาช่วยสร้างเรื่องเสียได้ ไม่ได้เรื่องทั้งคู่!"
เจียงลี่และอวี้หลิงไม่กล้าเถียงทำได้เพียงข่มกลั้นความไม่พอใจลงคอไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนอวี้ตง บิดาของอวี้จินก็รีบช่วยพูดแทนภรรยาของตน
"คุณแม่ครับ อย่ากล่าวโทษลี่ลี่กับหลิงหลิงเลย ใครจะรู้ว่าจินจินจะอาเจียนออกมาแบบนั้น จินจิน ลูกต่างหากที่ควรต้องขอโทษแม่กับน้อง"
อวี้ิจินเมื่อได้ยินก็ถึงกับส่งเสียงเหอะในลำคอ พ่อของเธอช่างเป็นพ่อที่ประเสริฐเสียเหลือเกิน ถึงกับขนาดจะให้ลูกสาวที่เพิ่งหายป่วยไปขอโทษภรรยาใหม่และลูกรักของตน
แม่เฒ่าอวี้ถึงกับขมวดคิ้วและมองลูกชายตนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไปบนศีรษะของลูกชายด้วยความโมโห
"แกเป็นพ่อประสาอะไร ห๊ะ เดี๋ยวก็ถีบเข้าให้"
อวี้ตงไม่กล้าพูดอีก ส่วนเจี่ยงลี่นั้นก็แปลกใจเป็นอย่างมาก ทุกครั้งอวี้จินจะช่วยออกหน้าแทนพวกเธอทุกอย่าง แต่ครั้งนี้กลับไม่ช่วยพูดอะไรให้เลย
อวี้จินทำเป็นไม่สนใจสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของเจี่ยงลี่ เมื่อกลับมาถึงบ้านเธอก็พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยไม่รู้เลยว่าในวันเดียวกันนั้น กู้อวิ๋นฟานได้ไปหาเธอที่โรงพยาบาลกาชาด แต่กลับคลาดกัน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างคิดไม่ตก เขาเพิ่งมาที่นี่ หากจะบุ่มบ่ามไปหาอวี้จินถึงบ้านก็คงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ อีกทั้งเธอคงจะจำเขาไม่ได้ ความสัมพันธ์ในชาติที่แล้วของเขาและเธอ อวี้จินก็คงจะจำมันไม่ได้เช่นเดียวกัน หากเขารีบไปพบเธอตอนนี้ ไม่เท่ากับถูกมองว่าเป็นคนบ้าคนโรคจิตหรอกเหรอ
รอเวลาก่อนดีกว่า
สองวันต่อมา อวี้จินสามารถลุกขึ้นมาเดินเหินและทำงานได้ตามปกติแล้ว ช่วงนี้ดอกไม้ที่สวนใกล้จะถึงช่วงเวลาให้เก็บเกี่ยวไปขายได้แล้ว เธอจะต้องไปจัดการแทนคุณย่า อีกทั้งสวนผักที่ปลูกเอาไว้ก็เริ่มให้ผลผลิตที่ดี ต้องรีบนำไปขายจะได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำ
"จินจิน ย่าว่าพักอีกสักวันสองวันเถอะ"
แม่เฒ่าอวี้เอ่ยกับหลานสาวที่ตอนนี้กำลังถือตระกร้าหวายและสะพายกระบุงเอาไว้บนบ่าด้วยท่าทางกระชับกระเฉง อวี้จินหันมายิ้มให้คุณย่าของเธอและเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
"ไม่เป็นไรค่ะย่า หนูทำไหวคะ ไม่ต้องห่วง ย่าพักเถอะค่ะ แล้วหนูจะซื้อของอร่อยมาฝาก"
"จ๊ะ"
แม่เฒ่าอวี้พยักหน้า ก่อนจะมองดูหลานสาวเดินออกไปจากบ้านมุ่งหน้าไปที่สวนดอกไม้และสวนผักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่
ระหว่างทางมีร้านขายขนมปังมื้อเช้ามาเปิดขายอยู่ร้านหนึ่ง ราคาชิ้นละแปดเฟิน อวี้จินซื้อมากินรองท้อง ก่อนจะเดินไปที่สวนอย่างไม่รีบไม่ร้อน ช่วงนี้ยังปิดเทอมอยู่ เธอจึงสามารถเดินเที่ยวเล่นได้อย่างใจเย็น
เมื่อมาถึงที่สวน อวี้จินก็จัดการช่วยเก็บเกี่ยวดอกไม้และผักบางส่วนให้คนงานนำไปขายที่โรงงานและตลาด คนงานที่สวนของเธอมีไม่กี่คน ส่วนมากจะเป็นชาวบ้านที่ตกงานไม่มีงานทำ คุณย่าของเธอใจดีจึงจ้างเขาทำงานโดนให้ค่าจ้างไม่กี่หยวน อีกไม่นานหากมีโรงงานมาเปิด พวกเขาก็อาจจะไปทำงานที่โรงงาน ได้ยินว่าบางที่จ่ายค่าจ้างสูงถึงยี่สิบแปดหยวนเลยทีเดียว
บรรยากาศที่เมืองซานซูค่อนข้างสงบร่มรื่น มีลมพัดอยู่ตลอดเวลา อวี้จินยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของตนเอง หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็เห็นว่าเจียงลี่และอวี้หลิงกำลังเดินเข้ามาในสวน ในมือของเจียงลี่ถือกล่องอาหารติดมือมาด้วย
"ที่รัก คุณกินอาหารกลางวันก่อนสิคะ ตายแล้วเหงื่อเต็มหน้าเลย"
"ขอบคุณครับ"
อวี้จินมองดูครอบครัวแสนสุขสันต์ตรงหน้าที่รักกันปานจะกลืนกินก็อดดูแคลนไม่ได้ ตอนนี้คนสวนกลับไปหมดแล้ว เหลือเพียงครอบครัวของเธอเท่านั้น
เจียงลี่หันมามองอวี้จิน ก่อนจะเอ่ย
"เด็กดี มานั่งข้างแม่เร็วเข้า"
อวี้จินยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงข้างกาย อวี้ตงมองลูกสาวคนโตครู่หนึ่ง เขาหยิบขนมปังอบขึ้นมาหนึ่งชิ้น แต่กลับไม่ได้มอบให้อวี้จิน แต่มอบให้อวี้หลิงแทน
อวี้ิจินไม่ได้รู้สึกอะไร เธอหมดศรัทธาในตัวพ่อคนนี้ไปตั้งแต่ชาติก่อนเสียแล้ว ความน้อยเนื้อเนื้อต่ำใจที่มีหายไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงความเย็นชาและห่างเหิน
เจียงลี่ลอบยกยิ้มมุมปาก เธอไม่เคยมีความรักและความหวังดีอะไรให้กับอวี้จินเลยแม้แต่น้อย กลับกันยังมองว่าอวี้จินเป็นหนามยอกอกที่ทำให้ครอบครัวของเธอไม่สมบูรณ์เสียด้วยซ้ำ
บ้านตระกูลอวี้นับว่ามีฐานะ วันหน้าสมบัติทุกอย่างจะต้องเป็นของเธอและลูก เธอจะไม่ยอมให้สมบัติทุกชิ้นกระเด็นไปอยู่ในมือของลูกเลี้ยงเป็นอันขาด
ที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ครอบครัวยากจน ต้องอดทนเป็นเมียลับๆของอวี้ตงมาหลายปี จนกระทั่งเมียของเขาตายจากไป เธอจึงได้แต่งงานกับอวี้ตงและเป็นภรรยาของเขาอย่างออกนอกหน้าเช่นทุกวันนี้
ทุกคนต่างชื่นชมที่เธอเป็นภรรยาที่ดีและเป็นคนใจกว้างรักลูกเลี้ยงประดุจลูกของตนเอง แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธออยากจะฆ่าอวี้จินให้ตายวันละหลายสิบรอบ แค่ลูกตัวเองก็เหนื่อยพอแล้ว ยังจะต้องมาเลี้ยงลูกคนอื่นอีก!
ยิ่งมีนังแก่แม่สามีคอยให้ท้าย เธอยิ่งแตะต้องอะไรอวี้จินไม่ได้เลย
"พี่คะ ฉันอิ่มแล้ว เราไปวิ่งเล่นกันเถอะ ตรงนั้นสวยมากเลย"
อวี้หลิงดึงแขนอวี้จินให้ไปวิ่งเล่นด้วยกัน อวี้จินมองอวี้หลิงด้วยสายตาที่เย็นชา เด็กเวรนี่อีกไม่นานก็จะมีอนาคตที่ดี แต่ฝันไปเถอะ ชาตินี้เธอจะดับฝันเด็กนรกนี่เอง!
ในขณะที่วิ่งเล่นกันอยู่นั่นอวี้หลิงก็ร้องไห้ขึ้นมา เมื่ออวี้จินหันไปมองก็พบว่าอวี้หลิงวิ่งไปสะดุดหินและหกล้มจนหัวเข่าแตก หล่อนร้องดังมากจนอวี้ตงและเจียงลี่ตกใจรีบวิ่งเข้ามาหาลูกสาวสุดที่รักทันที
"หลิงหลิง ลูกเป็นอะไร ไหนให้แม่ดูสิ"
เจียงลี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ อวี้ตงเองก็รีบเข้ามาดูอาการลูกสาวคนเล็ก เมื่อเห็นว่าที่หัวเข่าของอวี้หลิงมีเลือดออกก็โวยวายขึ้นมาทันที
"ลูกหกล้มเหรอ ให้ตายเถอะ จินจิน ลูกดูแลน้องยังไง ทำไมถึงปล่อยให้น้องเจ็บตัวได้"
อวี้จินถึงกับส่งเสียงเหอะออกมาทันที
"ทำไมอยู่ๆพ่อถึงโยนความผิดมาให้หนูแบบนี้ล่ะคะ อีกอย่างหนูไม่ใช่ญาติกับก้อนหินสักหน่อย จะได้บอกให้มันหลบอวี้หลิงได้"
อวี้ตงและเจียงลี่หันขวับมามองอวี้จินทันที แต่ไหนแต่ไรเด็กนี่ไม่เคยมีปากมีเสียง แต่ตอนนี้กลับกล้าเถียงพ่อแม่แล้ว
อวี้หลิงยิ่งร้องไห้หนัก ส่วนอวี้ตงก็เริ่มมีโทสะที่อวี้จินเถียงคำไม่ตกฟากแบบนี้
"แกกลายเป็นเด็กก้าวร้าวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!"
เพียะ
เอ่ยจบเขาก็ฟาดฝ่ามือลงมาที่แก้มซ้ายของอวี้จินอย่างแรงจนเธอหน้าหัน แก้มขาวเนียนปรากฏรอยแดงห้้านิ้ว เจียงลี่ลอบยิ้มอย่างดีใจก่อนจะเอ่ย
"ที่รัก อย่าทำแบบนี้ค่ะ จินจินคงไม่ตั้งใจ คุณต้องจัดการอย่างยุติธรรมสิคะ"
“คุณอย่าไปให้ท้ายมัน เพราะถูกโอ๋จนเคยตัวถึงได้ทำตัวไร้มรรยาทแบบนี้”
อีกด้านหนึ่ง กู้อวิ๋นฟานกำลังแอบมองสถาณการณ์อยู่ไกลๆ ด้วยแววตาเย็นชา หากลุงบัดซบคนนั้นกล้าตบหน้าอวี้จินอีกครั้ง เขาไม่สนแล้วว่าจะเป็นใครทั้งสิ้น จะต้องเอาคืนแทนอวี้จินให้ได้
"จำไว้อย่ามาเถียงฉันอีก"
อวี้ตงชี้หน้าอวี้จินอย่างไม่พอใจ อวี้จินยกยิ้มเย็นชา ก่อนจะตรงเข้าไปกระชากตัวอวี้หลิงออกมาจากเจียงลี่ จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าน้องสาวอย่างแรง จนอวี้หลิงมึนงง
เจียงลี่และอวี้ตงถึงกับชะงักไปชั่วขณะ
"จินจิน นี่แก้กล้าตบน้องเหรอ!"
"มากกว่านี้หนูก็กล้า หากพ่อยังไร้ความยุติธรรม ไม่ถามไถ่ให้ดีว่าเรื่องราวเป็นมายังไงก็ตบตีหนูแล้ว หนูไม่ผิด ในเมื่อพ่อจะหาคนมารับโทษในเรื่องนี้ ก็ต้องโดนตบด้วยกันทั้งสองคน นี่ถึงจะเรียกว่ายุติธรรม"
"อวี้จิน!"
"หากพ่อตบหน้าหนูอีกครั้ง หนูรับรองได้เลยว่า วันนี้หลิงหลิงได้หน้าช้ำกว่าเดิมแน่!"
อวี้ตงชะงักทำอะไรไม่ถูก มือที่ง้างขึ้นเตรียมจะตบอวี้จินกลับตกลงมาที่ข้างลำตัวช้าๆ
แต่ไหนแต่ไรลูกคนนี้ไม่เคยมีปากเสียง ไม่มีคำทัดทานจนเขาคิดว่าเธอไม่มีความรู้สึกอะไร
แต่คำพูดในวันนี้กลับแทงเข้ากลางใจของเขาอย่างจัง
อวี้จินบอกว่าเขาไม่มีความยุติธรรม
เจียงลี่ที่เห็นว่าอวี้หลิงถูกตบตีโทสะในใจก็เริ่มประทุ
"จินจิน ลูกทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ"
อวี้จินหันมายิ้มให้เจียงลี่ และเอ่ยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ไหนแม่บอกว่าเรื่องนี้ต้องจัดการอย่างยุติธรรมอย่างไงละคะ หรือว่าเพราะอวี้หลิงถูกตบ ความยุติธรรมที่มีน้อยนิดในใจของแม่ เลยเริ่มไม่หลงเหลือแล้ว”
เจียลี่ถึงกับพูดไม่ออก ที่ผ่านมาเธอทำตัวเป็นคนดีต่อหน้าสามีมาตลอด หากต้องแสดงกิริยาต่ำถ่อยต่อหน้าเขาเธอคงไม่อาจทำ สมบัติทุกชิ้นยังไม่ได้เป็นของเธอ ยังไงคงต้องอดทนไปก่อน
“จินจิน แม่เพียงแค่ไม่เห็นด้วยที่ลูกใช้ความรุนแรง”
“แล้วที่พ่อทำไม่ได้เรียกว่าใช้ความรุนแรงเหรอคะ”
ทุกคนถึงกับเอ่ยคำพูดอะไรไม่ออก อวี้จินไม่อยากจะสนใจคนพวกนี้แล้ว เธอจึงเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมามองพวกเขาอีก
กู้อวิ๋นฟานที่แอบมองอยู่ไม่ไกล ถึงกับยิ้มตาหยี
ให้ตายเถอะ ต้องอย่างนี้สิ แบบนี้เลย!
เอ๋ ว่าแต่ทำไมอยู่ดีดีจินจินของเขาถึงลุกขึ้นมาสู้คนกันนะ?
