บทที่ 5 ตบหน้าด้วยคำพูด
หลายวันผ่านไปภายในจวนเงียบสงบ ในเรือนที่ถูกตกแต่งเอาไว้อย่างดี ห้องขนาดกว้างบนเตียงมีร่างบางกำลังนอนหลับอยู่ อ้ายเหม่ยเดินเข้าไปปลุกร่างบางเมื่อวันนี้จางซื่อจะเรียกช่างมาวัดตัวของซูเซียว พอเห็นว่าหญิงสาวตื่นเรียบร้อยแล้วก็ยกน้ำเอาไปให้คนบนเตียงล้างหน้าบ้วนปากแล้วช่วยหญิงสาวสวมชุดทำผม
"ก่อนไปวัดตัวก็กินข้าวเช้าก่อนเถอะเจ้าค่ะคุณหนู" อ้ายเหม่ยเอยบอกพร้อมกับที่มีคนมาส่งสำรับอาหารพอดี อ้ายเหม่ยจึงตั้งสำรับอาหารก่อนจะเชิญให้ซูเซียวมานั่ง
ซูเซียวนั่งลงตรงหน้าสำรับอาหารก่อนจะมองดูหมูตุ๋นน้ำแดงและไก่ย่างอีกทั้งยังมีน้ำแกง จากที่ไม่ค่อยรู้สึกหิวเท่าไรก็ทำให้อยากอาหารขึ้นมาทันที มือบางหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบชิ้นหมูก่อนจะนำเข้าปากแล้วค่อยๆ เคี้ยวซึมซับรสชาติของอาหาร ชาติก่อนตอนที่นางได้เป็นชายาของกัวเจียอีไม่ว่าอาหารรสเลิศแค่ไหนนางก็ล้วนได้ชิมมาหมดแล้วแต่ไม่คิดเลยว่าตอนที่ถูกขังเอาไว้ในตำหนักเย็นแม้แต่โจ๊กดีๆ นางก็ไม่เคยได้ลิ้มรส ได้ย้อนเวลากลับมานางจะต้องหาความสุขใส่ตัวเสียบ้าง
"คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ อาหารไม่ถูกปากหรือเจ้าคะ" อ้ายเหม่ยเห็นเจ้านายสาวนิ่งเงียบไปก็คิดว่าอาหารอาจจะไม่ถูกปากจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"เปล่า ข้าแค่คิดว่าหมูตุ๋นจานนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน" หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะคีบชิ้นหมูขึ้นมาใส่ปากอีกครั้งแล้วเคี้ยวกลืนอย่างเอร็ดอร่อยทำเอาสาวรับใช้ทั้งสองคนดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นซูเซียวเจริญอาหาร เพราะตอนป่วยร่างกายของหญิงสาวซูบผอมลงไปไม่น้อยถ้าหากว่าได้กินอาหารดีๆ จะต้องกลับมามีน้ำมีนวลเหมือนเก่าแน่
"ถ้าหากว่าคุณหนูชอบ บ่าวจะให้อ้ายเสินไปนำมาอีกเจ้าค่ะ"
"ไม่ต้องหรอก แค่นี้ก็พอแล้ว" ซูเซียวเอ่ยบอกจบก็คีบอาหารเข้าปาก หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วซูเซียวก็เดินนำสาวใช้ทั้งสองไปที่เรือนของจางซื่อ ระหว่างทางที่เดินไปนางก็เจอเข้ากับซูเมิ่งเข้าพอดี ร่างบางจึงหยุดทักทายหญิงสาวเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองคนจะพากันเดินไปที่เรือนใหญ่
พอมาถึงเรือนซูเซียวก็เห็นซูหลันกับซูฉีมารออยู่ก่อนแล้ว ร่างบางเดินเข้าไปคารวะจางซื่อก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอช่างมาวัดตัว ซูเซียวฟังซูหลันกับซูฉีคุยกันถึงเรื่องผ้าที่อยากจะได้ใส่ไปงานเลี้ยงชมบุปผา เป็นธรรมดาที่สาววัยแรกแย้มอย่างพวกนางจะให้ความสนใจเกี่ยวกับการแต่งตัว แต่ซูเซียวที่เคยใช้ชีวิตมาชาติหนึ่งแล้วไม่ได้ตื่นเต้นกับงานเลี้ยงนี้สักเท่าไร หากจะมีเรื่องที่น่าสนใจก็คงจะเป็นหญิงชั่วชายโฉดคู่นั้นที่นางจะต้องเจอในวันไปงานเลี้ยง
"ฮูหยินเจ้าคะ ช่างวัดตัวจากหอปักผ้าเหม่ยซือมาแล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวจูสาวรับใช้ข้างกายของจางชื่อเข้ามารายงานให้เจ้านายทราบ พอจางซื่อได้ยินดังนั้นก็รีบเอ่ยปากบอกให้สาวรับใช้ไปเชิญช่างตัดเสื้อเข้ามาในเรือนทันที
"คารวะฮูหยินและคุณหนูเจ้าค่ะ" ช่างตัดเสื้อหน้าตาธรรมดาเดินเข้ามาโดยมีหญิงสาวอีกคนถือผ้าหลายพับเข้ามาด้วย พอซูหลันกับซูฉีเห็นว่ามีแต่ผ้าผืนสวยๆ ก็ตาลุกวาวขึ้นมาทันที ซูหลันคิดในใจว่านางจะต้องได้เลือกผ้าก่อนใคร นางจะต้องเด่นที่สุดในงานเลี้ยงนี้ให้ได้ จะได้เรียกสายตาจากคุณชายในงานให้มาชื่นชมนาง
"เจ้ารีบมาวัดตัวให้ข้า ระหว่างคอยพวกเจ้าก็ไปเลือกผ้ากันก่อนเถอะ" จางซื่อเอ่ยบอกกับช่างวัดตัวก่อนจะหันไปพูดกับบุตรสาวของตัวเองแล้วบุตรอนุ ถึงแม้จะเอ่ยบอกคุณหนูในจวนทุกคนแต่สายตาของนางก็หันไปทางซูหลันเสียมากว่า
"เจ้าค่ะท่านแม่" ซูหลันเหมือนจะเข้าใจคำพูดของมารดาจึงรีบรับคำก่อนจะเดินไปเลือกผ้าที่วางเอาไว้ ด้วยความที่เป็นหญิงสาววัยแรกแย้มซูหลันจึงเลือกเอาสีชมพูเนื้อผ้าดีที่สุดในกองมาถือเอาไว้ ส่วนซูฉีก็ไม่น้อยหน้าเลือกเนื้อผ้าดีรองลงมาจากซูหลัน ดังนั้นเนื้อผ้าที่ดีจึงตกไปอยู่ในมือของทั้งสองคน
"น้องสี่เจ้าเองก็เลือกก่อนข้าเถอะ" ซูเซียวเอ่ยบอกเมื่อเห็นซูเมิ่งยังยืนนิ่งไม่ยอมเลือกผ้าในกองออกมาเสียที ถึงแม้ผ้าเนื้อดีจะโดนซูหลันกับซูฉีเลือกไปแล้วแต่นางก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองถูกแย่งอะไรไป อย่างน้อยก็ยังเหลือผ้าอยู่หลายผืน ซึ่งเนื้อผ้าก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ซูหลันเลือกไปมากนัก
"จะได้อย่างไรกัน น้องสี่จะมาเลือกก่อนพี่ใหญ่ได้อย่างไร" ซูฉีได้ยินที่ซูเซียวเอ่ยบอกก็รีบพูดออกมาอย่างไว นางรู้สึกไม่ชอบซูเมิ่งเป็นอย่างมากเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมมาเข้าพวกด้วยกันกับนาง เอาแต่ทำตัวประจบสอพลอซูเซียวอยู่นั่นแหละ ไม่รู้ว่านางมีอะไรดีกว่าซูหลันบุตรสาวแท้ๆ ของฮูหยินกัน ให้นางไม่มีโอกาสได้เลือกน่ะดีแล้ว
"นั่นสิเจ้าคะพี่ใหญ่ เชิญพี่ใหญ่เลือกก่อนข้าเถอะเจ้าค่ะ" ซูเมิ่งก้มหน้าเอ่ยบอบอกเสียงเบาด้วยความกลัวว่าจะถูกซูฉีเล่นงาน หญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะสบตาใครด้วยความที่นางเป็นเพียงบุตของหญิงคณิกาจึงทำให้ตนเองรู้สึกด้อยค่ากว่าคนอื่นเสมอ
"ทำไมเจ้าจะเลือกก่อนข้าไม่ได้ ในเมื่อน้องรองกับน้องสามยังสามารถเลือกได้ก่อนข้าเสียอีก ให้เจ้าเลือก่อนอีกสักคนจะเป็นไรไป" พอซูหลันกับซูฉีได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง นี่ไม่ใช่ว่านางไม่มีมารยาทหรอกหรือ ซูหลันคิดด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ เรื่องอะไรที่นางจะให้ซูเซียวเลือกก่อน ข้าซูหลันเป็นถึงบุตรสาวของฮูหยินก็ต้องได้ของที่ดีที่สุดสิ
"เอาละ อย่ามัวเถียงกันเลย ข้าวัดตัวเสร็จแล้ว หลันเอ๋อร์เจ้าก็มาวัดตัวเสียสิ" จางซื่อเอ่ยขัดบทสนทนาทั้งหมด แถมยังจงใจเรียกซูหลันไปวัดตัว นี่ไม่เท่ากับว่าอีกฝ่ายเข้าข้างบุตรสาวของตนหรอกหรือ
"เจ้าค่ะท่านแม่" ซูหลันได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนสวรรค์มาโปรดรีบเอ่ยรับคำก่อนจะเดินเชิดหน้าผ่านซูเซียวกับซูเมิ่งไปทันที ซูเซียวแค่นเสียงหัวเราะออกมาในลำคอเล็กน้อยให้กับความให้ท้ายบุตรสาวของจางซื่อ นางอยากจะรู้เหลือเกินว่าคนอย่างซูหลันกับซูฉีจะมีจุดจบเช่นไรในชาตินี้
